คอตีบ บาดทะยัก และไอกรนเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง และเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ๆ ปัจจุบันทั้ง 3 โรคนี้ มีวัคซีนป้องกันโรคที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อ 2–3 โรคในเข็มเดียว โดยไม่ต้องฉีดแยก
สารบัญ
รู้จักกับโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน
คอตีบ บาดทะยัก และไอกรน เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย และบางโรคยังติดต่อกันได้
โรคคอตีบ (Diphtheria)
โรคคอตีบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium diphtheriae บริเวณทางเดินหายใจส่วนบน สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ผ่านละอองฝอยจากการหายใจ ไอ และจาม
หลังจากรับเชื้อ 2–7 วัน แบคทีเรียจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเยื่อบุหน้าด้านในลำคอ ส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนบนตีบตัน จนเกิดอาการหายใจลำบาก กลืนอาหารยาก ไข้สูง ทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อย่างหัวใจล้มเหลว และอัมพาต
โรคบาดทะยัก (Tetanus)
โรคบาดทะยักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Clostridium tetani ที่พบได้ในดิน สิ่งสกปรก และมูลสัตว์ หากร่างกายมีบาดแผลและสัมผัสกับสิ่งสกปรก จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลนั้นได้
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะสร้างสารพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างรุนแรง มีอาการปวด มักเริ่มจากบริเวณขากรรไกรและลำคอ ก่อนจะลามไปยังร่างกายส่วนอื่น ๆ
สังเกตได้จากอาการอ้าปากไม่ได้ กรามติด กล้ามเนื้อคอแข็ง มีปัญหาการกลืน กล้ามเนื้อท้องแข็ง หากมีการเกร็งของกล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจ จะทำให้หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้
โรคไอกรน (Pertussis)
โรคไอกรนเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis ในระบบทางเดินหายใจ สามารถแพร่กระจายผ่านละอองสารคัดหลั่ง อย่างการหายใจ น้ำลาย และเสมหะ
อาการช่วงแรกจะคล้ายไข้หวัด มีไข้ต่ำ ๆ มีน้ำมูก จาม จากนั้นจะไอรุนแรงติดต่อกันเป็นชุด ๆ โดยจังหวะสุดท้ายของการไอ จะเกิดเสียงหายใจเข้าดัง “วู๊ป” ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคนี้ ในภาษาอังกฤษโรคไอกรนจึงมีอีกชื่อว่า “Whooping cough”
วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน มีหลายรูปแบบ สามารถฉีดแยกเป็นวัคซีนเดี่ยว หรือวัคซีนรวมก็ได้เช่นกัน แต่ปัจจุบันจะนิยมฉีดวัคซีนรวม เนื่องจากคุ้มค่า ประหยัดเวลา และสะดวกสบายกว่า
วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน มีทั้งรวม 2 ชนิด และรวม 3 ชนิด ดังนี้
วัคซีน DTaP
- ป้องกันได้ทั้งโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
- ฉีดได้ในทารก ไปจนถึงเด็กอายุไม่เกิน 7 ปี
- ฉีดทั้งหมด 5 เข็ม ตอนอายุ 2 เดือน, 4 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี 6 เดือน, และ 4 ปี
วัคซีน Tdap
- ป้องกันได้ทั้งโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
- ความเสี่ยงของผลข้างเคียงจากวัคซีนต่ำ
- ฉีดได้ในเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป จนถึงวัยผู้ใหญ่
- ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ตอน 0 เดือน, 1 เดือน, และ 6 เดือน
- ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
วัคซีน Td
- ป้องกันเฉพาะโรคคอตีบ และบาดทะยัก
- ฉีดได้ในเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป จนถึงวัยผู้ใหญ่ รวมถึงคนที่มีข้อจำกัดห้ามฉีดวัคซีนไอกรน
- ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ตอน 0 เดือน, 1 เดือน, และ 6 เดือน
แม้จะเคยได้รับ DTaP ครบตั้งแต่วัยเด็ก แต่ควรได้รับวัคซีน Tdap หรือ Td เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เนื่องจากประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ วัคซีนแต่ละชนิดอาจมีวิธีฉีดต่างกันออกไปตามอายุ วัคซีนที่เคยได้รับก่อนหน้า และสุขภาพส่วนตัว หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์
ใครบ้างไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ?
แม้ว่าวัคซีนกลุ่มนี้จะมีความปลอดภัยสูง แต่บางคนที่มีข้อจำกัดต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
- ผู้ที่มีประวัติแพ้รุนแรงหลังจากรับวัคซีน DTaP หรือ Tdap ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกัน
- ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาตัว หรือมีโรคประจำตัว
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติด้านสมองหลังรับวัคซีน เช่น ชักเกร็ง โคม่า หรือภาวะรู้สึกตัวลดลง
หากมีข้อสงสัยอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์
ผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนส่วนใหญ่สามารถฉีดได้อย่างปลอดภัย โดยอาจพบผลข้างเคียงทั่วไปไม่อันตราย และหายเองได้ภายใน 2–3 วัน เช่น
- ปวดบวมบริเวณที่ฉีด
- เป็นไข้
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- คลื่นไส้ อาเจียน
หลังฉีดวัคซีนสามารถดูแลบรรเทาอาการได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้ยาลดไข้ตามฉลากยา และดื่มน้ำให้เพียงพอ หากพบอาการผิดปกติที่ดูรุนแรง น่ากังวล หรืออาการข้างต้นไม่ดีขึ้น รุนแรงขึ้น หรือเป็นติดต่อกันนาน ควรรีบไปพบแพทย์
คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ติดได้ ป้องกันไว้ย่อมดีกว่า ดูแพ็กเกจฉีดวัคซีนเด็กในราคาสบายกระเป๋า ได้ที่ HDmall.co.th