รีวิวรักษาอาการนอนกรนฉบับคนที่ออกกำลังกายทุกวัน ใครจะคิดว่าสุขภาพมีปัญหา!! เพราะด้วยอาชีพเทรนเนอร์ทำให้ผมได้ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ดูภายนอกทุกคนก็ต้องคิดว่าผมแข็งแรงและสุขภาพดีใช่มั้ยหละครับ
แต่ความจริงผมมีปัญหาเรื่องนอนกรนเสียงดังมากครับ มีคนใกล้ตัวหลายคนบอกว่าผมชอบนอนกรนเสียงดัง ทำให้เพื่อนๆ นอนไม่ค่อยหลับกัน ทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นใจเวลาไปนอนค้างคืนกับเพื่อนๆ และไม่กล้านั่งเครื่องบินอีกเลย
เพราะการนอนกรนแบบนี้ ถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจจะส่งผลให้ผมมีการนอนหลับที่ไม่ดี รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ร่างกายดูไม่ค่อยสดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า และกระทบต่อการทำงานแน่ๆ
ผมเลยอยากหาวิธีการรักษาการนอนกรนที่ตรงจุดและสามารถแก้ไขอาการทั้งหมดเหล่านี้ได้ จะได้ทำให้การนอนของผมกลับมาดีขึ้นกว่านี้ จนได้มาเจอกับ VitalSleep Clinic ครับ
ที่ VitalSleep Clinic เป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงเรื่องการรักษาปัญหาการนอนหลับตั้งแต่ต้นเหตุรวมถึงการรักษาที่มีหลายวิธี แถมยังอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะขับรถไปเองหรือนั่งรถไฟฟ้า BTS ก็สะดวกสุดๆ
จากปัญหานอนกรนของผม ก็ได้เข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ VitalSleep Clinic คุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำ Sleep Test หรือตรวจการนอนหลับก่อน
ซึ่งการตรวจการนอนหลับหรือทำ Sleep Test จะทำให้รู้ว่าการนอนหลับของเราเป็นยังไง นอนหลับมีคุณภาพแค่ไหน และผลตรวจก็จะบอกด้วยว่าเรามีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับรึเปล่า
สำหรับการทำ Sleep Test กับ VitalSleep Clinic จะบอกว่าง่ายและสะดวกมากครับ เพราะเราสามารถตรวจที่บ้านได้ พอถึงวันนัดหมายก็จะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการตรวจให้ถึงที่บ้าน
บรรยากาศและเตียงนอนก็คุ้นเคยอยู่แล้วด้วย ผมว่าส่วนนี้น่าจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายกว่าไปนอนตรวจที่โรงพยาบาลแน่นอน
ในตอนเช้าก็สามารถถอดอุปกรณ์เองได้ง่ายๆ และจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บอุปกรณ์คืน หลังจากทำ Sleep Test คลินิกจะนัดฟังผลกับคุณหมอ ซึ่งผลก็ออกมาว่าผมมีปัญหาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับถึง 51 ครั้งต่อชั่วโมง
สารบัญ
รีวิวรักษาอาการนอนกรน ที่ VitalSleep Clinic
จากปัญหาการนอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับ คุณหมอเลยแนะนำให้ใส่เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance) สำหรับรักษาอาการนอนกรนครับ
ซึ่งในเคสของผม คุณหมอแนะนำให้ใช้เครื่องมือทันตกรรม ASA6 ร่วมกับการบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจส่วนต้น หรือ Myofunctional therapy (MFT) เพื่อรักษาอาการนอนกรนและการหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งคุณหมอบอกว่าการทำ MFT มีงานวิจัยรองรับว่าเป็นวิธีที่ใช้ได้ผล
เพราะถ้าใส่อุปกรณ์ทันตกรรมร่วมกับการบำบัดกล้ามเนื้อ (MFT) จะสามารถลดเสียงกรนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น และยังช่วยบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นและใบหน้า ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจดียิ่งขึ้นไปอีก
และที่ชอบสุดๆ ก็คือเครื่องมือทันตกรรม ASA6 พกพาง่าย ยิ่งใครที่เดินทางบ่อยๆ อย่างผม ถือว่าตอบโจทย์ และใช้ง่ายสะดวกสบายสุดๆ ไม่เหมือนเครื่อง CPAP ที่พกพาลำบาก และไม่ต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งานเลยครับ
และวันนี้ผมก็มีนัดเข้ามาพบคุณหมอตี๊ นายแพทย์อมรพงษ์ วชิรมน แพทย์เฉพาะทาง American Board of Dental Sleep Medicine ประจำ VitalSleep Clinic เพื่อปรับเครื่องมือทันตกรรม ASA6 และติดตามอาการนอนกรนด้วย
พอเข้ามาคุยกับคุณหมอ ก็ได้ความรู้เยอะมากๆ เลยอยากนำความรู้เกี่ยวกับการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับมาฝากเพื่อนๆ ด้วยครับ
ทำไมการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับถึงอันตราย?
