ทำ ReLEx ผ่าตัดรักษาสายตา เจ็บตัวน้อย ภาพคมชัด scaled

ทำ ReLEx ผ่าตัดรักษาสายตา เจ็บตัวน้อย ภาพคมชัด

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาสั้น เอียง แบบถาวร มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำเลสิก การทำ PRK หรือการทำ IOL

การผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาสายตาเหล่านี้เห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น อาจเกิดการระคายเคืองหลังการผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นนาน

ด้วยเหตุนี้จึงมีการพัฒนาแก้ไขเรื่อยมาเพื่อลดข้อจำกัดเหล่านั้นจนเกิดนวัตกรรมล่าสุดคือ “การทำ ReLEx” ซึ่งเป็นการผ่าตัดรักษาสายตาที่มีความแม่นยำสูง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดกระจกตา เจ็บตัวน้อยใช้เวลาผ่าตัด และพักฟื้นไม่นาน

การทำ ReLEx คืออะไร?

ReLEx (Refractive Lenticule Extraction) หรือมีชื่อเรียกอื่น คือ Small incision lenticule extraction (SMILE) หรือที่เมื่อก่อนเรียกว่า Femtosecond lenticule extraction (FLEx)

เป็นการแก้ไขปัญหาสายตาสั้น หรือเอียง โดยการปรับเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาด้วยแสงเลเซอร์ นับเป็นนวัตกรรมที่พัฒนามาจากการทำเลสิก (Lasik) โดยลดผลข้างเคียงและข้อจำกัดในการทำเลสิกลง

เช่น ลดขนาดแผลผ่าตัดลงเหลือ 2-4 มิลลิเมตร ทำให้รบกวนกระจกตาน้อยมาก

การทำ ReLEx เหมาะกับใคร?

การทำ ReLEx นับว่า มีข้อจำกัดค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาสายตารูปแบบอื่น โดยเหมาะสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้

  • มีอายุ 18-60 ปี และมีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี (หากอายุน้อยกว่า 20 ปี ต้องมีผู้ปกครองเข้ารับฟังข้อมูลการรักษาและเซ็นต์ยินยอมให้เข้ารับการผ่าตัด)
  • มีค่าสายตาสั้น หรือเอียงระหว่าง 100-1300
  • ไม่มีโรคเกี่ยวกับตาที่ร้ายแรง เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตาแห้งอย่างรุนแรง
  • ไม่มีโรคอื่นๆ ที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี โรคสะเก็ดเงิน
  • ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หากต้องการผ่าตัดสายตาหลังคลอดบุตรต้องรอให้ประจำเดือนมาติดต่อกันอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายกลับมาเป็นปกติ
  • ไม่อยู่ระหว่างการใช้ยารักษาอาการทางจิตเวช

การเตรียมตัวก่อนการทำ ReLEx

แม้ว่า การทำ ReLEx จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและแผลผ่าตัดเล็ก แต่ก็จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวในเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ดังนี้

  • งดสวมคอนแทคเลนส์แบบนิ่มอย่างน้อย 3 วัน หรือคอนแทคเลนส์แบบแข็งอย่างน้อย 7 วัน ก่อนตรวจสภาพตาและก่อนผ่าตัด
  • งดยารักษาสิวกลุ่มไอโซเตรตินอยน์ (Isotretinoin) เช่น Roaccutane, Acnotin, Isotret ก่อนวันตรวจสภาพตาและก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากยาชนิดนี้จะส่งผลให้เยื่อบุต่างๆ แห้งกว่าปกติ รวมถึงผิวกระจกตาด้วย
  • หากรับประทานยาโรคประจำตัวอยู่ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต ไขมัน ไทรอยด์ ควรแจ้งจักษุแพทย์ในวันตรวจโดยละเอียด เพื่อให้แพทย์ประเมินการใช้ยาต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องหยุดยา

ทั้งนี้ ในวันตรวจประเมินสายตาโดยละเอียดจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง มีขั้นตอนดังนี้

  • ตรวจวัดค่าความสั้น เอียง ของสายตา
  • ตรวจวัดค่าความดันลูกตา
  • ตรวจค่าความโค้งความหนาของกระจกตา
  • ตรวจค่าความเพี้ยนในการรวมแสงระดับสูง
  • ตรวจวัดระดับการมองเห็น
  • ตรวจวัดค่าความผิดปกติของสายตาก่อนและหลังการขยายม่านตา
  • ตรวจและประเมินสภาพตาโดยละเอียดโดยจักษุแพทย์

ทั้งนี้ในวันที่มาตรวจประเมินสายตา ผู้เข้ารับการตรวจควรมาพร้อมญาติ หรือผู้ติดตาม เนื่องจากจะมีการหยอดยาขยายม่านตาซึ่งอาจทำให้การเดินทางลำบาก และควรนำแว่นกันแดดมาด้วย

ในวันผ่าตัดควรสวมเสื้อที่มีกระดุมหน้าและล้างหน้า สระผมให้พร้อม งดแต่งหน้าโดยเฉพาะรอบดวงตา งดฉีดน้ำหอม และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ขั้นตอนการทำ ReLEx

การทำ ReLEx เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการแก้ไขปัญหาสายตาสั้นหรือเอียง ใช้เวลารักษาไม่นานประมาณ 15 นาที มีขั้นตอนดังนี้

