มาส์กหน้า ทางเลือกบำรุงผิวอย่างล้ำลึก


มาส์กหน้าดีไหม มาส์กหน้ามีกี่แบบ มาส์กหน้าทุกวันได้ไหม

การมาส์กหน้า เป็นอีกทางเลือกง่ายๆ สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก สามารถทำเองที่บ้านได้ หรือจะใช้บริการตามสถานความงามก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง โดยสำหรับผู้ที่ต้องการมาส์กหน้าเองที่บ้าน ก็สามารถหาซื้อมาส์กได้ทั่วไป โดยมักมีให้เลือกหลายรูปแบบและหลายสูตร หลายคนจึงไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจเลือกแบบไหนดี ดังนั้น HDmall ขอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมาส์กหน้าประเภทต่างๆ มาฝากกัน เพื่อเป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจ


เลือกอ่านข้อมูลการมาส์กหน้าได้ที่นี่

  • มาส์กหน้าคืออะไร?
  • มาส์กหน้าช่วยอะไร?
  • มาส์กหน้ามีกี่ประเภท?
  • มาส์กหน้าทุกวันได้ไหม?
  • ใครควรมาส์กหน้า?
  • การเตรียมตัวก่อนมาส์กหน้า
  • ขั้นตอนการมาส์กหน้าที่ถูกต้อง
  • การดูแลผิวหลังมาส์กหน้า
  • มาส์กหน้าครั้งละกี่นาที?
  • ควรมาส์กหน้าตอนไหนดี?
  • ข้อควรระวังของการมาส์กหน้า

  • มาส์กหน้าคืออะไร?

    การมาส์กหน้า คือการบำรุงผิวด้วยเซรั่มหรือสารบำรุงสูตรเข้มข้น ซึ่งเพิ่มเติมจากขั้นตอนการบำรุงผิวตามปกติ โดยตัวมาส์กจะมีความเข้มข้นของสารบำรุงผิวมากกว่าครีมบำรุงผิวธรรมดาทั่วไป และมีหลากหลายสูตร ทั้งสูตรที่สามารถผสมเองได้ หรือสูตรที่มีจำหน่ายอยู่แล้ว เพื่อช่วยบำรุงหรือแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุด ซึ่งในการเลือกซื้อมาส์ก ควรหาข้อมูลส่วนผสมและหารีวิวมาส์กที่สนใจก่อนที่ตัดสินใจซื้อ

    เช็กราคามาส์กหน้า

    มาส์กหน้าช่วยอะไร?

    ด้วยส่วนผสมที่เข้มข้น การมาส์กหน้าจึงช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามสารบำรุงที่ผสมอยู่ในแต่ละสูตร ซึ่งโดยทั่วไปจะช่วยดูแลผิว ดังนี้

    • ผิวนุ่มชุ่มชื้น แม้ว่าจะมีการใช้มอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้าในขั้นตอนประจำวันอยู่แล้ว แต่การมาสก์หน้าจะช่วยเติมน้ำเข้าสู่ชั้นผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าได้อย่างล้ำลึกขึ้น ทำให้ผิวนุ่ม ดูมีน้ำมีนวล อ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งลอก ผิวหยาบกร้าน ได้เป็นอย่างดี
    • ผิวกระชับ เต่งตึง การมาสก์หน้าจะช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว พร้อมช่วยลดปัญหาการเกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย ส่งผลให้ผิวหน้ากระชับ ยืดหยุ่น เต่งตึงขึ้น เหมือนผิวเด็ก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
    • ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส การมาส์กหน้าจะกระตุ้นผิวให้ได้รับออกซิเจนมากยิ่งขึ้น และช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียน ทั้งยังช่วยกำจัดเม็ดสีส่วนเกิน และปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ ช่วยลดรอยด่างดำ ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส เพิ่มออร่าให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี
    • ผิวสะอาด กระชับรูขุมขน ลดสิว การล้างหน้าเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกเท่าการมาส์กหน้า โดยมาส์กหลายชนิด จะมีคุณสมบัติช่วยในการขจัดสารพิษและดูดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน จึงช่วยลดสิว ช่วยกระชับรูขุมขน แก้ปัญหารูขุมขนกว้างได้เป็นอย่างดี
    • แต่งหน้าสวยเป็นธรรมชาติขึ้น ผลพลอยได้จากการใช้มาส์กก็คือการที่เครื่องสำอางไม่หลุดลอกง่าย ติดทนนานขึ้น แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น แต่งแล้วสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีผิวที่เรียบเนียนขึ้น กระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง ซึ่งเป็นผลจากผิวที่ได้รับการบำรุงอย่างเข้มข้นจากมาส์กนั่นเอง

    มาส์กหน้ามีกี่ประเภท?

