ช่องคลอดหลวมพบได้มากขึ้นในผู้หญิงหลายช่วงวัย ปัญหานี้ไม่เพียงแต่สร้างความกังวลใจ ทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงปัญหาสุขภาพ อย่างกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ดเวลาไอจาม บางคนอาจกระทบกับความสัมพันธ์กับคู่รักอีกด้วย
แต่ก่อนวิธีกระชับช่องคลอดมักจะเป็นการผ่าตัด หรือมักเรียกว่า รีแพร์ การผ่าตัดรีแพร์ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ช่องคลอดฟิต ช่องคลอดกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัดอยู่หลายวิธี เราไปรู้จักกับวิธีเพิ่มความกระชับช่องคลอดแบบอื่น ๆ กัน
สารบัญ
ช่องคลอดหลวม คืออะไร
ก่อนอื่นเรามารู้กันก่อนว่าช่องคลอดหลวม ช่องคลอดไม่ฟิต ไม่กระชับ คืออะไรกันนะ ช่องคลอดหลวมเป็นการเคลื่อนหรือหย่อนของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานต่ำกว่าปกติ นั่นก็คือ มดลูก ผนังช่องคลอด หรือเป็นได้ทั้งคู่
ปัญหาช่องคลอดหลวมเพียงเล็กน้อยอาจไม่ก่อให้เกิดอาการ หรือบางคนจะรู้สึกหลวม ๆ ในช่องคลอดตลอดเวลา มีลมออกมาทางช่องคลอด รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
รวมถึงอาจมีอาการผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเล็ดขณะไอจาม ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด ในรายที่อาการรุนแรงอาจมีบางส่วนยื่นพ้นช่องคลอดออกมาภายนอก และยังทำให้มีอาการปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย
สาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดหย่อน
ช่องคลอดหลวมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการคลอดบุตรตามธรรมชาติ ทำให้กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดขยายออกเป็นเวลานาน และไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ โดยเฉพาะคนที่คลอดยาก ๆ หรือต้องใช้เครื่องมือช่วยคลอด
ปัญหาช่องคลอดหลวมยังมักเกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงลดลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เนื้อเยื่อภายในช่องคลอดเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อย
รวมถึงปัญหาสุขภาพหรือพฤติกรรมที่เพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น โรคอ้วน อาการไอเรื้อรัง หรือการยกของหนักเป็นประจำ ก็มีส่วนทำให้ช่องคลอดหลวมได้เช่นกัน เพราะความดันในช่องท้องที่มากขึ้นจะไปกดให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน และช่องคลอดเกิดการยืดตัวมากขึ้นจนหย่อนคล้อยนั่นเอง
นอกจากนี้ ผู้หญิงบางคนอาจมีเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้อช่องคลอดอ่อนแอโดยกำเนิด ก็เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดปัญหาช่องคลอดหลวมได้ด้วย
ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดไม่กระชับ ส่งผลอย่างไร
แม้ปัญหาช่องคลอดหลวมจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ก็ส่งผลกระทบในระยะยาวได้หากไม่รักษา ทั้งด้านจิตใจ ความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องของสุขภาพ
อีกทั้งการมีช่องคลอดที่กระชับสามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจในกิจกรรมทางเพศ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง และยังช่วยในเรื่องการกลั้นปัสสาวะสำหรับคนที่มีความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงหลายคนรู้สึกเขินอายที่จะไปพบแพทย์ บ้างก็กลัวที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ช่องคลอดหลวมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกวัย สามารถแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัญหาช่องคลอดในแต่ละคน
