coconut oil

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) คือ น้ำมันที่สกัดได้จากของส่วนมะพร้าว ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวบางตัวจะใช้คำว่า “น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์” ไม่เคยถูกฟอกสี  กรอง หรือแต่งกลิ่นใด ๆ ซึ่งต่างจากน้ำมันมะกอกตรงที่ยังไม่มีมาตรฐานสำหรับรองรับคำว่า “บริสุทธิ์” แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีแคลอรี และไขมันอิ่มตัวสูง แต่หลายคนก็รับประทานน้ำมันชนิดนี้เพื่อลดน้ำหนักและลดระดับคอเลสเตอรอล

ประโยชน์และสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว

1. ประโยชน์ต่อสุขภาพ

  • ช่วยเพิ่มพลังงาน น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันสายกลาง (MCTs) ที่ร่างกายสามารถย่อยและเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
  • ช่วยลดน้ำหนัก กรด MCTs ในน้ำมันมะพร้าวช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
  • เสริมภูมิคุ้มกัน มีกรดลอริก (Lauric Acid) ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อาจช่วยปรับการตอบสนองของอินซูลินในร่างกาย
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)

2. ประโยชน์ต่อผิวพรรณและเส้นผม

  • ให้ความชุ่มชื้น ใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้ง
  • ลดอาการอักเสบของผิวหนัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย
  • ช่วยลดรังแค ใช้บำรุงหนังศีรษะและช่วยลดการเกิดรังแค
  • ช่วยฟื้นฟูเส้นผม บำรุงผมแห้งเสีย และช่วยลดการแตกปลาย

3. การใช้ในครัวเรือนและปรุงอาหาร

  • น้ำมันปรุงอาหาร มีจุดเดือดสูงและเหมาะสำหรับการทอด อบ หรือผัดอาหาร
  • ใช้ในขนมอบ เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติในเบเกอรี่
  • การดื่มร่วมกับเครื่องดื่ม ผสมในกาแฟหรือสมูทตี้เพื่อเพิ่มพลังงาน

4. ประโยชน์อื่น ๆ

  • ช่วยป้องกันฟันผุ ใช้ในการทำ Oil Pulling เพื่อลดแบคทีเรียในช่องปากและช่วยลดคราบพลัค
  • ใช้เป็นน้ำมันนวด ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
  • เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เช่น สบู่ โลชั่น และลิปบาล์ม

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต่างจาก น้ำมันมะพร้าวทั่วไป อย่างไร ?

ความแตกต่าง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมันมะพร้าวทั่วไป
กระบวนการผลิต ใช้กระบวนการบีบหรือสกัดน้ำมันจากเนื้อมะพร้าวสดโดยไม่ใช้ความร้อนหรือสารเคมี ช่วยรักษาคุณสมบัติธรรมชาติของน้ำมันมะพร้าวไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ผลิตโดยการสกัดจากมะพร้าวแห้ง (Copra) มักใช้ความร้อนและสารเคมีเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมัน ทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการบางส่วน
คุณค่าทางโภชนาการ อุดมไปด้วยกรดลอริก (Lauric Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่คงอยู่ในกระบวนการผลิต อาจมีกรดลอริกและสารอาหารลดลง เนื่องจากการผ่านความร้อนและกระบวนการแปรรูป
ลักษณะและกลิ่น มีกลิ่นหอมธรรมชาติของมะพร้าว เนื้อสัมผัสเบา และโปร่งใส มีกลิ่นที่ถูกปรับแต่งหรือกลิ่นไหม้เล็กน้อย และเนื้อสัมผัสอาจหนักกว่า
การใช้งาน เหมาะสำหรับการบริโภคโดยตรง เช่น ผสมในอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการใช้ในการดูแลผิวพรรณและเส้นผม มักใช้สำหรับการปรุงอาหาร โดยเฉพาะอาหารทอดและการใช้งานในอุตสาหกรรม
ราคา มีราคาสูงกว่าเนื่องจากกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันและคุณภาพที่เหนือกว่า ราคาย่อมเยา หาซื้อง่าย

ปริมาณน้ำมันมะพร้าวที่ควรบริโภคต่อวัน

แนะนำ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน (ประมาณ 15-30 มิลลิลิตร)

