คอพอกเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์บริเวณคอขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ บ่อยครั้งที่อาการคอพอกไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน จึงอาจถูกมองข้ามไปได้ง่ายๆ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคคอพอกอย่างละเอียด ตั้งแต่สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา เพื่อให้คุณสามารถรู้ทันและรับมือได้อย่างรวดเร็ว
สารบัญ
คอพอกคืออะไร?
คอพอก คือการขยายตัวของต่อมไทรอยด์ ซึ่งเป็นต่อมรูปผีเสื้อที่ฐานของลำคอใต้ลูกกระเดือก แม้ว่าอาการคอพอกจะไม่เจ็บปวด แต่หากมีขนาดใหญ่ขึ้นอาจทำให้เกิดอาการไอ ทำให้กลืนหรือหายใจลำบากขึ้น
คอพอกมีกี่ประเภท?
คอพอกสามารถแบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตและการผลิตฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ โดยแบ่งตามขนาดของต่อมไทรอยด์เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- โรคคอพอกชนิดธรรมดา: เกิดขึ้นเมื่อต่อมไทรอยด์ทั้งหมดบวมและเรียบเมื่อสัมผัส
- คอพอกเป็นก้อน: เมื่อมีก้อนเนื้อหรือก้อนเนื้อแข็งๆ ที่เต็มไปด้วยของเหลวเกิดขึ้นที่ต่อมไทรอยด์ จะทำให้คอพอกเป็นก้อน เมื่อสัมผัสจะมีลักษณะเป็นก้อน
- คอพอกหลายก้อน: คอพอกประเภทนี้อาจมีก้อนเนื้อหลายก้อนอยู่ในต่อมไทรอยด์ ก้อนเนื้อเหล่านี้อาจมองเห็นได้หรือสัมผัสได้ตอนที่ตรวจร่างกาย
คอพอกเกิดจากอะไร?
โรคคอพอกคือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ขยายตัวจนทำให้คอมีลักษณะบวม ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่
ขาดไอโอดีน
ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ เมื่อร่างกายขาดไอโอดีน ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้เพียงพอ จึงเกิดการขยายตัวเพื่อเพิ่มการผลิตฮอร์โมน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคอพอกได้
โรคเกรฟส์
เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ต่อมไทรอยด์ขยายตัวทำให้คอของผู้ป่วยมีลักษณะบวมได้
โรค Hashimoto
เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนน้อยเกินไป ซึ่งทำให้ต่อมไทรอยด์ขยายตัวเนื่องจากร่างกายพยายามผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากขึ้นทำให้คอมีลักษณะบวม
ก้อนในต่อมไทรอยด์
การเกิดก้อนเนื้อแข็งหรือก้อนที่เต็มไปด้วยของเหลวในต่อมไทรอยด์ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใช่มะเร็ง และมักเกิดจากการที่ต่อมไทรอยด์ขยายตัว แต่ในบางกรณีก้อนเหล่านี้อาจต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นมะเร็ง
มะเร็งต่อมไทรอยด์
มะเร็งอาจส่งผลต่อต่อมไทรอยด์ ซึ่งทำให้ต่อมไทรอยด์บวมข้างใดข้างหนึ่ง แต่เป็นสาเหตุที่พบได้น้อยสำหรับการเกิดคอพอก
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดคอพอก
- การขาดไอโอดีน: การขาดไอโอดีนในอาหารเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของคอพอก
- เพศหญิง: ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการเกิดคอพอกมากกว่าผู้ชาย
- อายุ: ความเสี่ยงของคอพอกเพิ่มขึ้นตามอายุได้
- ประวัติครอบครัว: ประวัติครอบครัวที่มีโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองเพิ่มความเสี่ยงของคอพอก
- การตั้งครรภ์และวัยหมดประจำเดือน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของคอพอก
- การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงของคอพอก
- การสัมผัสการแผ่รังสี: การสัมผัสรังสีที่คอหรือหน้าอกเพิ่มความเสี่ยงของคอพอก
อาการของคอพอก
อาการเริ่มต้นของโรคคอพอกคือการบวมที่คอ ซึ่งอาจเห็นได้ชัดเจน ถ้ามีก้อนเนื้อที่ต่อมไทรอยด์ ก้อนเนื้อก็อาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ซึ่งอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- ฐานคอบวม
- รู้สึกตึงหรือแน่นในลำคอ
- ไอ
- เสียงแหบ
- กลืนลำบาก
- หายใจลำบาก
วิธีการรักษาคอพอก
- หากคอพอกมีขนาดเล็กและไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือทำให้เกิดอาการ เช่น หายใจลำบากหรือกลืนลำบาก แพทย์อาจแนะนำให้ติดตามอาการโดยไม่ต้องรักษาทันที แต่ควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
- หากคอพอกเกิดจากภาวะไทรอยด์ทำงานเกินหรือน้อยเกินไปการใช้ยาปรับระดับฮอร์โมนไทรอยด์ เช่น Levothyroxine หรือยาต้านไทรอยด์ เช่น Methimazole จะช่วยรักษาได้
- การรักษาด้วยไอโอดีนกัมมันตรังสีจะช่วยลดขนาดคอพอกที่เกิดจากภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณฮอร์โมนไทรอยด์กลับมาสู่ภาวะปกติ
- หากคอพอกมีขนาดใหญ่และทำให้เกิดอาการ เช่น อาการหายใจลำบากหรือกลืนลำบากหรือกรณีที่สงสัยว่าคอพอกอาจเป็นมะเร็ง การผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมดออกอาจจำเป็น เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์
ลดความเสี่ยงเป็นโรคคอพอกด้วยแพ็กเกจตรวจไทรอยด์ จองง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th พร้อมรับโปรโมชันราคาพิเศษและบริการเช็กคิวทำนัดฟรี เลือกสถานที่ที่สนใจแล้วจองเลย!