7 วิธีเพิ่มความฟิตให้ช่องคลอด มีอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงวิธีการกระชับช่องคลอด หลายคนคงคิดถึงการกระชับช่องคลอดด้วยการผ่าตัดรีแพร์ แต่ปัจจุบันมีวิธียกกระชับช่องคลอดได้หลายวิธี มีทั้งแบบที่ทำได้ด้วยตัวเอง การใช้เทคโนโลยีกระชับช่องคลอด และแน่นอนว่าการผ่าตัดรีแพร์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งด้วยเช่นกัน
1. กระชับช่องคลอดด้วยการฝึกขมิบ
การขมิบเป็นการออกกำลังกายที่เน้นบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบช่องคลอด และบรรเทาอาการ เหมาะกับคนที่มีอาการไม่มาก แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2–3 เดือนขึ้นไป
วิธีการขมิบที่ถูกต้อง คือจะต้องขมิบกล้ามเนื้อรอบ ๆ ช่องคลอด โดยไม่ต้องเกร็งหน้าท้องและหลัง พร้อมกับหายใจเข้า-ออกลึก ๆ นับ 1-10 แล้วปล่อย นับเป็น 1 เซท ทำซ้ำให้ครบ 45 ชุด
อีกวิธีคือ การจับเวลา ทำเช่นเดียวกับการขมิบแบบแรก ขมิบกล้ามเนื้อรอบ ๆ ช่องคลอด โดยไม่ต้องเกร็งหน้าท้องและหลัง พร้อมกับหายใจเข้า-ออกลึก ๆ นับ 1-10 แล้วปล่อย ทำวันละ 3 เซท
2. การใส่อุปกรณ์ช่วยพยุงในช่องคลอด (Pessary)
อุปกรณ์ช่วยพยุงในช่องคลอดจะช่วยพยุงส่วนของผนังช่องคลอดและอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานที่หย่อนลงมา และอาจช่วยบรรเทาอาการปัสสาวะเล็ดร่วมด้วยได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาอวัยวะอุ้งเชิงกรานหย่อน แต่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือรอผ่าตัด
อุปกรณ์ช่วยพยุงในช่องคลอดมีหลายรูปแบบ หลายขนาด ทำมาจากซิลิโคน สามารถถอดออกมาจากช่องคลอด และทำความสะอาดก่อนใส่กลับเข้าไปในช่องคลอดใหม่ได้ โดยแพทย์จะเป็นคนเลือกชนิดของอุปกรณ์ วัดและเลือกขนาดของอุปกรณ์ให้เหมาะกับช่องคลอดแต่ละคน
เพราะขนาดที่ไม่พอดีอาจทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง หากเล็กเกินไปก็อาจทำให้หลุดง่ายระหว่างปัสสาวะหรืออุจจาระ หากขนาดใหญ่เกินไปอาจทำให้เจ็บหรือแน่นช่องคลอดได้
3. เลเซอร์กระชับช่องคลอด หรือมินิรีแพร์
เลเซอร์กระชับช่องคลอด หรือมินิรีแพร์ เป็นวิธีกระชับช่องคลอดด้วยการใช้คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีความร้อนในระดับที่กระตุ้นการสร้างใหม่ของคอลลาเจนและอีลาสติน และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณช่องคลอด ทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อภายในช่องคลอดฟื้นฟู มีความกระชับมากขึ้นกว่าเดิม
การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดจะต้องสอดหัวเครื่องเข้าไปภายในช่องคลอด เพื่อปล่อยคลื่นพลังงาน คล้ายกับการตรวจภายใน ใช้เวลาในการทำไม่นาน ประมาณ 15 นาที ไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
4. การกระชับช่องคลอดด้วยคลื่นวิทยุ (Rradio frequency: RF)
เป็นการส่งคลื่นพลังงานวิทยุเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีการเรียงตัวที่ดีขึ้น และเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้ผนังช่องคลอดแข็งแรงและกระชับขึ้น เลือดไหลเวียนสะดวก และยังช่วยลดอาการช่องคลอดแห้ง
การกระชับช่องคลอดด้วยคลื่นวิทยุใช้เวลาทำไม่นาน และไม่ต้องมีการเตรียมตัวเป็นพิเศษเช่นเดียวกับเลเซอร์กระชับช่องคลอด เมื่อทำต่อเนื่องจะช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดกระชับมากขึ้น
5. เทคโนโลยีกระชับช่องคลอดด้วย HIFU
HIFU หรือ High intensity focused ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อยกกระชับผิวหนัง ปรับหน้าเรียว และลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากผิวหน้าแล้ว สามารถทำได้เกือบทุกส่วนที่ต้องการให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง รวมถึงช่องคลอดของเราด้วย
HIFU จะปล่อยคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงลงไปในผิวชั้นลึกถึง SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อพังผืดบาง ๆ รองรับผิวทั้งหมดไว้ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ จึงมีผลอย่างมากต่อความกระชับหรือหย่อนคล้อยของผิว
