hbo 1

ไฮเปอร์แบริก (HBO) บำบัดร่างกายด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์

ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 มานานหลายปี รวมถึงฝุ่นควันจากไอเสียรถยนต์เต็มท้องถนน ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น จนเกิดอาการผิดปกติมากมาย

หลายคนจึงเริ่มหันมาสนใจหนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์อย่างแท้จริง เติมสิ่งดีๆ ให้กับร่างกาย ก็คือการทำ “ไฮเปอร์แบริก” นั่นเอง

ไฮเปอร์แบริกคืออะไร?

ไฮเปอร์แบริก (Hyperbaric oxygen therapy: HBO) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ออกซิเจนบำบัด” เป็นบำบัดร่างกายด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100%

โดยให้ผู้รับบริการเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ไฮเปอร์แบริกที่มีความดันอากาศสูงกว่าบรรยากาศปกติที่เราอยู่ถึง 3 เท่า ทำให้ปอดได้รับออกซิเจนมากกว่าปกติ

เมื่อระดับออกซิเจนในเลือดสูงขึ้น และส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้มากขึ้น ก็จะช่วยให้กระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cells) และระบบภูมิคุ้มกัน ให้ต่อสู้กับแบคทีเรีย รวมถึงฟื้นฟูเนื้อเยื่อส่วนที่เสียหาย

ไฮเปอร์แบริกเหมาะกับใคร?

ไฮเปอร์แบริกเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอจากปัจจัยต่างๆ ทำให้เนื้อเยื่อในร่างกายไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

โดยเฉพาะเมื่อเกิดการบาดเจ็บ เนื้อเยื่อจะต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในกระบวนการฟื้นฟู หากร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ จึงส่งผลต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายมากมาย

ผู้ที่อาจได้ประโยชน์สูงจากการทำไฮเปอร์แบริก อาจมีดังนี้

  • ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง
  • ผู้ที่เป็นฝีในสมอง หรือได้รับการบาดเจ็บที่สมองมาก่อน
  • ผู้ที่มีปัญหาร่างกายบาดเจ็บจากการกดทับ (Crushing injury)
  • ผู้ที่มีภาวะเนื้อเน่า หรือเนื้อตาย (Gangrene) ผู้ที่เกิดการติดเชื้อที่กระดูก หรือผิวหนัง จนนำไปสู่อาการเนื้อเยื่อตาย
  • ผู้ที่ผ่านการปลูกถ่ายผิวหนัง
  • ผู้ที่แผลหายช้า เช่น ผู้ป่วยจากเบาหวาน
  • ผู้ที่มีภาวะหูตึง หรือหูดับเฉียบพลัน
  • ผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บจากรังสี
  • ผู้ที่มีภาวะฟองก๊าซอุดตันในหลอดเลือดแดง (Arterial gas embolism) และภาวะฟองอากาศในเลือด (Decompression sickness)
  • ผู้ที่มีภาวะพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide poisoning)
  • ผู้ที่หายใจหอบถี่จากการขาดออกซิเจน
  • ผู้ที่หัวใจเต้นเร็วจากการขาดออกซิเจน
  • ผู้ที่เกิดอาการมึนงง สับสนจากการขาดออกซิเจน
  • ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

บางคนอาจต้องทำไฮเปอร์แบริกหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับอาการที่ต้องการบำบัดรักษา โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในวันที่ไปทำอีกครั้ง

ข้อควรระวังในการทำไฮเปอร์แบริก

โดยปกติไฮเปอร์แบริกเป็นวิธีที่ปลอดภัย มีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนได้น้อย แต่เช่นเดียวกับการรักษาส่วนใหญ่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง หรือความเสี่ยงได้เช่นกัน ดังนี้

