benefits of passion fruit scaled

เสาวรส ผลไม้อุดมประโยชน์ กินแบบไหนได้บ้าง พร้อมข้อควรระวัง

เสาวรส หนึ่งในผลไม้รสเปรี้ยวอร่อยที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ คนนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ เพราะช่วยให้ความสดชื่น ดับกระหาย คลายร้อน แถมยังมีสรรพคุณอีกมากมายหลายข้อ 

บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับเสาวรสให้ดีขึ้น ทั้งประโยชน์หลากหลาย ไขข้อสงสัยว่าช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง แถมยังมีเมนูจากเสาวรสมาแนะนำ พร้อมข้อควรระวังในการกินเสาวรสด้วย มาดูกันเลย  

ทำความรู้จักกับเสาวรส

เสาวรส (Passion Fruit) เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบทวีปอเมริกาใต้ ลักษณะผลเป็นทรงกลม ผลอ่อนมีสีเขียว ส่วนผลที่สุกแล้วจะมีหลายสีตามแต่ละสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง สีเหลือง และสีส้ม มีกลิ่นคล้ายฝรั่งสุก

รสชาติเสาวรสจะออกเปรี้ยวจัด บางสายพันธุ์มีรสออกหวาน และมีเมล็ดจำนวนมาก อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด จึงให้คุณประโยชน์กับสุขภาพร่างกายในหลากหลายด้าน

คุณค่าทางโภชนาการของเสาวรส

จาก USDA Database entry ผลเสาวรส 100 กรัม จะให้พลังงานประมาณ 97 กิโลแคลอรี พร้อมด้วยวิตามินและสารอาหารที่สำคัญ ดังนี้

ประโยชน์ของเสาวรส

1. บำรุงสายตา

เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินเอ และมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีน (Beta carotene) ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันไม่ให้เซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี 

2. กระตุ้นระบบขับถ่าย

เสาวรสมีฤทธิ์กระตุ้นระบบขับถ่าย เนื่องจากอุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ทั้งยังมีส่วนช่วยในการขจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่อยู่ในร่างกาย 

อีกทั้งยังช่วยขจัดสารพิษ เสาวรสจึงเหมาะสำหรับการดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วย

3. เสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง

สำหรับใครที่ป่วยบ่อย ๆ ขอแนะนำให้ลองกินเสาวรสกันดู เพราะผลไม้ชนิดนี้ในปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 30 มิลลิกรัม คิดเป็น 36% ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน

เมื่อร่างกายได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอมากขึ้น ก็จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันหวัด แถมยังป้องกันโรคภูมิแพ้กำเริบได้ด้วย 

4. บำรุงหัวใจ

เสาวรส 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 348 มิลลิกรัม ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อเซลล์และของเหลวในร่างกาย

นอกจากนี้ เมื่อร่างกายได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะช่วยให้การทำงานของหัวใจ และความดันโลหิตเป็นปกติ

5. ป้องกันกระดูกพรุน

เสาวรสนั้นช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ด้วย เพราะมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง หนึ่งในเมนูที่ใคร ๆ ก็ดื่มได้ คือน้ำเสาวรสนั่นเอง

วิธีทำก็ง่าย ๆ แค่คั้นน้ำจากผลเสาวรสแก่จัด ใส่เกลือหรือน้ำตาลลงไปตามชอบ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ดื่มได้ทั้งวันแบบสบาย ๆ

นอกจากนี้ น้ำเสาวรสยังช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบ และเพิ่มความแข็งแรงให้ฟันได้อีกด้วย

6. ช่วยให้นอนหลับง่าย

การดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น โดยการจะดื่มให้ได้ประโยชน์นั้น ควรดื่มน้ำคั้นสด เติมน้ำตาล หรือเกลือลงไปเล็กน้อย แค่นี้ก็ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว

7. ช่วยลดน้ำหนัก

เพราะมีแคลอรีต่ำ เสาวรสจึงช่วยให้กินแล้วไม่อ้วน ให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกากใยสูง ทำให้กินแล้วรู้สึกอิ่ม ช่วยลดความอยากอาหาร ลดการสร้างไขมันใหม่ และช่วยสลายไขมันเก่าได้ดี

8. ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด 

สารสกัดจากเปลือกเสาวรสสีม่วงนั้นอุดมไปด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoid) ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย

การกินสารสกัดชนิดนี้วันละ 150 มิลลิกรัม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะทำให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดมีอาการดีขึ้น ไอน้อยลง อีกทั้งยังไม่พบผลข้างเคียงใด ๆ

ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่อยากลองกินเสาวรส ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง และไม่ควรหยุดกินหรือหยุดใช้ยาที่แพทย์สั่งโดยพลการเด็ดขาด 

เมนูเสาวรสเพื่อสุขภาพ 

ด้วยกลิ่นหอม ๆ พร้อมรสชาติเปรี้ยวจี๊ดถูกใจ ตบท้ายด้วยสรรพคุณดี ๆ ต่อร่างกายหลายข้อ เสาวรสจึงมักนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ รวมถึงเมนูอาหารว่างได้ด้วย ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 

1. สมูททีเสาวรสมะม่วง

วิธีทำก็ง่าย ๆ เพียงแค่ 

  1. เตรียมเสาวรส มะม่วงสุก กล้วยหอม และลูกพีช และเพื่อความสดชื่น อย่าลืมแช่เย็นผลไม้ทุกชนิดก่อนนำมาปั่นด้วย  
  2. เตรียมโยเกิร์ตและน้ำเปล่าไว้
  3. นำผลไม้ทั้ง 4 อย่างใส่ลงไปในเครื่องปั่น ตามด้วยโยเกิร์ตและน้ำเปล่า ปั่นให้ละเอียด 
  4. เทใส่แก้ว เท่านี้ก็พร้อมดื่มแล้ว

2. แยมเสาวรสผสมมะละกอ

เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินขนมปังเป็นมื้อเช้า วิธีทำมีดังนี้ 

  1. เตรียมเสาวรส มะละกอสุก น้ำตาลทราย และฝักวานิลลา
  2. หั่นมะละกอเป็นชิ้นใส่ลงในหม้อ ตามด้วยฝักวานิลา ใส่น้ำตาลทรายลงไป และปิดท้ายด้วยเนื้อเสาวรส
  3. ตั้งไฟกลางจนเดือด ใช้ช้อนไม้บดเนื้อมะละกอให้ละเอียด เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ แล้วลดไฟให้อ่อน
  4. ตักฝักวานิลาออก เมื่อเริ่มข้นก็ตักใส่แก้ว หรือขวดโหลที่สะอาดได้เลย 

3. ชามะนาวเสาวรส

สำหรับคนรักชา HDmall Blog แนะนำให้ลองนำเสาวรสมาทำเป็นชามะนาวกัน วิธีทำก็ง่าย ๆ เหมือนกัน ดังนี้

  1. เตรียมน้ำชา น้ำมะนาวคั้นสด น้ำตาลทราย มะนาวฝานบาง ๆ และน้ำแข็ง
  2. ผสมน้ำมะนาวคั้นสดลงไปในน้ำชา เติมน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลาย และพักไว้จนน้ำชาเย็นลง
  3. นำไปเทใส่แก้ว ตักเนื้อเสาวรสลงไปตามใจชอบ คนให้เข้ากัน ใส่มะนาวฝานบาง ๆ ลงไป ปิดท้ายด้วยการเติมน้ำแข็ง

เท่านี้ก็มีชามะนาวเสาวรสพร้อมดื่มในช่วงที่อากาศร้อน ๆ แล้ว รับรองวช่วยคลายร้อน ให้ร่างกายสดชื่นขึ้นแน่นอน 

4. เสาวรสนมสดสีม่วง

วิธีทำ

  1. เตรียมเสาวรส น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นองุ่น นมข้นจืด และน้ำแข็งบดสะอาด
  2. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่เครื่องปั่นและปั่นจนละเอียด
  3. เติมเกลือป่นเล็กน้อยเพื่อตัดรสเปรี้ยว เทใส่แก้วพร้อมดื่ม 

5. พุดดิ้งเสาวรส

เมนูของหวานอย่างพุดดิ้งเสาวรสก็ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. เตรียมนมสด น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เกลือ และน้ำเสาวรส
  2. ตอกไข่ไก่ใส่ในชาม ตามด้วยนมสด น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเสาวรส
  3. คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบางแล้วใส่ในแก้ว
  4. นำไปนึ่งด้วยหม้อหุงข้าวประมาณ 6–8 นาที เมื่อสุกแล้วให้พักไว้จนเย็น และนำไปแช่ในตู้เย็น
  5. ก่อนกิน ให้ราดด้วยเนื้อเสาวรสสด ก็เป็นอันเสร็จ

