โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial Cancer) พบได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ของมะเร็งอวัยวะสืบพันธ์ุเพศหญิง เป็นมะเร็งที่หลายคนอาจสับสนกับมะเร็งปากมดลูก แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนละโรคกัน วันนี้ HDmall จะมาช่วยตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณได้เข้าใจข้อมูลพื้นฐานของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมากให้ขึ้นกัน
สารบัญ
1.ทำไมถึงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก?
ตอบ: มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกก็เหมือนกับโรคมะเร็งอื่น ๆ ที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์จนควบคุมไม่ได้ สาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกนั้นยังไม่รู้แน่ชัด แต่พบหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งชนิดนี้ เช่น
- อายุมากขึ้น พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน และผู้หญิงอายุ 40-70 ปี
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงกว่าฮอร์โมนเพศหญิงอื่น ๆ จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่สามารถหลุดลอกไปเป็นประจำเดือนได้ ทำให้โพรงมดลูกหนาผิดปกติ และกลายไปเป็นมะเร็ง
- ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบหรือ PCOS (Polycystic Ovarian Syndrome) มักทำให้ประจำเดือนขาดเป็นเวลานาน ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นจนเป็นมะเร็งได้
- โรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน ทำให้เนื้อเยื่อไขมันบางส่วนผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน
- การได้รับอาหารเสริมหรือยาบางชนิด ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายสูงขึ้น เช่น ยาทาม็อกซิเฟน (Tamoxifen) ที่ใช้รักษาโรคมะเร็งเต้านม
- ประจำเดือนมาผิดปกติ คนที่ประจำเดือนมามากกว่าปกติหรือมาผิดปกติจะมีความเสี่ยงเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกถึง 3 เท่า
- มีประจำเดือนตอนอายุยังน้อยหรือหมดประจำเดือนช้า การมีประจำเดือนนานอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ โดยเฉพาะคนที่มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 มีความเสี่ยงของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมากถึง 60% และคนที่หมดประจำเดือนช้า
- ส่วนปัจจัยอื่น ๆ เช่น สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคทางพันธุกรรม เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมะเร็งเต้านม มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ การมีเพศสัมพันธ์บ่อย เป็นต้น
2. มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมีสัญญาณเตือนไหม?
ตอบ: แรกเริ่มของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีอาการเตือน คือ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด โดยผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจะมีเลือดออกทางช่องคลอดเป็นครั้งคราว และผู้หญิงวัยที่ยังไม่หมดประจำเดือนจะมีเลือดออกระหว่างรอบเดือนหรือมีประจำเดือนมากกว่า 1 รอบต่อเดือน ประจำเดือนมามากหรือน้อยผิดปกติ เมื่อโรคเริ่มรุนแรงอาจมีอาการอื่นเกิดร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย มีไข้ ตัวร้อน ปวดท้องน้อย ปวดหลังหรือปวดขา หรือคลำเจอก้อนในท้องน้อย
3.ไม่อยากเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ไปตรวจคัดกรองก่อนดีไหม?
ตอบ: ปัจจุบันยังไม่มีการตรวจคัดกรองมะเร็งชนิดนี้ เมื่ออาการผิดปกติ โดยเฉพาะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด หรือประจำเดือนมาผิดปกติ อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ โดยให้จดบันทึกลักษณะของประจำเดือนที่มาผิดปกติ ปริมาณเลือดประจำเดือน ระยะเวลา และอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด เพราะปกติแล้วภาวะเหล่านี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจไม่ใช่มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเสมอไป
4.มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกรักษาได้ไหม?
ตอบ: วิธีการรักษามีอยู่หลายวิธี แพทย์จะเป็นคนเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ป่วย โดยต้องดูจากหลายปัจจัย ทั้งระยะของมะเร็ง อายุ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย การรักษาหลักของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกจะเป็นการผ่าตัด โดยจะผ่าตัดมดลูก ปีกมดลูกทั้งสองข้าง รังไข่ และต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานออก เพื่อเอาเซลล์มะเร็งในโพรงมดลูกออก และป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็ง ภายหลังผ่าตัด แพทย์อาจรักษาเพิ่มเติมด้วยการฉายรังสีหรือให้ยาเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งซ้ำมากน้อยแค่ไหน
5.ไม่อยากเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มีวิธีป้องกันไหม?
ตอบ: มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกป้องกันไม่ได้ แต่อาจลดความเสี่ยงของโรคได้ด้วยการเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของโรคให้มากที่สุด คือ ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ระมัดระวังการใช้ยาที่มีฮอร์โมน ผู้หญิงที่เป็นวัยทองควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงของโรค และการใช้ยาคุมกำเนิด เพราะการรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 ปี อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ และผู้หญิงวัยอื่นที่ประจำเดือนมาผิดปกติ ควรไปพบแพทย์แต่เนิ่น ๆ เพื่อเช็กความเสี่ยงของโรค
มีสัญญาณเตือน ไม่รู้เป็นมะเร็งไหม อยากตรวจให้แน่ใจ HDmall.co.th มีครบในเว็บเดียว หาแพ็กเกจตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ แพ็กเกจตรวจมะเร็งในผู้หญิง หรือแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิงอื่น ๆ
