โรคผมร่วงเป็นโรคที่ไม่รักษายากเกินแก้ แต่อาจต้องใช้เวลา วินัย ความสม่ำเสมอ และวิธีรักษาที่ถูกทางเพื่อให้ผมกลับมาแข็งแรง ไม่หลุดร่วงเพิ่มขึ้นอีก อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากมีอาการผมร่วง เพื่อที่คุณจะได้รีบหาทางรักษาโรคนี้อย่างเหมาะสมโดยเร็ว
สารบัญ
แก้ผมร่วงเยอะเบื้องต้น
อีกทางเลือกสำหรับการลดผมร่วงเบื้องต้นโดยไม่ต้องพบแพทย์ อาจช่วยลดอาการผมร่วงได้
วิตามินแร่ธาตุ
แนะนำให้ทานจากอาหารทั่วไป หากปริมาณไม่มากพอ อาจทานให้มากขึ้น
- วิตามิน B7 (ไบโอติน) พบได้ในอาหารประเภทถั่วหลายชนิด เห็ด กล้วย บร็อคโคลี่
- สังกะสี (Zinc) พบได้ในอาหารประเภทถั่ว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ผักโขม โกโก้
- วิตามิน C พบได้ในผลไม้หลายชนิด เช่น ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อม มะนาว
- ธาตุเหล็ก พบได้ในข้าวโอ๊ต ผักใบเขียวเข้ม ถั่วหลายชนิดและผลิตภัณฑ์จากถั่ว
- วิตามิน B9 (กรดโฟลิก) พบได้ในธัญพืช ผักใบเขียวหลายชนิด ผลไม้ เช่น กล้วย ส้ม
อย่างไรก็ตาม การทานวิตามินและแร่ธาตุช่วยรักษาในเบื้องต้นเท่านั้น และผลลัพธ์อาจต้องรอหลายเดือน
ลดผมร่วงด้วยใช้สมุนไพร
มีสมุนไพรหลายชนิดที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคผมร่วงได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ได้ผลในผู้ป่วยบางราย
- ว่านหางจระเข้ (Alovera) ลองใช้เจล หรือแชมพูที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ดู เพราะสมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์ในการบำรุงหนังศีรษะที่เสีย ช่วยกำจัดไขมันที่อุดตันตามรูขุมขนซึ่งทำให้ผมไม่สามารถงอกขึ้นใหม่ได้
- ขิง (Ginger) ผ่านการสกัดน้ำมันออกมาหมักบนหนังศีรษะ โดยขิงมีคุณสมัติช่วยป้องกันการเกิดรังเค ทำให้เส้นผมมีน้ำหนัก ทั้งยังบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ลดปริมาณของผมที่หลุดร่วงได้
- น้ำจากหัวหอมดิบ ลองสกัดน้ำจากหัวหอมดิบแล้วนำมาหมักที่หนังศีรษะสัปดาห์ละ 2 ครั้งแล้วตามด้วยแชมพูปกติ เพราะหัวหอมมีสารซัลเฟอร์ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการเกิดคอลลาเจนบนหนังศีรษะ และยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี
- รากชะเอมเทศ (Licorice) มีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ ลดความคันระคายเคือง และช่วยเปิดรูขุมขนบนหนังศีรษะ ทำให้ผมร่วงน้อยลง
- น้ำมันจากต้นโจโจ้บา (Jojoba) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับรูขุมขน ทำให้เส้นผมที่งอกใหม่แข็งแรงสุขภาพดี และยังทำให้เซลล์ผมแบ่งตัวได้เร็วขึ้นด้วย
ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
การปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อสุขภาพมากขึ้น เพื่อบรรเทาโรคผมร่วงเยอะให้เบาลง เช่น
- งดสูบบุหรี่และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดปริมาณสารพิษในร่างกายไม่ให้ไปทำลายเซลล์ และลดประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนเลือด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงความแข็งแรงของเส้นผม เช่น ธาตุเหล็ก ไขมันโอเมก้า-3 โปรตีน
- ดูแลโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย เพราะหลายโรคมีส่วนทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ หรือหากมีอาการผมร่วงจากโรคดังกล่าว ให้รีบปรึกษาแพทย์ เช่น โรคเบาหวาน โรคแพ้ภูมิตนเอง โรคซิฟิลิส โรคเซลิแอค โรคไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
- พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด หรือหาวิธีลดความเครียดลง อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่หากคุณรู้สึกว่า ตนเองกำลังเผชิญภาวะเครียด ให้อยู่ในห่างจากปัจจัยทำให้เครียดดูบ้าง แล้วลองหากิจกรรมอื่นๆ ที่ตนเองชอบทำแทน หรือลองปรึกษาจิตแพทย์เพื่อจัดการกับภาวะเครียดได้