คุณหมออธิบายให้ฟังว่า การนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ ส่งผลอันตรายกับร่างกายได้ ทำให้ระดับออกซิเจนต่ำลง ระบบหัวใจและสมองทำงานหนักขึ้น และร่างกายเกิดภาวะอื่นๆ ตามมา
การนอนกรนเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หากรุนแรงก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตเลยครับ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรคใหลตาย” นั่นเองครับ แบบนอนหลับไปแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
และในเคสของผมเองที่ทำ Sleep test ผลออกมามีการหยุดหายใจขณะหลับถึง 51 ครั้งต่อชั่วโมง ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพสูงเลยทีเดียว เพราะระบบสมองจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ระบบหายใจก็ได้รับออกซิเจนที่ต่ำลง ทำให้ร่างกาย อวัยยะส่วนต่างๆ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
ส่งผลรวมไปถึงระดับฮอร์โมนและระบบการเผาผลาญของร่างกายผิดปกติไปหมดเลยครับ ยิ่งผมเป็นเทรนเนอร์ต้องควบคุมน้ำหนักถือว่ากระทบต่อการทำงานจริงๆ ครับ
รักษาอาการนอนกรนมีวิธีไหนบ้าง?
สำหรับการรักษาอาการนอนกรน คุณหมอบอกว่าจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักๆ ก็คือ การรักษาแบบผ่าตัด และการรักษาแบบไม่ผ่าตัดครับ โดยมีทางเลือกในการรักษาที่น่าสนใจ ดังนี้
- การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF Bot) เป็นวิธีการรักษาอาการนอนกรนเเละหยุดหายใจขณะหลับ ด้วยการส่งผ่านคลื่นความถี่วิทยุ ไปยังบริเวณเนื้อเยื่อโคนลิ้นหรือเพดานอ่อน เพื่อช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวให้มีความกระชับตัวมากขึ้น ลดการหย่อนคล้อย โดยใช้เวลาในการทำไม่นาน ประมาณ 15 นาที
- ใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก หรือเครื่อง CPAP จะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ สามารถใช้รักษาได้ทุกระดับอาการ แต่ในบางรายใช้ CPAP ก็อาจจะไม่เหมาะสม ต้องปรึกษาหมอเพิ่มเติมครับ
- การรักษาด้วยอุปกรณ์ทางทันตกรรม (Oral Appliance) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างมากขึ้น เเละคงสภาพไม่ให้หย่อนตัวลงขณะนอนหลับ ป้องกันไม่ให้เกิดการนอนอ้าปาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหานอนกรนเเละการหยุดหายใจขณะหลับที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องการพกอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เพราะตัวอุปกรณ์ มีขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา สามารถพกพาได้ง่าย หลายๆคนที่ใช้ CPAP แล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ครับ
- การบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าเเละทางเดินหายใจส่วนต้น หรือ Myofunctional therapy (MFT) เป็นวิธีการรักษานอนกรนจากต้นเหตุเพียงวิธีเดียวที่ช่วยให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนแข็งแรงมากขึ้น ลดโอกาสเกิดการหย่อนคล้อยตัวลงอุดกั้นทางเดินหายใจ และช่วยให้ประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น เป็นวิธีการรักษาผสมผสมตามงานวิจัย ที่คุณหมอแนะนำครับ
- การรักษาแบบผ่าตัด หากคนไข้ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีการข้างต้น หรือมีภาวะอาการที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือมีอาการนอนกรนที่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อใบหน้า ขากรรไกร เจริญผิดปกติ ทำให้มีโครงใบหน้าผิดปกติ ฟันไม่สบฟัน ทางเดินหายใจแคบ ก็จะเป็นวิธีสุดท้ายที่แพทย์จะเลือกรักษา