กรณีเพิ่งเริ่มทาน แนะนำให้เริ่มต้นจากปริมาณน้อย และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณเพื่อให้ร่างกายปรับตัว

ทั้งนี้ ควรระวังเรื่องพลังงาน ซึ่ง 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 120 แคลอรี่ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับคนควบคุมน้ำหนัก

หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง หรือกำลังควบคุมน้ำหนัก ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนเพิ่มน้ำมันมะพร้าวในอาหาร

ข้อเสียและข้อควรระวังของน้ำมันมะพร้าว

แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีประโยชน์หลากหลาย แต่ก็มีข้อเสียที่ควรทราบก่อนการใช้งานหรือบริโภค ดังนี้

1. ปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง

น้ำมันมะพร้าวมีไขมันอิ่มตัวสูงถึงประมาณ 80-90% ซึ่งแม้ว่ากรดไขมันในน้ำมันมะพร้าว เช่น กรดลอริก อาจมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การบริโภคไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงของระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลไม่ดี) ในเลือด ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

2. แคลอรีสูง

น้ำมันมะพร้าวให้พลังงานสูง (ประมาณ 120 แคลอรีต่อช้อนโต๊ะ) การบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักหรือโรคอ้วน หากไม่ได้คำนวณแคลอรีในอาหารอย่างเหมาะสม

3. ไม่เหมาะกับบางภาวะสุขภาพ

ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือหลอดเลือด ควรจำกัดการบริโภคน้ำมันมะพร้าว เนื่องจากไขมันอิ่มตัวในน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อระดับคอเลสเตอรอล

สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารบางชนิด การบริโภคน้ำมันมะพร้าวอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือระคายเคืองทางเดินอาหาร

4. อาจทำให้เกิดอาการแพ้

แม้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่บางคนอาจแพ้น้ำมันมะพร้าวเมื่อใช้กับผิวหนังหรือบริโภค ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดง หรืออาการแพ้อื่น ๆ

5. การใช้ที่ไม่เหมาะสม

การใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับการทอดที่อุณหภูมิสูงมาก อาจทำให้เกิดสารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น สารอนุมูลอิสระ เนื่องจากจุดเดือด (smoke point) ของน้ำมันมะพร้าวไม่สูงเท่ากับน้ำมันปรุงอาหารชนิดอื่น เช่น น้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันถั่วเหลือง

6. ข้อมูลด้านสุขภาพที่ยังมีความขัดแย้ง

บางงานวิจัยยังมีความขัดแย้งเกี่ยวกับผลกระทบของน้ำมันมะพร้าวต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เช่น แม้ว่าบางการศึกษาชี้ว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลดี (HDL) แต่อาจเพิ่มคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) ด้วยเช่นกัน

คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ

  • สตรีมีครรภ์ และแม่ที่ต้องให้นมบุตร: ขณะนี้ยังขาดแคลนข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการรับประทานน้ำมันมะพร้าวในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตร กับผู้อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้นคนในกลุ่มดังกล่าวควรเลี่ยงการรับประทานน้ำมันมะพร้าวเพื่อความปลอดภัย
  • เด็ก: แม้การใช้น้ำมันมะพร้าวทาบนผิวหนังเป็นเวลง 1 เดือน  อาจจะจัดว่าปลอดภัย แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องความปลอดภัยว่าเด็กควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวเป็นยาหรือไม่
  • คอเลสเตอรอลสูงตามปกติแล้วการรับประทานอาหารที่มีน้ำมันมะพร้าวสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลไลโพโปรตีนความหนาแน่นต่ำที่ไม่ดี (low-density lipoprotein cholesterol) ได้ ดังนั้นการรับประทานน้ำมันมะพร้าวจึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูง

การรับประทานน้ำมันมะพร้าว ไม่ได้แตกต่างไปจากการใช้น้ำมันอื่นๆ เพื่อสุขภาพ นั่นคือ ต้องรับประทานอย่างเหมาะสม อยู่ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป หรือหากคุณไม่แน่ใจว่า ควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ ให้ลองปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการอาหารก่อน

Scroll to Top