หล่อฮังก๊วย Monk fruit scaled

หล่อฮังก๊วย (Monk fruit)

หล่อฮังก๊วย เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ชาวจีนคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้เป็นสารแทนความหวานจากน้ำตาล เนื่องจากมีรสหวานกว่าน้ำตาลในธรรมชาติกว่า 250 เท่า โดยรสหวานดังกล่าวไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งให้พลังงานต่ำ และตัวผลหล่อฮังก๊วยเองก็มีสรรพคุณทางยารวมอยู่ด้วย

สรรพคุณทางยาของหล่อฮังก๊วย

หล่อฮังก๊วย สมุนไพรฤทธิ์เย็น เป็นผลไม่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทางการแพทย์ในประเทศจีน และได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อปี พ.ศ. 2553 ว่าสามารถใช้เป็นสารให้ความหวานได้อย่างปลอดภัย และยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงจากการใช้ในเด็ก สตรีตั้งครรภ์ หรือในหญิงให้นมบุตร

ในผลหล่อฮังก๊วยมีสารที่ชื่อว่า “โมโกรไซด์” (Mogroside) เป็นน้ำตาลจากธรรมชาติกลุ่มฟรุกโตสและกลูโคสเป็นหลัก รสหวานชุ่มคอ แก้ไอขับเสมหะ แก้อาการเจ็บคอ แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงกำลัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูกได้อีกด้วย

น้ำหล่อฮังก๊วยเพื่อสุขภาพ

หล่อฮังก๊วยในรูปแบบผลสดให้รสชาติค่อนข้างขม ดังนั้นการดื่มในรูปแบบน้ำสมุนไพรจึงเป็นทางเลือกที่บริโภคได้ง่ายกว่า ดังที่ได้รับความนิยมกันในปัจจุบัน

นอกจากน้ำหล่อฮังก๊วยจะให้พลังงาน ความสดชื่น และแก้กระหายน้ำจากน้ำตาลแล้ว ยังให้คุณประโยชน์จากสารพฤกษเคมีในสมุนไพร สามารถดื่มเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

วิธีทำน้ำหล่อฮังก๊วย คือ นำลูกหล่อฮังก๊วยฉีกหรือทุบเป็นชื้นๆ ประมาณครึ่งลูก ต้มในน้ำสะอาดประมาณ 1 ลิตร อาจจะใส่ดอกเก๊กฮวยแห้งหรือใบเตยเพื่อเพิ่มความหอมก็ได้ เมื่อต้มจนน้ำเดือดแล้วให้กรองด้วยผ้าขาวบาง สามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น

เคล็ดลับการต้มหล่อฮังก๊วยไม่ให้มีรสขม คือ ต้องทุบผลหล่อฮังก๊วยให้แตก และเมื่อต้มน้ำสมุนไพรจนเดือดให้รีบปิดแก๊สทันที หากต้มนานเกินไปจะทำให้น้ำมีรสขมจนไม่สามารถดื่มได้

เนื่องจาก หล่อฮังก๊วย ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 100-250 เท่า โดยมีพลังงานเพียง 0 แคลอรี่ ทำให้ได้รับความนิยมใช้เป็นสารให้ความหวานที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ต้องการควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือด พอๆ กับสารสกัดจากหญ้าหวาน

งานวิจัยเกี่ยวกับหล่อฮังก๊วย

ปัจจุบันมีงานวิจัยเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของหล่อฮังก๊วย ซึ่งให้ผลการวิจัยดังนี้

  • สารสกัดโมโกรไซด์ (Mogroside) ในหล่อฮังก๊วยอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไกลโคไซด์ (Glycosides) ซาโปนิน (Saponins) มีสารต้านการอักเสบ กระบวนการคือยับยั้งโมเลกุลที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยป้องกันความเสียหายต่อสารพันธุกรรม (DNA)
  • จากกการทดลองในห้องปฏิบัติการกับหนูที่เป็นโรคเบาหวาน เมื่อให้สารสกัดจากหล่อฮังก๊วยแก่หนู พบว่ามีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินที่ตับอ่อน สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ได้อีกด้วย
  • ในการทดสอบการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง พบว่าสารโมโกรไซด์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกบริเวณผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สามารถต้านการมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ด้วย

ข้อควรระวังในการบริโภคหล่อฮังก๊วย

ควรระมัดระวังการบริโภคหล่อฮังก๊วยในผู้ที่ตับอ่อนทำงานผิดปกติ หรือตับอ่อนทำงานหนักมากเกินไป เพราะหากรับประทานหล่อฮังก๊วยปริมาณมาก ร่างกายสร้างอินซูลินมากเกินความต้องการ จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ตัวเย็นหรืออาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้

บ่อยครั้งที่สารสกัดจากหล่อฮังก๊วยจะถูกผสมกับวัตถุให้ความหวานชนิดอื่นที่ต้นทุนราคาถูกกว่า ทำให้ปริมาณสารสกัดโมโกรไซด์น้อยมาก จึงควรอ่านสลากข้างผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดก่อนเลือกซื้อ

แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่บอกว่าสารในหล่อฮังก๊วยมีผลต่อสุขภาพในการรักษาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามการใช้หล่อฮังก๊วยในปัจจุบันก็ยังนิยมใช้เป็นสารให้ความหวานมากกว่าประโยชน์ทางการรักษา จึงแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หากมีโรคประจำตัวก็ควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป


เขียนบทความโดย ทีมแพทย์แผนไทยประยุกต์ HD


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top