dextromethorphan scaled

Dextromethorphan (เดกซ์โตรมีธอร์แฟน)

เดกซ์โตรมีธอร์แฟน เป็นยาที่มีโครงสร้างในกลุ่มมอร์ฟีแนน (Morphinan) ที่มีฤทธิ์ง่วงซึม อาการทางจิต (Dissociative) และฤทธิ์กระตุ้น (Stimulant) เมื่อใช้ในขนาดสูง เป็นยาที่มีฤทธิ์กดอาการไอ ใช้สำหรับในผู้ป่วยโรคหวัดที่มีอาการไอ มีการใช้ในการรักษาที่หลากหลายตั้งแต่ใช้ในการบรรเทาอาการปวด (ทั้งใช้ในรูปแบบยาแก้ปวด และใช้เป็นยาเสริมฤทธิ์ของโอพิออยด์ (Opioid)) จนถึงใช้ในการรักษาอาการติดยา (Addiction)

ยาเดกซ์โตรมีธอร์แฟน เป็นยาที่มักมีการใช้ในทางที่ผิด คือ ใช้ในขนาดเกินกว่าที่แนะนำ ทำให้เกิดภาวะ Aissociative anesthesia

โรค และอาการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยานี้บรรเทา

  • ข้อบ่งใช้สำหรับกดอาการไอ

ข้อบ่งใช้หลัก คือ ใช้เป็นยาหลักในการกดอาการไอ มีการใช้เดกซ์โตรมีธอร์แฟนในผู้ป่วยอาการทางจิต ในปี ค.ศ. 2010 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการมีการรับรองการใช้ยาเดกซ์โตรมีธอร์แฟนร่วมกับยาควินิดีน (Quinidine) ในการรักษาภาวะทางอารมณ์ไม่คงที่ (Pseudobulbar effect) และในปี ค.ศ. 2016 มีการศึกษาการใช้ยาเดกซ์โตรมีธอร์แฟน ร่วมกับพรีกาบาลิน (Pregabalin) อะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) และนาพรอกเซน (Naproxen) ว่าสามารถลดอาการปวดหลังการผ่าตัดได้

กลไกการออกฤทธิ์ของยา Dextromethorphan

กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ เดกซ์โตรมีธอร์แฟน เป็นยาในกลุ่มกดอาการไอ ออกฤทธิ์ยับยั้งศูนย์ควบคุมการไอในระบบประสาทส่วนกลาง ผ่านการกระตุ้นตัวรับซิกมา (Sigma) ในสมองส่วนเมดัลลา (Medulla) เป็นผลให้เกิดการลดลงของความไวตัวรับการไอ และยังขัดขวางการส่งผ่านสัญญาณการไอในระบบประสาทส่วนกลาง

วิธีทานยา Dextromethorphan

ยาในรูปแบบยารับประทาน

  • ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 15-30 มิลลิกรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง (3-4 ครั้งต่อวัน)
  • ยาในรูปแบบ extended release (มีฤทธิ์นาน) ขนาด 60 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง

ขนาดยาสูงสุด ห้ามทานเกิน 120 มิลลิกรัมต่อวัน

ยาในรูปแบบยาอม

  • ยาในเด็ก อายุ 4 ถึง 6 ปี ขนาด 2.5 ถึง 5 มิลลิกรัมทุก 4 ชั่วโมง หรือ 7.5 มิลลิกรัมทุก 6 ถึง 8 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุด 30 มิลลิกรัมต่อวัน
  • อายุมากกว่า 6 ปีถึง 12 ปี ขนาด 5 ถึง 10 มิลลิกรัมทุก 4 ชั่วโมง หรือ 15 มิลลิกรัม ทุก 6 ถึง 8 ชั่วโมง ขนาดยาสูงสุด 60 มิลลิกรัมต่อวัน
  • เด็กอายุมากกว่า 12 ปี ใช้ขนาดยาแบบเดียวกับผู้ใหญ่

ไม่อมมากกว่า 10 เม็ดต่อวัน, ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Dextromethorphan

หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด

ข้อควรระวังของการใช้ยา Dextromethorphan

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเกิดระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการใช้ยากลุ่ม MAOI หรือ SSRI ในช่วง 14 วัน
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยหลอดลมอักเสบ
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคเอ็มไฟซีมา (Emphysema)
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคหืด หรือในภาวะอื่นที่เกี่ยวข้องกับการไอเรื้อรัง
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีประวัติการติดยาเสพติด
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไต
  • ระวังการใช้ยานี้ในเด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร

ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Dextromethorphan

ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อย ได้แก่

  • อาการมึนงง
  • รบกวนการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
  • ง่วงซึม
  • สับสน
  • ตื่นตัว
  • ระคายเคือง

กลุ่มอาการเซโรโทนิน กดระบบทางเดินหายใจ เกิดผลข้างเคียงต่อระบบผิวหนัง เช่น เกิดผื่น

ข้อมูลการใช้ยา Dextromethorphan ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร

สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category C คือ ควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรระวังการใช้ยา

ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย

ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น

ข้อมูลการเก็บรักษายา Dextromethorphan

เก็บที่อุณหภูมิระหว่าง 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส ป้องกันจากแสง

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา

แพทย์และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยา Dextromethorphan อย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา

  • แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร) ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
  • แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
  • แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

Scroll to Top