การทำ HIFU มีความปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก ไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่ก่อให้เกิดรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังทำ ถือเป็นอีกทางเลือกในการยกกระชับช่องคลอด
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทำ HIFU กระชับช่องคลอด
6. เทคโนโลยีกระชับช่องคลอดด้วยคลื่นแม่เหล็ก
การกระชับช่องคลอดด้วยคลื่นแม่เหล็ก หรือบางคนอาจเรียกเก้าอี้คลื่นแม่เหล็ก เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกระชับช่องคลอด และแก้ปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่แข็งแรง จนส่งผลให้กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะเล็ด
การกระชับช่องคลอดด้วยเก้าอี้คลื่นแม่เหล็กมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นั่งบนเก้าอี้ ประมาณ 30 นาที ไม่ต้องถอดเสื้อผ้า หรือใส่อุปกรณ์ใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย ตัวเก้าอี้จะมีการฝังอุปกรณ์ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้ปล่อยคลื่นพลังงานไปกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อช่วงอุ้งเชิงกรานขณะนั่ง
ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวและคลายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คล้ายกับการขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานในหลักหมื่นครั้ง ภายใน 30 นาที ซึ่งการขมิบปกติไม่สามารถทำได้
7. การผ่าตัดรีแพร์ หรือการผ่าตัดกระชับช่องคลอด
การผ่าตัดรีแพร์แทบจะเป็นวิธีแก้ปัญหาช่องคลอดหลวมวิธีแรก ๆ เลยก็ว่าได้ ส่วนมากแล้วจะเป็นการผ่าตัดผ่านทางช่องคลอดมากกว่าทางหน้าท้อง โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาผนังช่องคลอดส่วนที่หย่อนออก และเย็บตกแต่งให้ผนังช่องคลอดกลับเข้าตำแหน่งเดิม
การผ่าตัดรีแพร์นั้นก็ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ปกติแล้วมักจะอยู่นาน 5–10 ปี เมื่อเทียบกับวิธีอื่นแล้ว การผ่าตัดรีแพร์อาจต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงได้สูงกว่า และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนานกว่า
เลือกกระชับช่องคลอดด้วยวิธีไหนดี
การเลือกวิธีการชับช่องคลอดที่เหมาะกับตัวเอง จะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ความรุนแรงของปัญหาช่องคลอดหย่อน อายุ ความพร้อมของสุขภาพ อีกทั้งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน รวมถึงต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ปัญหาช่องคลอดหย่อนไม่รุนแรงหรือเป็นในระยะแรก สามารถออกกำลังเสริมกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานด้วยการฝึกขมิบได้ แต่ต้องใช้วินัย ความอดทน และการทำอย่างสม่ำเสมอถึงจะเห็นผล หรือปรึกษาแพทย์ถึงการใส่ห่วงพยุงในช่องคลอด
ถ้าอยากเห็นผลเร็วขึ้นอาจเลือกกระชับช่องคลอดด้วยวิธีที่ไม่ผ่าตัดได้เช่นกัน ให้ผลลัพท์หลังทำได้ดี เร็วขึ้นมากกว่า ใช้เวลาพักฟื้นน้อยหรือไม่ต้องพักฟื้นเลย เพราะไม่ต้องผ่าตัด แต่จำเป็นต้องทำต่อเนื่อง ส่วนคนที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนรุนแรง อาจต้องใช้การผ่าตัด
ก่อนจะตัดสินใจแก้ปัญหาช่องคลอดหลวมด้วยวิธีไหน ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อน เพราะปกติแล้วจะต้องมีการสอบถามอาการผิดปกติ ร่วมกับการตรวจภายใน ทำให้แพทย์จะช่วยวินิจฉัยสุขภาพช่องคลอด และให้คำแนะนำถึงวิธีกระชับช่องคลอดที่เหมาะกับปัญหาสุขภาพของคุณมากที่สุด
ไม่ต้องเขินอาย น้องสาวไม่ฟิต ไม่กระชับ ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทาง ประเมินก่อน ดูราคาและเปรียบเทียบแพ็กเกจกระชับช่องคลอด หรือหาโปร หาแพ็กเกจไม่เจอ ถามแอดมินได้ พร้อมดูแลคุณทุกวันทางไลน์