  • อาจทำให้หูชั้นกลางบาดเจ็บ เช่น แก้วหูแตกจากการเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหูอยู่แล้วจึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อน
  • อาจทำให้สายตาสั้นชั่วคราวจากการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตา
  • อาจทำให้ปอดแฟบ จากการเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับปอดควรแจ้งกับแพทย์อย่างละเอียดทุกครั้ง
  • อาจเกิดอาการชัก จากระดับออกซิเจนที่มากไปจนส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง
  • อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำในผู้ที่เป็นเบาหวาน และรักษาด้วยอินซูลิน (Insulin)

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีแผนเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือเพิ่งลงจากเครื่องบิน ยังไม่ควรทำไฮเปอร์แบริก เนื่องจากอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศมากเกินไป

ไฮเปอร์แบริกช่วยอะไรได้?

การทำออกซิเจนบำบัดด้วยไฮเปอร์แบริก อาจมีส่วนช่วยอาการต่อไปนี้

  • อาจช่วยลดอาการปวดหัวจากออกซิเจนต่ำ และปวดไมเกรน
  • อาจช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
  • อาจช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉงมากขึ้น
  • อาจช่วยให้แผล และเนื้อเยื่อสมานกันได้ดีขึ้น เช่น แผลฟกช้ำ แผลหายช้าจากเบาหวาน
  • อาจช่วยลดอาการหายใจหอบถี่
  • อาจมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดเรื้อรัง
  • อาจช่วยลดอาการข้อเท้าบวมได้

ปรึกษากับแพทย์ถึงผลการรักษาที่ต้องการ และอาการที่เป็นอยู่ดั้งเดิม อาจช่วยให้แพทย์ประเมินได้ง่ายขึ้น

ขั้นตอนการทำไฮเปอร์แบริก

การทำไฮเปอร์แบริกมักใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับโปรแกรม สถานที่ให้บริการ และคำแนะนำของแพทย์ แต่ขั้นตอนอาจไม่แตกต่างกันมาก ดังนี้

  1. แพทย์อาจมีการตรวจร่างกาย หรือซักประวัติเบื้องต้นเพื่อเช็กความเหมาะสม บางโปรแกรมตรวจอาจมีการวัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วยอุปกรณ์หนีบปลายนิ้ว
  2. จากนั้นแพทย์หรือพยาบาลจะให้นอนบนเครื่องไฮเปอร์แบริก ซึ่งจะมีทั้งแบบสำหรับ 1 คน และสำหรับ 2 คน จากนั้นเตียงจะเลื่อนเข้าไปในอุโมงไฮเปอร์แบริก
  3. วิธีการให้ออกซิเจนอาจมีทั้งแบบปล่อยออกมาในอุโมงค์ไฮเปอร์แบริก แบบสวมหน้ากากปล่อยออกซิเจน หรือแบบหมวกใสคล้ายนักบินอวกาศก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานที่ให้บริการ
  4. ในระหว่างนี้อุโมงค์ไฮเปอร์แบริกจะถูกปรับเพิ่มความดันอากาศขึ้น 2-3 เท่าจากความดันปกติ อาจทำให้รู้สึกหูอื้อได้ (คล้ายกับตอนขึ้นลิฟท์หรือขึ้นเครื่องบิน) ผู้รับบริการสามารถผ่อนคลายได้ตามอัธยาศัย
  5. หลังจากครบเวลาแล้ว แพทย์อาจแนะนำหรือนัดหมายการมาบำบัดครั้งต่อไป ขึ้นอยู่กับโปรแกรมการตรวจ

โดยสรุปแล้ว การทำไฮเปอร์แบริกมีความปลอดภัยสูง และอาจช่วยบำบัดอาการที่รบกวนชีวิตประจำวันคุณได้หากทำต่อเนื่องสักระยะ หรือตามที่แพทย์แนะนำ ที่สำคัญคือราคาไม่แพง ข้อจำกัดน้อยอีกด้วย


รวมแพ็คเกจ Hyperbaric Oxygen Therapy (ไฮเปอร์แบริค)


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top