- ลดการใช้สารเคมี และความร้อนต่อผม หากมีอาการผมร่วงจากการย้อมสีผม น้ำยาย้อมผม ให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นหันไปใช้แชมพูที่อ่อนโยนต่อผิวแทน หรือหากผมร่วงจากการใช้ไดร์เป่าผมเป็นเวลนานให้หันไปใช้วิธีเป่าผมด้วยพัดลมธรรมดาแทน เพื่อให้ผมได้ฟื้นฟูความแข็งแรงอีกครั้ง
แก้ผมร่วงเยอะมาก ด้วยวิธีการแพทย์
หากแก้ปัญหาผมร่วงไม่ได้ผล กรณีผมร่วงเยอะมาก เช่น ร่วงเกิน 150 เส้นต่อวัน ควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งการที่ผมร่วงเยอะมากผิดปกติ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยคือ โรคผมร่วงจากพันธุกรรม ในกรณีที่ผมร่วงเยอะจากการที่มีสาเหตุเมื่อทำการรักษาสาเหตุนั้นๆ แล้ว โดยทั่วไปภาวะผมร่วงจะดีขึ้น มีวิธีดังนี้
1. กินและทายาปลูกผม
ยาปลูกผมที่นิยมรักษาในผู้ป่วยโรคผมร่วงมีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่
- ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) รูปแบบยามีทั้งแบบรับประทาน และแบบทา แต่ส่วนมากผู้ใช้ที่เป็นเพศหญิงนิยมใช้แบบทา เพราะตัวยารูปแบบรับประทานมักทำให้มีขน หนวด และเครายาวขึ้นผิดปกติด้วย
- ยาฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride) เป็นยารูปแบบรับประทาน โดยจะให้รับประทานทุกวัน วันละ 1 มิลลิกรัมติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี เมื่อผมหยุดร่วงแล้ว ก็ยังต้องใช้ยาต่อไป เพราะหากหยุดใช้ โรคผมร่วงก็อาจกลับมาบางอีกครั้ง
- ยาสไปโรโนแลคโตน (Spironolactone) เป็นยารูปแบบของยาขับปัสสาวะ ใช้ลดความดันโลหิต ต้านการทำงานของฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งจะทำให้เส้นผมไม่เปลี่ยนเป็นผมเส้นเล็ก
2. ใช้น้ำเหลืองของตนเองฉีดเข้าบริเวณหนังศรีษะ
นอกจากการใช้ยา แพทย์อาจพิจารณาการรักษาเสริมด้วยการเจาะเลือดผู้ป่วยนำไปปั่นให้ได้น้ำเหลืองซึ่งจะมีสารที่ช่วงหน่วงการร่วงของเส้นผม จากนั้นจึงฉีดเข้าไปบริเวณหนังศรีษะของผู้ป่วยเดือนละครั้ง เป็นระยะเวลา 3-5 เดือน
3. ทำศัลยกรรมปลูกผม
นอกจากการใช้ยาแล้ว การเข้ารับการศัลยกรรมปลูกผมโดยเฉพาะก็เป็นอีกวิธีรักษาโรคผมร่วงได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกรูปแนวผมที่เหมาะสมกับใบหน้าของตนเองกับแพทย์ได้
ศัลยกรรรมปลูกผมแบ่งเป็น 2 วิธีหลักๆ คือ
- การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit transplantation) เป็นการศัลยกรรมปลูกผมโดยแพทย์จะผ่าตัดนำหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นบริเวณที่รากผมแข็งแรง มักไม่มีการหลุดร่วงเกิดขึ้นมาปลูกผมบริเวณที่ร่วง
- การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extration) เป็นการศัลยกรรมปลูกผมโดยแพทย์จะเจาะเอารากผมที่ท้ายทอยมาปลูกบริเวณที่ผมหลุดร่วง โดยจะปลูกทีละกอเป็นจุดเล็กๆ ทีละจุดอย่างละเอียด
4. การทำเลเซอร์ปลูกผม LLLT
การปลูกผมด้วยเลเซอร์ Low Level Laser Therapy (LLLT) เป็นการปลูกผมโดยใช้แสงคลื่นความถี่สีแดงเข้าไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม และสร้างความแข็งแรงให้กับรากผม ช่วยแก้ปัญหาคนที่ผมร่วงเยอะมากและผมบางได้
การรักษาผมร่วง แพทย์จะสามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ว่า สิ่งที่คุณเป็นอยู่นั้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาหรือไม่ หากจำเป็นต้องได้รับการรักษา ควรรักษาอย่างไร หากไม่แน่ใจว่า คุณกำลังประสบภาวะผมร่วง หรือเป็นโรคผมร่วงหรือไม่ ปัจจุบันมีบริการปรึกษาแพทย์ผิวหนังและเส้นผมออนไลน์แล้ว ตอบโจทย์คนขี้อาย คนชอบความสะดวกสบาย และคนที่ไม่มีเวลาไปพบแพทย์ด้วยตนเอง
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. ธนู โกมลไสย