โรคเกี่ยวกับสมองเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และมักส่งผลร้ายแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้โรคเกี่ยวกับสมองยังมักเป็นภัยเงียบที่ไม่มีสัญญาณเตือนเด่นชัด ทำให้กว่าหลายคนจะรู้ว่า ตนเองมีความผิดปกติที่สมอง ก็เมื่อระยะของโรคลุกลามไปไกลแล้ว
มีคำถามเกี่ยวกับ โรคสมอง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ
สารบัญ [show]
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นโรคที่เกิดจากหลอดเลือดสมองเกิดการอุดตัน หรือตีบ จนออกซิเจนไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงสมองได้ และส่งผลทำให้เนื้อสมองขาดเลือด หลอดเลือดในสมองแตก หรือสมองตายในที่สุด
โรคหลอดเลือดสมองสามารถเป็นโรคแทรกซ้อนมาจากโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ควบคุมโรคได้ไม่ดี เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
และอีกปัจจัยสำคัญที่มักทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองคือ การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงเป็นประจำ รวมถึงพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่เป็นประจำ จนเกิดภาวะไขมันเกาะในหลอดเลือดสูง
นอกจากนี้โรคหลอดเลือดสมองยังสามารถส่งต่อได้ทางพันธุกรรม ซึ่งหากคุณมีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่าเดิม เพราะโรคเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองในภายหลังได้
ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปก็เป็นอีกกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนปกติทั่วไป โดยเกิดจากความเสื่อมของผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และง่ายต่อการอุดตัน หรือตีบ
โรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) เป็นหนึ่งในโรคของภาวะสมองเสื่อม (Dementia) ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติของสมองที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก
อาการหลักๆ ของโรคอัลไซเมอร์จะเกี่ยวกับความทรงจำ ตรรกะ เหตุผล ทักษะด้านภาษา ประสาทสัมผัส ทักษะการดำเนินชีวิต รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และจิตใจ เช่น
- ความทรงจำเริ่มเลือนลาง เริ่มลืมเรื่องที่เพิ่งผ่านมาไม่นานมานี้ วางของแล้วลืมว่า วางไว้ตรงไหน จำไม่ได้ว่า นัดหมายกับใครไว้บ้าง
- พูดจาวกวน พูดประโยค หรือคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา
- บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไป โดยมีพฤติกรรมหงุดหงิดง่ายขึ้น ก้าวร้าวขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความทรงจำที่เริ่มเลอะเลือน และทักษะการดำเนินชีวิตที่ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม
- ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมได้
- บางรายไม่สามารถแยกรสชาติ หรือกลิ่นได้
โรคอัลไซเมอร์มักพบมากในผู้สูงอายุ เพราะเกิดจากการทำงานของสมองที่เสื่อมลงกว่าเดิม ส่วนในกลุ่มคนทั่วไปก็อาจเกิดโรคนี้ได้
โรคอัลไซเมอร์ยังสามารถเป็นโรคแทรกซ้อนมาจากการป่วยโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคเอดส์ โรคซิฟิลิส โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งสมอง โรคเบาหวาน และโรคซึมเศร้า
โรคอัลไซเมอร์ยังเกิดได้จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมก็สามารถนำไปสู่การเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เช่น การพักผ่อนน้อย การรับประทานอาหารที่มีไขมันและอาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นเวลานาน ไม่ออกกำลังกาย บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่บ่อย