6. เค้กเสาวรส

วิธีทำ ดังนี้ 

  1. เปิดเตาอบเอาไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส 
  2. ร่อนแป้งเค้กและผงฟู ใส่เกลือเล็กน้อย ตามด้วยกรีกโยเกิร์ต น้ำตาลทราย ไข่ไก่ น้ำมันคาโนลา (Canola oil) ตบท้ายด้วยเสาวรส และน้ำอุ่น
  3. ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำเข้าเตาอบ 45 นาที
  4. เมื่อสุกแล้วก็นำออกจากเตาอบ ทิ้งไว้ให้เย็น และแกะออกจากพิมพ์
  5. ตั้งกระทะ ใส่ไวต์ช็อกโกแลตลงไป ตามด้วยน้ำเสาวรส และน้ำอุ่น คนให้ช็อกโกแลตละลาย 
  6. หลังจากเรียบร้อยแล้ว ก็นำซอสไวต์ช็อกโกแลตราดลงไปบนเนื้อเค้ก หั่นเป็นชิ้นพร้อมเสิร์ฟ

7. ทาร์ตเสาวรส

วิธีทำ

  1. เตรียมเสาวรส น้ำมะนาว น้ำตาลทราย
  2. เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ประมาณ 190 องศาเซลเซียส
  3. นำแป้งทาร์ตแช่เย็นไปอบประมาณ 15 นาที โดยวางกระดาษไขไว้ด้านบน
  4. ตีน้ำตาลทราย เสาวรส และน้ำมะนาวให้เข้ากัน ใส่ไข่ไก่ลงไป จากนั้นใส่ครีมข้น ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  5. กรองด้วยกระชอน เทส่วนผสมที่ได้ลงในแป้งทาร์ต นำเข้าเตาอบประมาณ 20 นาที
  6. เมื่อเสร็จแล้วนำออกมาพักจนเย็น โรยหน้าด้วยเสาวรส เท่านี้ก็พร้อมกินแล้ว

เสาวรสและสูตรพื้นบ้านรักษาโรค

นอกจากประโยชน์ทั่วไป ยังมีสูตรพื้นบ้านหลายประการที่ชี้ว่าเสาวรสใช้บำรุงสุขภาพและรักษาโรคได้ด้วย เช่น 

  • ถ่ายพยาธิ นำใบล้างสะอาดมาตำ และคั้นเอาแต่น้ำ ดื่มเป็นยาถ่ายพยาธิ
  • ถอนพิษ เนื้อไม้ของต้นใช้เป็นยาถอนพิษ และรักษาบาดแผล
  • แก้ไอ นำดอกมาใช้แก้ไอ และขับเสมหะได้
  • แก้ไข้ นำรากไปต้มน้ำแล้วกรองเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มแก้ไข้ หรือนำมาทารักษาผดผื่นคันก็ได้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันสูตร ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการใช้ส่วนต่าง ๆ ของเสาวรสเหล่านี้แต่อย่างใด ถ้าจะนำมาใช้ ก็ควรระมัดระวังไว้ด้วย และต้องล้างให้สะอาดก่อนเสมอ

นอกจากนี้ หากใช้แล้วเกิดอาการผิดปกติ ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที หรือถ้าจะให้ดีที่สุด เมื่อมีอาการเจ็บป่วยใด ๆ ให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี 

ข้อควรระวังในการกินเสาวรส

โดยทั่วไป การกินเสาวรสในปริมาณพอเหมาะไม่ได้เป็นอันตราย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ เช่น 

  • เสาวรสอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงในบางคน เช่น วิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ระดับของความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง หลอดเลือดอักเสบ และมีรายงานพบว่า เมื่อกินเสาวรสเข้าไป จะเกิดอาการง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน และหัวใจเต้นเร็ว 
  • ผลไม้นี้มีสารเคมีบางชนิดที่อาจส่งผลให้มดลูกหดตัวได้ ผู้มีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดกินเสาวรสอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะอาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น อาจไประงับฤทธิ์ยาสลบหรือยาตัวอื่น ๆ ต่อสมองในช่วงที่กำลังผ่าตัดและหลังจากผ่าตัดได้
  • เสาวรสอ่อนบางสายพันธุ์มีสารประกอบไซยาไนต์อยู่ที่เปลือก จึงห้ามกินแบบดิบ ๆ เด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 
  • แม้ว่าเสาวรสจะมีรสชาติเปรี้ยว แต่กลับเป็นผลไม้ที่มีปริมาณของน้ำตาลค่อนข้างมาก ไม่ควรกินปริมาณมากใครคั้งเดียว รวมถึงเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ปริมาณของน้ำตาลในร่างกายพุ่งสูงขึ้นได้

เสาวรส ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนรักสุขภาพ เพราะเต็มไปด้วยสารอาหาร และคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ แถมยังนำมาดัดแปลงได้ในหลากหลายเมนู ขอแค่กินในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับอาหารอื่น ๆ ด้วยก็พอแล้ว 

Scroll to Top