เนื่องจากวิธีการรักษาอาการนอนกรนมีหลายวิธีด้วยกัน เมื่อทราบผลตรวจการตรวจการนอนหลับ หรือทำ Sleep Test เรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็จะวินิฉัยอาการ ความรุนแรง และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับเรามากที่สุดให้ครับ
อยากรักษานอนกรนให้หายขาดต้องรักษาด้วยวิธีไหน
จากที่คุณหมออธิบายให้ฟัง จริงๆ เเล้วการนอนกรนเกิดขึ้นจากทางเดินหายใจส่วนบนที่เกิดการหย่อนคล้อย เเละตีบเเคบลงไปตามอายุ หรือมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ครับ บางคนอาจจะเกิดจากสรีระ โครงหน้าของใบหน้าขากรรไกรที่ผิดปกติ
ฉะนั้นคุณหมอจึงแนะนำให้รักษาอาการจากต้นเหตุแบบที่ผมกำลังรักษาอยู่นั่นก็คือ การบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นร่วมกับการใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม Oral Appliance รุ่น ASA6 เพื่อช่วยชะลอไม่ให้ทางเดินหายใจส่วนบนเกิดการหย่อนคล้อยลงไปตามอายุ และช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนการบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบน
หลังจากพูดคุยปรึกษากับคุณหมอเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นครับ
โดยขั้นตอนการบำบัดกล้ามเนื้อจะมีนักกายภาพบำบัดวิชาชีพคอยแนะนำการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเเละทางเดินหายใจส่วนต้น เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดความแข็งแรง เมื่อใช้วิธีบำบัดร่วมกับเครื่องมือทันตกรรมก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาไม่นานประมาณ 10-15 นาทีก็เสร็จแล้ว
ความรู้สึกหลังรักษาอาการนอนกรน ที่ VitalSleep Clinic
จะบอกว่าหลังจากที่ผมได้ใช้เครื่องมือทันตกรรม ASA6 ช่วยในการแก้นอนกรนก็รู้สึกสามารถแก้ไขอาการได้อย่างตรงจุดถึง 70% เลยครับ อีกอย่างคือรู้สึกนอนเต็มอิ่มมากขึ้น ร่างกายดูสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และไม่ง่วงนอนระหว่างวันเลย
และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเครื่องมือทันตกรรมตัวนี้พกพาง่าย ใช้ง่ายสะดวกสุดๆ ไม่เหมือนเครื่อง CPAP ที่พกพาลำบาก และต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งานเลยครับ ถือว่าตอบโจทย์สายท่องเที่ยว เดินทางบ่อยอย่างผมจริงๆ
สุดท้ายนี้ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องการนอนกรน อยากหาวิธีการรักษาที่ตรงจุด ผมก็แนะนำให้มาทำ Sleep Test และรักษาอาการนอนกรน ที่ VitalSleep Clinic เลยครับ เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นจากการนอนหลับที่ดีเเละมีคุณภาพ
VitalSleep Clinic เค้าดูแลรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางรักษาปัญหาการนอนที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้เป็นจำนวนมาก รวมถึงได้การรับรองโดย American Board of Dental Sleep Medicine อีกด้วย
และตอนนี้ทาง VitalSleep Clinic ก็มีโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับ HDpay อยู่ด้วย ที่ให้ทุกคนสามารถผ่อนชำระค่าบริการแบบสบายกระเป๋าได้ 0% นาน 6 เดือน ขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละบริการ
โดยเพื่อนๆ ที่สนใจสามารถแจ้งกับทางคลินิกได้เลยครับว่าต้องการผ่อนกับ HDpay หรือจะสอบถามเงื่อนไขเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ของทางคลินิกก่อนก็ได้น้า