คอมบูชา (Kombucha) หรือน้ำชาหมัก เป็นเครื่องดื่มที่ผ่านการหมักด้วยกระบวนการตามธรรมชาติ จนออกมาเป็นเครื่องดื่มรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีความซ่าเหมือนเครื่องดื่มอัดก๊าซ เนื่องจากกระบวนการหมักที่อาจทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
อย่างไรก็ตาม แม้คอมบุชาจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการควบคุมกระบวนการหมักให้อยู่ในช่วงที่แอลกอฮอล์ถูกเปลี่ยนเป็นกรดน้ำส้มทำให้ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่เลย หรือ หากมีแอลกอฮอล์ก็มีเพียง 0.5% เท่านั้น ซึ่งยังไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดตามนิยามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่
สารบัญ
ส่วนประกอบของชาหมักคอมบูชา
ส่วนประกอบหลักของเครื่องดื่มชนิดนี้คือ น้ำชาหมักและหัวเชื้อจุลินทรีย์พันธุ์ดี หรือที่เรียกว่า “สโคบี (Symbiotic Colony of Bacteria and Yeast: SCOBY)” ซึ่งเป็นส่วนผสมของยีสต์และแบคทีเรียจากผลไม้เปรี้ยว น้ำตาล และน้ำที่หมักรวมกันนาน 4-8 เดือน
สโคบี้จะทำหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลให้กลายเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบภายในร่างกาย
ขั้นตอนการหมักคอมบูชา
นำใบชามาต้มในน้ำเดือดเป็นเวลา 10-15 นาที กรองใบชาออก แล้วเติมน้ำตาล ทิ้งไว้จนเย็น ถ่ายใส่ภาชนะสำหรับหมักที่ไม่ใช่โลหะ
ก่อนเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงไปและหมักเป็นเวลาอย่างน้อย 7-15 วัน แต่ไม่นานเกินกว่านั้น เพราะรสชาติจะเปรี้ยวขึ้นตามระยะเวลาของการหมัก ยิ่งหมักไว้นานจะยิ่งเปรี้ยวเกินกว่าที่จะดื่มได้
ประโยชน์ของชาหมักคอมบูชา
ชาหมักคอมบูชามีต้นกำเนิดมากว่า 2,000 ปี และเคยใช้เป็นยาอายุวัฒนะของจีนในสมัยโบราณ ด้วยกระบวนการหมักทำให้เกิดจุลินทรีย์และยีสต์สายพันธุ์ดี หรือโพรไบโอติกส์จำนวนมาก จึงถือเป็นเครื่องดื่มที่มีโยชน์มากมาย เช่น
- ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารในร่างกาย เพราะโพรไบโอติกส์จะไปทดแทนจุลินทรีย์สายพันธุ์ดีในระบบย่อยอาหารที่สูญเสียไปจากหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานอาหารไม่สะอาด หรือการใช้ยาบางชนิด
- มีประโยชน์ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและช่วยเรื่องระบบขับถ่าย บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยการนอนหลับ ช่วยลดคอลเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ ลดการปวดไมเกรน บรรเทาอาการข้ออักเสบ
- จุลินทรีย์ชนิดดีจะช่วยปรับสมดุลในลำไส้ เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย รวมถึงบำรุงตับให้ทำหน้าที่ขับของเสียและสารพิษได้ดีขึ้น
- กระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและช่วยลดความเครียดได้ ด้วยวิตามินบีและวิตามินซี
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยมีงานวิจัยระบุว่า คอมบุชาช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ มีผลต่อไขมันดี (HDL) และไขมันไม่ดี (LDL) ซึ่งช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ดื่มชาหมักคอมบูชา อย่างไรให้ถูกวิธี?
การดื่มคอมบูชาให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ มีคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ควรดื่มก่อนรับประทานอาหาร 20-30 นาที หรือหลังมื้ออาหาร 1 ชั่วโมงตอนท้องว่าง ครั้งละ 200-300 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หรือเมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย
- หากดื่มเป็นครั้งแรกควรเริ่มจากปริมาณน้อย แล้วสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย ก่อนจะดื่มต่อและค่อยๆ เพิ่มปริมาณ
ข้อควรระวังในการดื่มคอมบูชา
แม้จะมีประโยชน์ปลายประการ ทั้งยังเชื่อกันว่า คอมบูชา จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่าง แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังมีงานวิจัยผลกระทบจากเครื่องดื่มชนิดนี้ในมนุษย์ไม่มากนัก
ด้วยหลักฐานที่แสดงให้เห็นผลต่อสุขภาพก็ยังมีจำกัด คอมบูชา จึงยังถือเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่มีข้อควรระวัง ดังนี้
- ผู้ที่ไม่ควรดื่ม ได้แก่ ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร เด็กที่อายุน้อยกว่า 4 ปี และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมกับตนเอง โดยควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนดื่ม
- ห้ามดื่มคอมบูชาที่หมักในภาชนะเหล็ก หรือเซรามิกเคลือบ เพราะวัสดุอาจทำปฏิกิริยากับกรดและปล่อยสารพิษออกมาได้
- การดื่มคอมบูชามากเกินไป หรือดื่มชาที่ผลิตโดยไม่มีคุณภาพ อาจทำให้มึนงง อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร หรือตับได้ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันที
- กรณีมีโรคประจำตัวอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนดื่ม
คอมบูชา (Kombucha) หรือ ชาหมัก ถือเป็นเครื่องดื่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ดังนั้นก่อนดื่มจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจวิธีการดื่ม การผลิต และการเลือกซื้ออย่างถูกต้อง
รวมถึงหากมีโรคประจำตัว มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลทุกครั้งก่อนดื่มคอมบูชา เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดจากคอมบุชา
ตรวจสอบความถูกต้องโดย ภกญ. สุภาดา ฟองอาภา