    มาส์กหน้านั้นมีหลากหลายประเภท โดยมาส์กที่เป็นที่นิยมทั่วไป ได้แก่

    • มาส์กชีท (Sheet Mask) มาส์กชีท หรือ มาส์กแผ่น เป็นแผ่นมาส์กสำเร็จรูปเคลือบเซรั่มหรือสารบำรุงผิวไว้หลากหลายสูตร โดยทั่วไปแผ่นชีทจะผลิตจากวัสดุหลายรูปแบบ เช่น ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ จำพวกใยฝ้าย หรือใยไผ่ ซึ่งมีราคาไม่แพง หรือผลิตเซลลูโลสธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายเยลลี่บางๆ ตลอดจนแบบไฮโดรเจล ที่บางเบามาก แต่คงความสดชื่นได้เป็นอย่างดี เป็นต้น โดยมาส์กชีทนั้น ได้ความนิยมสูง เพราะใช้ง่าย และมีหลายสูตรให้เลือก จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว
    • มาส์กครีม (Cream Mask) มาส์กครีม มีลักษณะเป็นเนื้อครีมตามชื่อ ซึ่งมักมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ในเนื้อมาส์กด้วย จึงทำให้เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวธรรมดา สำหรับผู้มีผิวผสมก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่อาจไม่ต้องบ่อยนัก สำหรับผู้ที่มีผิวมันอาจไม่ค่อยชอบความหนักและความมันของเนื้อครีมเท่าไหร่นัก
    • มาส์กเจล (Gel Mask) มาส์กเจลจะมีลักษณะเนื้อเป็นเจลใส มีสัมผัสที่บางเบากว่าชนิดอื่น เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายในทุกสภาพผิว สามารถใช้เพื่อปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองได้ด้วย ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ผ่อนคลายผิว ช่วยฟื้นฟูผิว เติมความชุ่มชื้น ลดสิว ลดรอยหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใส
    • มาส์กโคลน (Mud Mask) ทั้งสีและเนื้อสัมผัสของมาส์กโคลนจะมีลักษณะคล้ายโคลนมาก มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า พร้อมช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน เวลาที่มาส์กจะทำให้ผิวหน้ารู้สึกแห้ง ตึง จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน และผู้ที่มีปัญหาสิว โดยเมื่อมาส์กเสร็จแล้ว จะรู้สึกว่าความมันบนใบหน้าลดลง ผิวหน้ากระชับ สดชื่น สบาย
    • มาส์กผง (Powder Mask) โดยทั่วไปมาส์กผงจะสกัดมาจากสมุนไพรธรรมชาติ มีลักษณะเป็นผงเหมือนชื่อ วิธีใช้คือนำมาส์กผงไปผสมกับน้ำสะอาดแล้วนำมานวดหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-20 นาที แล้วล้างออก มีคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวไม่มากในทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบาง
    • มาส์กบับเบิ้ล (Bubble Mask) มาส์กบับเบิ้ล มีลักษณะเป็นฟองฟู มีคุณสมบัติในการช่วยทำความสะอาดผิว ช่วยขจัดสิ่งตกค้างบนใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน หรือผู้ที่ใช้เครื่องสำอางที่ล้างออกได้ยาก เช่น ครีมรองพื้น หรือครีมกันแดด วิธีใช้คือนวดเบาๆ ที่หน้า จะรู้สึกถึงฟองฟูยุบยิบ พอกทิ้งไว้ได้ทั่วใบหน้าโดยเฉพาะทีโซน แล้วล้างออก จะรู้สึกว่าผิวสะอาด สดชื่น ช่วยลดปัญหาการเกิดสิวและริ้วรอย
    • สลีปปิ้งมาส์ก (Sleeping Mask) สลีปปิ้งมาส์ก มีคุณสมบัติในการเคลือบผิวเพื่อช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผิว ช่วยฟื้นฟูผิวในยามค่ำคืน เนื้อสัมผัสของมาส์กโดยทั่วไปจะคล้ายเซรั่มและมีความบางเบากว่าครีมบำรุงผิวทั่วไป ทำให้รู้สึกสบายผิว ไม่ทำให้อุดตันหรือเป็นสิว จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
    • มาส์กลอกออก (Peel Mask) มาส์กแบบลอกออกนี้ มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส วิธีใช้คือทาเนื้อมาส์กทิ้งไว้บางๆ จนเนื้อเจลแห้งสนิท จึงค่อยๆ ลอกออกมา โดยมาส์กเจล จะมีคุณสมบัติหลักในการลอกสิวเสี้ยน ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน โดยเฉพาะบริเวณทีโซน ช่วยลดความมันบนใบหน้า และขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวผสมและผิวมัน และผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยน ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบาง
    เปรียบเทียบมาส์กหน้าแต่ละแบบ

