เบตาฮีสทีน (betahistine) เป็นยาในกลุ่มยาบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ เช่น โรคเมเนียร์ โรคหูชั้นในอักเสบ โรคหูชั้นในเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง
ยาสำหรับรับประทาน ยาเม็ด ประกอบด้วยเบตาฮีสทีน ขนาด 6 12 16 และ 24 มิลลิกรัม
สารบัญ
- โรคที่ใช้ยา Betahistine ในการรักษา
- กลไกการออกฤทธิ์ของยา Betahistine
- ข้อบ่งใช้ของยา Betahistine
- ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Betahistine
- ข้อควรระวังของการใช้ยา Betahistine
- ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Betahistine
- ข้อมูลการใช้ยา Betahistine ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
- ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
- ข้อมูลการเก็บรักษายา Betahistine
โรคที่ใช้ยา Betahistine ในการรักษา
- โรคเมเนียร์ (Meniere’s disease): โรคที่ส่งผลต่อหูชั้นใน เช่น โรคหูชั้นในอักเสบ หรือ หูชั้นในเสื่อม ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ส่งผลต่อระบบการทรงตัว บ้านหมุน หูอื้อ คลื่นไส้
- โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease): ลดอาการเวียนศีรษะในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันบางราย
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): อาจช่วยลดอาการเวียนศีรษะในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบางราย
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Betahistine
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ เบตาฮีสทีนออกฤทธิ์แบบอะโกนิสที่ตัวรับฮีสตามีน เอช-1 (Histamine H-1 receptor agonist) และออกฤทธิ์แบบแอนทาโกนิสที่ตัวรับฮีสตามีน เอช-3 (Histamine H-3 receptor antagonist) ที่เนื้อเยื่อระบบประสาท เพิ่มการไหลเวียนของเลือดฝอย ลดความดันของน้ำในหูชั้นใน
ข้อบ่งใช้ของยา Betahistine
ยาเบตาฮีสทีน ชนิดรับประทาน มีข้อบ่งใช้ คือ
รักษาอาการเมเนียร์ (Menierre’s disease)
- ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ยาในรูปเบตาฮีสทีน ไฮโรคลอไรด์ (betahistine hydrochloride) ขนาดเริ่มต้น 8-16 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
- ขนาด maintenance 24-48 มิลลิกรัมต่อวัน
- ยาในรูปเบตาฮีสทีน เมซิเลท (betahistine mesylate) ขนาด 6-12 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
ยาเบตาฮีสทีนควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหาร
ยาเบตาฮีสทีน เป็นยารูปเบตาฮีสทีน ไดไฮโดรคลอไรด์ (betahistine dihydrochloride) ใช้บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการหูอื้อที่เกี่ยวข้องกับอาการเมเนียส์ ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่
- ยาเม็ดขนาด 16 มิลลิกรัม รับประทาน ครึ่งเม็ด-1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ขนาด 24 มิลลิกรัม รับประทาน 48 มิลลิกรัมต่อวัน แบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด
ระวังการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Betahistine
หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ข้อควรระวังของการใช้ยา Betahistine
- ไม่ใช้ยาในผู้ป่วย pheochromocytoma
- ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีประวัติแผลในกระเพาะอาหาร
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคหอบหืด
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคตับ
- ระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Betahistine
อาจก่อให้เกิดผื่นแดง การแพ้แบบ Steven-Johnson syndrome อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ สับสน อาการชัก ง่วงซึม เห็นภาพหลอน ความดันโลหิตต่ำ ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ หัวใจเต้นเร็ว ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด แผลในกระเพาะอาหาร อาเจียน หายใจลำบาก
ข้อมูลการใช้ยา Betahistine ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category B คือ ยาค่อนข้างมีความปลอดภัยในการใช้ยาในสตรีมีครรภ์
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
ข้อมูลการเก็บรักษายา Betahistine
ควรเก็บรักษายาที่อุณหภูมิ 15- 30 องศาเซลเซียส ป้องกันจากความชื้น
ที่มาของข้อมูล
- cochrane.org, betahistine (https://www.cochrane.org/CD010696/ENT_betahistine-symptoms-vertigo)
- drugs.com, betahistine (https://www.drugs.com/international/betahistine.html)
- ncbi.nlm.nih.gov, betahistine (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2640000/)