นอกจากนี้ผู้ที่เกิดอุบัติเหตุจนได้รับความกระทบกระเทือนต่อสมองอย่างรุนแรง ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้มากกว่าคนทั่วไป
โรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะมีอาการสั่นตามอวัยวะ เช่น คาง ลิ้น มือ เท้า พูดไม่ชัด กลอกตาได้ไม่คล่อง มีอาการลูกตากระตุก รวมถึงมีอาการเกร็งตามร่างกาย เคลื่อนไหวร่างกายไม่กระฉับกระเฉง อีกทั้งไม่สามารถแสดงสีหน้าท่าทางได้เต็มที่
โรคพาร์กินสันมีสาเหตุหลักมาจากการที่สมองหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ได้น้อยลง โดยสารนี้มีบทบาทสำคัญในการสั่งการให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว
นอกจากนี้การรับประทานยากล่อมประสาท ยาลดความดันโลหิต ยากลุ่มต้านแคลเซียมสำหรับรักษาโรคหัวใจ โรคแก้เวียนศีรษะ หรือแก้อาการอาเจียน และการรับสารพิษอย่างสารแมงกานีส สารคาร์บอนมอนออกไซต์เป็นระยะเวลานานๆ ก็มีส่วนทำให้เกิดโรคพาร์กินสันได้
การได้รับอุบัติเหตุอย่างการจมน้ำ ถูกบีบคอจนทางเดินหายใจอุดตัน และสมองขาดออกซิเจน รวมถึงการที่ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงก็นำไปสู่การเกิดโรคพาร์กินสันได้เช่นกัน
โรคลมชัก
โรคลมชัก (Epilepsy) เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลางจนเกิดอาการเกร็ง หรือชักกระตุกบริเวณอวัยวะบางส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่หน้า แขน มือ หรืออาจกระตุกไปทั้งตัวก็ได้ โดยในระหว่างที่เกิดอาการ ผู้ป่วยบางรายจะไม่รู้ตัวว่าตนเองมีอาการชักอยู่
มีคำถามเกี่ยวกับ โรคสมอง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ
นอกจากอาการแสดงทางร่างกาย ผู้ป่วยโรคลมชักหลายรายยังจะมีอาการวิตกกังวล งุนงง พูดวกวน หมุนตัวไปรอบๆ หรือพึมพำโดยไม่มีสาเหตุด้วย
โรคลมชักเกิดได้จากความผิดปกติหลายอย่างของสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ รวมทั้งเกิดได้จากความพิการแต่กำเนิด การติดเชื้อในสมองตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือเกิดจากภาวะขาดออกซิเจนขณะคลอด
นอกจากนี้ในผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคลมชักมาก่อน แต่ประสบอุบัติเหตุจนสมองกระทบกระเทือน ก็สามารถเกิดโรคลมชักได้ในภายหลังเช่นกันขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง
โรคเนื้องอกในสมอง
โรคเนื้องอกในสมอง (Brain tumor) เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์ภายในสมองเจริญเติบโตผิดปกติ จนไปรบกวนระบบประสาท และการทำงานของสมอง
โรคเนื้องอกในสมองจะแตกต่างจากโรคมะเร็งสมองตรงที่ไม่ได้เป็นเนื้อร้ายที่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ หรือเข้าไปในกระแสเลือดจนสร้างความเสียหายได้ เพียงแต่ก้อนเนื้ออาจไปเบียด หรือทับอวัยวะ และหลอดเลือดสำคัญในสมองจนส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมา
โรคเนื้องอกในสมองสามารถพบได้ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยสูงอายุ มีสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นยังไม่ชัดเจนนัก แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้มักมาจาก
- พันธุกรรม
- โครโมโซมในร่างกายผิดปกติ
- การได้รับสารเคมี หรือสารก่อมะเร็งเข้าร่างกายในปริมาณมาก ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่น สารปิโตรเคมี
- การเข้ารับการรักษาด้วยวิธีฉายรังสี (Radiotherapy) และเคมีบำบัด (Chemotherapy)
- การประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
นอกจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของอวัยวะสมองแล้ว โรคทางจิตเวชที่มีปัจจัยมาจากการหลั่งสารเคมีในสมองที่ผิดปกติอย่างโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคเครียด ก็เป็นอีกกลุ่มโรคที่ควรเข้ารับการตรวจเช่นกัน
หากคุณมีภาวะเครียด มีเรื่องไม่สบาย คุณก็สามารถเข้าพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพจิตที่มีปัญหาได้ รวมทั้งการตรวจวิคราะห์ความเครียด เนื่องจากสภาพจิตใจที่ไม่มีความสุข เครียด สามารถส่งผลให้ร่างกายผิดปกติ และง่ายต่อการเจ็บป่วยมากขึ้นด้วย
การตรวจสมองจะตรวจในการตรวจร่างกายทั่วไปโดยจะประเมินการเคลื่อนไหว การรับรู้ ความจำและประเมินเส้นประสาทสมองทั้ง 12 คู่ โดยการตรวจสมองนั้นจะอาศัยการซักถามประวัติ และใช้ชุดคำถาม ร่วมกับการตรวจร่างกาย
หากแพทย์สงสัยความผิดปกติบางอย่างจึงจะส่งผู้ป่วยไปทำ CT หรือ MRI แล้วแต่ชนิดโรคที่แพทย์สงสัย
ราคาในการตรวจสมอง
ค่าใช้จ่ายในการตรวจสมองจากรายการที่กล่าวไปข้างต้น ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-18,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนรายการที่เข้ารับการตรวจ โดยเฉพาะการตรวจด้วย CT SCAN และ MRI ที่ราคาจะค่อนข้างสูง อีกทั้งค่าบริการในโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนยังมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก
สำหรับรายการตรวจสมองที่หลายโรงพยาบาลเปิดให้ตรวจนั้น หลายแห่งมีการจำแนกแพ็กเกจการตรวจไปตามโรคเกี่ยวกับสมองแต่ละชนิด หรืออาจเป็นการตรวจแบบองค์รวม เพื่อหาความผิดปกติของสมอง
โดยรายการตรวจที่จำเป็น และมีในแพ็กเกจตรวจสมอง หรือระบบประสาท จะมีดังต่อไปนี้
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
- ตรวจระดับไขมันในเลือด
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
- ตรวจ หรือทดสอบความจำ เพื่อประเมินความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม (Memory Test)
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์
- ถ่ายภาพสมอง และหลอดเลือดสมองด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI (Magnetic Resonance Imaging) ราคาจะประมาณ 3,000-10,000 บาท
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่สมอง (CT Scan) ราคาจะประมาณ 3,500-7,500 บาท
- ตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงที่คอ
- ตรวจการทำงานของตับ
- ตรวจการทำงานของไต
- ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส
นอกจากนี้ในโรงพยาบาลบางแห่งยังมีการตรวจประเมินความเสี่ยงเป็นภาวะซึมเศร้า หรือโรคทางจิตเวชด้วย ขึ้นอยู่กับรายการตรวจสมองในแต่ละแพ็กเกจ
การใช้ประกันสังคมจ่ายค่าทำ MRI ได้หรือไม่
หากคุณไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย หรือเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง แล้วต้องการเข้ารับการตรวจ MRI สมอง เพื่อหาความเสี่ยงต่างๆ คุณจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการทำ MRI ได้
แต่หากคุณเป็นผู้ป่วย หรือเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุจนสมองได้รับความกระทบกระเทือน และต้องเข้ารับการวินิจฉัยผ่านการทำ MRI เพื่อรักษาอาการต่างๆ คุณสามารถเบิกประกันสังคมได้ไม่เกิน 8,000 บาทต่อราย
การตรวจสมองอาจดูเป็นการตรวจสุขภาพที่น่ากลัว หลายคนเป็นกังวลว่า จะตรวจเจอโรคร้าย หรือโรคที่รักษาหายได้ยาก และเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากร่างกายกำลังเผชิญโรคบางอย่างเกี่ยวกับสมองอยู่ก็ควรเข้ารับการตรวจตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อที่จะได้หาทางรักษาโรคดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล
มีคำถามเกี่ยวกับ โรคสมอง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