    มาส์กหน้าทุกวันได้ไหม?

    การมาส์กหน้าจะสามารถทำได้ทุกวันในกรณีเป็นมาส์กที่ผลิตมาเพื่อจุดประสงค์ในการบำรุงผิวเท่านั้น ซึ่งสามารถดูได้จากวิธีใช้บนฉลากของผลิตภัณฑ์

    แต่หากเป็นมาส์กสำหรับจุดประสงค์อื่น เช่น ลดสิว ลดจุดด่างดํา หรือเพิ่มความกระจ่างใส ควรใช้ตามที่ฉลากของผลิตภัณฑ์บอกไว้เท่านั้น เพราะสารที่ใช้แก้ปัญหาผิว คือการที่สารมีผลกระทำต่อจุดที่เป็นปัญหา หากใช้บ่อยกว่าที่กำหนดไว้ สารดังกล่าวอาจกระทำต่อผิวด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ผิวบาง เกิดการระคายเคือง กลายเป็นการทำร้ายผิว

    ทั้งนี้ ความถี่ของการมาส์กหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรปฏิบัติตามที่ฉลากบอกไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ใช้มาส์กได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

    ใครควรมาส์กหน้า?

    โดยทั่วไป ทุกคนสามารถมาส์กหน้าได้ โดยเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการหรือมีปัญหาดังต่อไปนี้

    • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
    • ผู้ที่มีผิวแห้ง หรือขาดความชุ่มชื้น และต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
    • ผู้ที่มีผิวมัน หรือมีรูขุมขนกว้าง ต้องการลดความมันบนใบหน้า ทำความสะอาดและกระชับรูขุมขน
    • ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ต้องการเติมความกระจ่างใส ให้กับใบหน้า
    • ผู้ที่ต้องการลดปัญหาสิว ลดรอยสิว

    การเตรียมตัวก่อนมาส์กหน้า

    การเตรียมตัวก่อนมาส์กหน้า แบ่งเป็น 2 ขั้นตอนคือ การเตรียมมาส์ก และ การเตรียมผิวหน้า

    ขั้นตอนที่ 1 เตรียมมาส์ก

    1. เช็กสภาพผิวและเลือกมาส์กให้ถูกประเภท โดยพิจารณาร่วมกับจุดประสงค์ว่าต้องการแก้ปัญหาอะไร หรือต้องการดูแลจุดใดเป็นพิเศษ เช่น ต้องการบำรุงผิว ก็สามารถใช้มาส์กชีทในสูตรต่างๆ ได้ หรือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ก็อาจเลือกมาส์กครีม หรือต้องการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกและกระชับรูขุมขน ก็เลือกใช้มาส์กโคลน เป็นต้น
    2. เตรียมมาส์ก ในขั้นตอนของการเตรียมมาส์กนี้ ทำได้ 2 วิธี คือ เลือกซื้อมาส์กสำเร็จรูป หรือสามารถผสมมาส์กด้วยตนเอง หากซื้อมาส์ก ก็ควรอ่านคำแนะนำก่อนใช้อย่างละเอียด แล้วทำตามอย่างเคร่งครัด
    3. จัดเก็บมาส์ก สามารถนำมาส์กมาแช่เย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรอ่านฉลาก หรือสอบถามจากผู้ขายอีกครั้งว่าสามารถนำมาส์กแช่เย็นได้หรือไม่ เพราะมาส์กบางสูตรไม่จำเป็นต้องแช่เย็น อีกทั้งสารบำรุงของบางสูตรเมื่อเจอกับความเย็นอาจทำให้มาส์กลดประสิทธิภาพลงได้

