ยาเค Ketamine scaled

ยาเค (Ketamine)

ยาเค จัดเป็นยาเสพติดอีกชนิดที่หลายคนอาจรู้จักแค่ชื่อ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดการออกฤทธิ์ของมันว่า ส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน เรามาดูพร้อมกันว่า ยาเคเป็นยาอะไร มีโทษต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

ความหมายของยาเค

ยาเค เป็นชื่อมาจาก “ยาเคตามีน (Ketamine)” เป็นยาเสพติดสังเคราะห์ที่แต่เดิมถูกคิดค้นเพื่อใช้เป็นยาสลบสำหรับใช้ทางการแพทย์ ลักษณะเป็นยาผงสีชา หรือยาน้ำอยู่ในขวดสีชา

โดยปกติยาเคมักถูกใช้เป็นยาสลบสำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยจะฉีดเข้าเส้นเลือดประมาณ 1-2 มิลลิกรัม หรืออาจฉีดเข้ากล้ามเนื้อแทน แต่ก็มีกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดหลายคนที่ใช้ยาเคเป็นสารเสพติดแทน

เพราะนอกจากยาเคจะออกฤทธิ์ทำให้สลบแล้ว ยานี้ยังออกฤทธิ์ทำให้ผู้เสพรู้สึกหมดความวิตกกังวล หรือรู้สึกว่า ตนเองมีพลังอำนาจเหนือกว่าผู้อื่น

ผู้เสพบางรายรู้สึกว่า กำลังล่อยลอยอยู่กลางอากาศ รวมถึงยายังทำให้รู้สึกเมา ไม่ได้สติ ทำให้การรับรู้ การตอบสนองต่อแสง สี เสียง และสิ่งรอบตัวเปลี่ยนไป

ส่วนมากผู้เสพยาเคจะเสพยาผ่านการสูดผงยาเข้าจมูก ฉีดเข้าเส้นเลือด หรือผสมกับใบกัญชาเพื่อสูบเป็นบุหรี่อีกแบบ

นอกจากนี้ยาเคยังมีถูกใช้เพื่อล่วงละเมิดทางเพศด้วย เพราะผู้เสพจะไม่ได้สติ และเคลิบเคลิ้มไม่รับรู้กับสิ่งรอบข้าง จึงทำให้ยาเคได้รับชื่ออีกชื่อว่า “ยาเสียตัว”

ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยาเคจะอยู่ที่ประมาณ 30-60 นาที แต่ผลข้างเคียงของยาสามารถอยู่ได้นานถึง 24 ชั่วโมง

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาเค

ยาเคอาจทำให้ผู้เสพรู้สึกผ่อนคลาย และหมดความวิตกกังวล แต่ขณะเดียวกันยานี้ก็ส่งผลข้างเคียงร้ายแรงอีกมากมายต่อร่างกาย ได้แก่

  • สับสน มึนงง
  • สูญเสียความทรงจำ
  • เกิดภาวะซึมเศร้า
  • เกิดอาการตื่นกลัว หรือก้าวร้าว อาจรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้อื่น
  • หูแว่ว
  • เห็นภาพหลอน
  • ปวดศีรษะ
  • พูดจาไม่รู้เรื่อง
  • อ่อนเพลียมากผิดปกติ
  • เหงื่อออกมาก
  • ประสาทการรับกลิ่นแย่ลง
  • สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ รวมถึงการทำงานประสานกันระหว่างสมอง กับกล้ามเนื้อเกิดความผิดปกติ
  • ความดันโลหิตสูง
  • จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
  • มีไข้สูง
  • หายใจติดขัด
  • คลื่นไส้อาเจียน

ผู้ที่เสพติดยาเคอย่างหนักจะเกิดอาการลงแดงเมื่อขาดการเสพยาไประยะหนึ่ง และต้องการยาในปริมาณเพิ่มขึ้น การเสพยาเคเกินขนาดสามารถทำให้ผู้เสพกลายเป็นคนวิกลจริตได้ มีอาการไข้สูง ชักเกร็ง โคม่า หรือเกิดอาการช็อคจนเสียชีวิต