  1. แยกชั้นกระจกตา แพทย์จะใช้เฟมโตเซเคินเลเซอร์ (Femtosecond Laser)* ตัดแยกชั้นกระจกตาเป็นแผ่นบางๆ เรียกว่า “เลนติคูล (Lenticule)” ซึ่งเลเซอร์จะตัดชั้นกระจกตาเพื่อปรับแต่งความโค้งของกระจกตาค่าที่คำนวณไว้ โดยไม่มีการเปิดผิวกระจกตาด้านนอก (ต่างจากเลสิกที่จะมีการผ่าตัดเปิดผิวกระจกตาก่อนจะยิงเลเซอร์เพื่อปรับแต่งความโค้ง)
  2. แพทย์จะใช้เลเซอร์กรีดผิวกระจกตาเป็นช่องเล็กๆ ขนาด 2-5 มิลลิเมตร เพื่อดึงเลนติคูลออก
  3. แพทย์จะปิดฝาครอบตาไว้เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน หลังจากนั้นจึงให้ผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้าน

*เฟมโตเซเคินเลเซอร์เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถกำหนดเป้าหมายและรูปแบบที่ต้องการตัดได้อย่างแม่นยำ ไม่เกิดความร้อนระหว่างยิง และไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อตาโดยรอบ

การดูแลตัวเองหลังการทำ ReLEx

แม้ว่า การทำ ReLEx จะมีแผลเล็กมาก แต่ก็จำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ดังนี้

  • 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัดควรพักผ่อนให้มากๆ ห้ามนำฝาครอบตาออกเองโดยเด็ดขาด
  • 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำ หรือฝุ่นเข้าตา และห้ามขยี้ตาโดยเด็ดขาด
  • ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นละอองมาก หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรสวมแว่นตากันลมเพื่อป้องกันฝุ่นและลมเข้าตา
  • งดแต่งหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาเป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • งดว่ายน้ำเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และงดดำน้ำเป็นเวลา 1 เดือน
  • หยอดยาปฏิชีวนะและน้ำตาเทียมตามคำแนะนำของแพทย์

ทั้งนี้หลังการผ่าตัด แพทย์จะนัดเพื่อติดตามอาการตามระยะเวลา 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และ 2 ปี

การทำ ReLEx มีข้อดีอย่างไร?

การทำ ReLEx เป็นวิธีแก้ไขสายตาที่ช่วยลดข้อจำกัดและผลข้างเคียงของการแก้ไขสายตารูปแบบอื่นลงไปค่อนข้างมาก โดยมีข้อดีดังนี้

  • ความแม่นยำสูงมาก สามารถกำหนดตำแหน่งการปรับความโค้งของกระจกตาได้ตามต้องการ
  • ไม่รู้สึกเจ็บขณะที่ผ่าตัด และหลังการผ่าตัดแทบจะไม่มีอาการระคายเคืองใดๆ เพราะไม่มีการใช้เครื่องมือตัดแยกผิวกระจกตาแบบเลสิก จึงช่วยให้สบายตาหลังผ่าตัด
  • แผลมีขนาดเล็กมากเพียง 2-4 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ถึง 80% และแผลจะสมานตัวเองได้ภายใน 3 ชั่วโมง
  • เป็นการผ่าตัดแก้ไขสายตาที่รบกวนกระจกตาน้อยมาก ทำให้กระจกตายังมีความแข็งแรงและคงโครงสร้างทางกายภาพของเนื้อกระจกตาไว้ได้มากกว่าและดีกว่าวิธีอื่นๆ
  • ลดอาการตาแห้งได้ เพราะมีการรบกวนเส้นประสาทของกระจกตาน้อย
  • โอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาค่อนข้างน้อย

ข้อจำกัดของการทำ ReLEx

แม้การทำ ReLEx จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน ดังนี้

  • จักษุแพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีความชำนาญ
  • ระยะเวลาในการฟื้นตัวช้ากว่า หรือใกล้เคียงกับวิธีเลสิก
  • ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในกลุ่มคนไข้สายตายาวได้
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดแก้ไขสายตารูปแบบอื่น

การทำ ReLEx ต่างจากการทำเลสิกอย่างไร?

การทำเลสิก มีขั้นตอนการทำที่คล้ายคลึงกับ ReLEx คือ มีการใช้เลเซอร์ในการปรับแต่งความโค้งของกระจกตาเช่นเดียวกัน

แต่แตกต่างกันที่ ReLEx เป็นการใช้เลเซอร์ตัดแยกชั้นกระจกตาเพื่อปรับแต่งความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสม และดึงชั้นกระจกตาที่ถูกปรับแต่งออกทางช่องกรีดเล็กๆ โดยไม่มีการเปิดผิวของกระจกตาออก

ขณะที่การทำเลสิกจะมีตัดเปิดผิวของกระจกตาออกก่อน แล้วจึงยิงเลเซอร์ไปที่เนื้อกระจกตาเพื่อปรับเปลี่ยนความโค้ง ก่อนจะปิดประจกตากลับลงไปดังเดิม

การทำ ReLEx ราคาเท่าไร?

การทำ ReLEx เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หนึ่งในข้อจำกัดที่สำคัญคือ การบริการยังไม่ครอบคลุมทุกโรงพยาบาล มีเฉพาะบางโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น และค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดค่อนข้างสูง

เริ่มต้นที่ประมาณ 80,000-90,000 บาท (ขณะที่การทำเลสิกซึ่งเป็นวิธียอดนิยม เริ่มต้นที่ราคา 30,000 บาท สำหรับโรงพยาบาลรัฐ และ 40,000 บาท สำหรับโรงพยาบาลเอกชน)

สำหรับใครที่ประสบปัญหาสายตาสั้น หรือเอียง ต้องการแก้ไขสายตาแบบถาวร แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้นนาน และไม่อยากกังวลกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การผ่าตัดรักษาสายตา ReLEx เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ


แพ็กเกจ ReLEx SmartSight โรงพยาบาลพญาไท 3


ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. ธนู โกมลไสย

Scroll to Top