    ขั้นตอนที่ 2 เตรียมผิวหน้า

    1. ล้าง ล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดตามขั้นตอนการล้างหน้าปกติ เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอาง สิ่งสกปรกตกค้างและน้ำมันส่วนเกินออกให้หมด โดยเมื่อล้างเสร็จไม่ต้องบำรุงผิว
    2. ขัด หากไม่ได้ขัดผิวมานาน อาจใช้สครับขัดหน้าเบาๆ ก่อนเตรียมผิวขั้นต่อไป เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้สารบำรุงผิวในมาส์กซึมซาบลงในผิวหน้าได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความระคายเคืองได้
    3. เปิด เปิดรูขุมขน ด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ วางไว้บนหน้า จนผ้าหายร้อน เพื่อทำให้สารบำรุงผิวในมาส์กซึมลงในผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าที่ถูกต้อง

    เมื่อเตรียมมาส์กและเตรียมผิวหน้าพร้อมแล้ว มีขั้นตอนมาส์กหน้าที่แตกต่างกันไปเล็กน้อยตามประเภทต่างๆ ดังนี้

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กชีท

    1. ตัดหรือเปิดซองมาส์ก และหยิบมาส์กออกมาวางบนใบหน้า ค่อยๆ ดึงแผ่นมาส์กให้กระชับกับหน้า ไม่ให้มีรอยย่น
    2. มาส์กตามเวลาที่แจ้งไว้บนฉลาก โดยทั่วไปสำหรับมาส์กชีทจะอยู่ที่ 15-30 นาที ทั้งนี้ มาส์กแต่ละยี่ห้ออาจมีระยะเวลาไม่เท่ากัน ผู้ใช้ควรดูฉลากให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
    3. เมื่อครบระยะเวลาในการมาส์กแล้ว ให้นำมาส์กออกจากใบหน้าทันที หากมีเซรั่มเหลือบนแผ่นมาส์กหรือในซอง ให้นวดบนใบหน้าอีกเล็กน้อย และสามารถนำมาทาบำรุงที่คอ แขน หรือขาได้

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กครีม มาส์กโคลน มาส์กเจล

    1. เตรียมมาส์กในปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก และทาให้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะจุดที่ต้องการ
    2. มาส์กตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก โดยทั่วไปจะใช้เวลาตั้งแต่ 10-30 นาที
    3. เมื่อครบระยะเวลาในการมาส์กแล้ว ให้เช็ดหรือล้างมาส์กออก และล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อป้องกันผิวอุดตันจากความเข้มข้นของเนื้อมาส์ก

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กผง

    1. ผสมผงมาส์กกับน้ำเปล่าในภาชนะที่สะอาด ในปริมาณตามที่ระบุไว้ในฉลาก และคนส่วนผสมจนละลายเข้ากัน
    2. นำมาส์กทาให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก
    3. มาส์กตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในฉลาก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5 นาที
    4. เมื่อครบระยะเวลาในการมาส์กแล้ว ให้ล้างหน้าให้สะอาด

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กบับเบิล

    1. เตรียมมาส์กในปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก
    2. ทามาส์กให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก โดยควรทาอย่างรวดเร็ว
    3. เนื้อมาส์กจะเริ่มแตกตัวเป็นฟองอย่างรวดเร็ว ให้มาส์กตามเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก โดยทั่วไปประมาณ 3-5 นาที
    4. เมื่อครบระยะเวลาในการมาส์กแล้ว ให้ล้างหน้าให้สะอาด

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กแบบสลีปปิ้งมาส์ก

    1. ก่อนเริ่มมาส์กหน้าสามารถทาครีมบำรุงผิวสูตรกลางคืนได้ และสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งสามารถทาออยล์ร่วมกับการมาส์กหน้าได้
    2. เตรียมมาส์กในปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก และทาให้ทั่วใบหน้า พร้อมนวดเบาๆ
    3. ทิ้งมาส์กไว้บนใบหน้าจนกว่าจะตื่นนอน
    4. เมื่อตื่นนอนให้ล้างหน้าและบำรุงผิวตามขั้นตอนปกติ

    ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กแบบลอกออก

    1. เตรียมมาส์กในปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก และทาให้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะบริเวณที่ต้องการ
    2. มาส์กไว้ตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก โดยทั่วไปจะใช้เวลาตั้งแต่ 15-20 นาที
    3. เมื่อครบระยะเวลาในการมาส์กแล้ว ให้ค่อยๆ ลอกมาส์กออกมาในลักษณะเป็นแผ่น ซึ่งจะสามารถเห็นสิวเสี้ยนและสิ่งสกปรกหลุดติดออกมาด้วย
    4. ล้างหน้าให้สะอาด