ยาเคเป็นยาเสพติดที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี จึงง่ายต่อการผสมกับเครื่องดื่มเพื่อก่ออาชญากรรม หรือล่วงละเมิดทางเพศ ผู้ค้ายาหลายรายมักลักลอบขโมยยาเคจากโรงพยาบาลแล้วนำไปขายให้กับผู้เสพยาต่อไป

นอกจากนี้การเสพยาเคยังเสี่ยงทำให้เกิดโรคติดต่อได้ผ่านการใช้เข็มฉีดยาเสพร่วมกัน เช่น โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบ การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี

การเลิกเสพยาเค

ผู้เสพยาเคที่ต้องการบำบัดยาเสพติดจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ หรือนักบำบัดเพื่อให้สามารถเลิกยาได้เด็ดขาด นอกจากนี้คนในครอบครัว คนใกล้ชิดผู้เสพ ก็สามารถมีส่วนทำให้การบำบัดยาเสพติดประสบผลสำเร็จด้วยได้

เพราะในระหว่างเลิกยา มีโอกาสที่ผู้เสพอยากจะกลับไปเสพยาอีกครั้งเพื่อลดความทุกข์ทรมานระหว่างเลิกยา การได้รับกำลังใจ และมีผู้คอยย้ำถึงประโยชน์ของการเลิกยาจะช่วยให้ผู้เสพมีจิคใจเข้มแข็ง และอยากเลิกยาให้สำเร็จได้

ป้องกันไม่ให้ตนเองเสี่ยงต่อการเสพยาได้อย่างไร? 

  • หากคุณได้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเสพยา โดยเฉพาะในงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ การไปเที่ยวตามสถานบันเทิงยามค่ำคืน หรือมีคนรู้จักชักชวนให้คุณลองเสพยาเค หรือยาเสพติดอื่นๆ ให้ปฏิเสธโดยเด็ดขาดและตรงไปตรงมา
  • การไปในสถานที่เหล่านี้ คุณควรระมัดระวังตนเองอย่างมากควรไปกับคนที่คุณไว้ใจได้เพื่อช่วยดูแลกันและกัน  เพราะเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการมอมยา ถูกปล้นทรัพย์ หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศได้
  • ในช่วงที่เกิดความเครียดอย่างหนัก ปัญหาต่างๆ รุมเร้า ถือเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการตัดสินใจประชดชีวิตในแบบต่างๆ มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสพยา ดังนั้นจึงเป้นช่วงที่คุณต้องระมัดระวังตนเองให้ดี
  • แนะนำว่าหากรู้สึกว่า ตนเองกำลังเครียด หาทางออกให้ปัญหาไม่ได้ นอกจากการปรึกษาคนใกล้ชิด คนในครอบครัวแล้ว การปรึกษาจิตแพทย์เรื่องปัญหาความเครียด หรือภาวะทางอารมณ์ ก็ถือว่า เป็นทางออกที่ดี เพราะอย่างน้อยๆ จิตแพทย์จะทำหน้าที่เป้นทั้งผู้รับฟังที่ดีและผู้ให้คำปรึกษาที่ดีสำหรับคุณ
  • อย่าเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาหยิบยื่นยาเสพติดให้กับคุณ หรือหากมีการยื่นเครื่องดื่มแปลกๆ จากผู้ที่ไม่น่าไว้วางใจ ให้ปฏิเสธที่จะดื่มด้วยเช่นกัน เพราะมันอาจผสมยาเค หรือสารเสพติดที่เป็นอันตรายอื่นๆ อยู่ได้

ยาเคจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ซึ่งหากครอบครองอย่างถูกวัตถุประสงค์ก็ถือว่า ถูกกฎหมาย แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่หากมีไว้ครอบครองอย่างผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจหาสารเสพติด จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top