    ทั้งนี้ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ เป็นขั้นตอนของมาส์กโดยทั่วไป แต่สำหรับมาส์กบางยี่ห้อ อาจทำออกมาเป็นสูตรพิเศษ และมีวิธีที่แตกต่างกันไป ผู้ใช้งานควรดูรายละเอียดบนซองผลิตภัณฑ์ก่อนใช้งานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

    มาส์กหน้า ราคาประหยัด

    การดูแลผิวหลังมาส์กหน้า

    เมื่อมาส์กหน้าและทำตามขั้นตอนทั้งหมดตามที่ระบุไว้ข้างฉลากหรือซองผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปสามารถบำรุงผิวต่อได้ตามต้องการ แต่สำหรับมาส์กบางประเภทหรือบางสูตร อาจมีวิธีดูแลผิวแตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยสรุปได้ดังนี้

    • มาส์กทั่วไป หรือมาส์กชีทสำหรับบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมการบำรุงหรือดูแลทุกปัญหา เมื่อใช้แล้ว ควรบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงผิวต่อ ตลอดจนสามารถใช้สารบำรุงที่ใช้แก้ไขปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ต่อได้ อย่างเช่น เจลแต้มสิว หรือครีมลดฝ้า
    • มาส์กสูตรเข้มข้นพิเศษ มาส์กประเภทนี้เมื่อมาส์กตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องบำรุงผิวเพิ่มเติม สามารถปล่อยให้สารบำรุงของมาส์กทำงานอย่างเต็มที่
    • มาส์กประเภทที่ต้องล้างหน้าหลังขั้นตอนการมาส์ก เช่น มาส์กโคลน มาส์กผง มาส์กแบบลอกออก หรือมาส์กบับเบิ้ล มาส์กประเภทนี้ เมื่อล้างหน้าแล้ว สามารถบำรุงผิวต่อตามขั้นตอนปกติได้เลย และดีต่อการบำรุงเพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนเปิด

    มาส์กหน้าครั้งละกี่นาที?

    ระยะเวลาที่ใช้ในการมาส์กหน้าแต่ละประเภทและแต่ละสูตรจะแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือควรใช้เวลาในการมาส์กหน้าตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และป้องกันการแพ้หรือระคายเคือง ซึ่งโดยปกติแล้ว มาส์กต่างๆ จะใช้เวลาดังนี้

    • มาส์กชีท ใช้เวลามาส์กประมาณ 15-30 นาที
    • มาส์กครีม ใช้เวลามาส์กประมาณ 10-30 นาที
    • มาส์กเจล ใช้เวลามาส์กประมาณ 10-20 นาที
    • มาส์กผง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
    • มาส์กบับเบิ้ล ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที
    • สลีปปิ้งมาส์ก มาส์กไว้ตลอดทั้งคืน
    • มาส์กแบบลอกออก ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

    ควรมาส์กหน้าตอนไหนดี?

    การมาส์กหน้า ควรทำเมื่อสะดวก และควรเป็นช่วงเวลาพักผ่อน ไม่รีบร้อน เพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ผิวหน้าก็จะรู้สึกผ่อนคลายไปด้วยและได้รับสารบำรุงผิวอย่างเต็มที่ ดังนั้น หลังจากเลิกงานหรือเสร็จสิ้นภารกิจต่างๆ ผ่านมลภาวะหรือแสงแดดมาทั้งวัน เวลาช่วงค่ำ หรือก่อนนอน จะเป็นเวลาที่ฟื้นบำรุงผิวที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดสำหรับการมาส์กหน้า

    ข้อควรระวังของการมาส์กหน้า

    • ต้องล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนมาส์กหน้า ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า เพื่อเตรียมผิวให้สะอาด และเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับสารบำรุงผิวอย่างเต็มที่ หากไม่ล้างหน้า นอกจากทำให้รับสารบำรุงได้ไม่เต็มที่แล้วยังอาจทำให้เป็นสิวจากสิ่งสกปรกหรือเมคอัพอุดตันได้อีกด้วย
    • อย่าทิ้งมาส์กไว้เกินเวลาที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ หลายท่านเข้าใจว่ายิ่งมาส์กนานยิ่งดี แต่จริงๆ แล้ว การมาส์กหน้านานจนเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหน้าด้วยซ้ำ เช่นถ้าเป็นมาส์กชีทที่เพิ่มความชุ่มชื้น เมื่อแผ่นมาส์กแห้ง ก็จะดึงความชุ่มชื้นจากผิวหน้ากลับไปแทน
    • อย่าลืมดูวันหมดอายุ ถ้ามาส์กหมดอายุแล้วก็ควรหยุดใช้ทันที และแม้ว่าหลายท่านจะนำมาส์กแช่ตู้เย็นไว้ เพราะเข้าใจว่าจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ แต่จริงๆ แล้ว วิธีจัดเก็บมาส์กโดยทั่วไป ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง และไม่โดนแสงแดด ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น เนื่องจากในสารบำรุงบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพลงได้เมื่อโดนความเย็น ทั้งนี้อาจดูได้จากฉลากบนผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามได้จากผู้ขาย
    • แผ่นมาส์กชีทไม่ควรใช้ซ้ำ เมื่อใช้มาส์กชีทไปแล้ว ไม่ควรเก็บแผ่นมาส์กไว้ใช้ซ้ำ เพราะเมื่อฉีกซองมาใช้แล้ว ตัวแผ่นมาส์กก็จะโดนอากาศ ฝุ่น หรือละอองสิ่งสกปรก และอาจเกิดแบคทีเรียได้ ซึ่งส่งผลร้ายต่อผิวหน้าอย่างแน่นอน ดังนั้นหากมีสารบำรุงเหลืออยู่ในซอง อาจเก็บไว้ใช้กับมาส์กเปล่าได้ หรือนำมาทาผิวบริเวณลำคอ หรือ แขน ขา ได้
    • หากแพ้ต้องหยุดทันที มาส์กที่ผ่านการรับรองจากอย.จะมีความปลอดภัยสูง แต่หากใช้มาส์กแล้วเกิดอาการแพ้ เช่น รู้สึกคัน ผิวบวม แดง อักเสบ มีผื่น หายใจลำบาก หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ให้หยุดใช้ และรีบไปพบแพทย์ทันที และหากเป็นผู้ที่แพ้ง่าย ควรทดสอบมาส์กที่แขนก่อนใช้ที่ใบหน้า

    การมาส์กหน้าสามารถทำที่บ้านเองได้ไม่ยาก แต่หากมีเวลาไม่มากนักในการหาซื้อมาส์ก หรือไม่มั่นใจว่ามาส์กนั้นจะเหมาะหรือตรงกับความต้องการของอย่างแท้จริงหรือไม่ ก็สามารถใช้บริการจากคลินิกเสริมความงามที่มีมาตรฐาน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คุณได้รับความสะดวกสบายแล้ว ยังสามารถให้คำปรึกษาและช่วยวิเคราะห์ใบหน้าได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ได้รับบริการมาส์กหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

    เช็กราคามาส์กหน้า

    เช็กราคาบริการมาส์กหน้า จากคลินิกและสถานเสริมความงามต่างๆ พร้อมบริการเช็กคิวทำนัดให้ฟรี โดยแอดมินของ HDmall.co.th


    บทความที่เกี่ยวข้อง


    ที่มาของข้อมูล

    ขยาย

    ปิด

    • ANDREA ARTERBERY, teenVOGUE, How to Apply Face Masks Properly: 8 Tips To Smooth Skin, (https://www.teenvogue.com/story/how-to-use-a-face-mask-dermatologist-tips), MARCH 19, 2020.
    • Lauren O'Connell, COSMOPOLITAN, (https://www.cosmopolitanme.com/beauty/the-low-down-on-all-the-different-face-masks), 12 different types of face masks for *every* skin concern November 19, 2020.
    • Nutrition Education and Training, 5 Benefits of Applying Face Masks for Skin Care, (https://iamherbalifenutrition.... Lyons, WebMD, How to Choose a Facial Mask, (https://www.webmd.com/beauty/features/how-to-choose-facial-mask), July 23, 2021.
    • Counter Calture, Different Types Of Face Masks Explained, (https://www.bigelowchemists.co... Chacon-Garbato LME — Director, Worldwide
    • healthline, How to Apply a Face Mask Correctly, (https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/how-to-apply-a-face-mask-correctly), October 11, 2019.
    @‌hdcoth line chat