เมื่อไหร่ที่ควรพาเด็กมาพบจิตแพทย์

รีวิว Joy Of Minds Clinic ปรับสุขภาพใจให้เป็นสุขและเสริมพัฒนาการเด็กๆ ให้สมวัย

ในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและมีแต่ความเครียด ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาสภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความกดดัน วิตกกังวล และหลายคนก็ได้ส่งเอาแรงกดดันและความคาดหวังที่มีไปสู่ลูกด้วย

เด็กๆ หลายคนต้องแบกรับภาระทางใจ และเผชิญกับบรรยากาศภายในบ้านที่ไม่อบอุ่นอย่างที่เขาต้องการ นอกจากนี้ด้วยภาระงานที่หนักหนา จึงทำให้ผู้ปกครองหลายท่านละเลยไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กๆ ในบ้าน เกิดเป็นปัญหาด้านพัฒนาการและความสัมพันธ์ในครอบครัว

Joy Of Minds Clinic เป็นคลินิกจิตเวชที่เปิดให้บริการโดยจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพจิตอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผ่านการดูแลโดยจิตแพทย์เด็ก จิตแพทย์วัยรุ่น จิตแพทย์ผู้ใหญ่ รวมถึงนักกิจกรรมบำบัดที่สามารถช่วยออกแบบกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูพัฒนาการของเด็กๆ ในสมวัยได้

Joy Of Minds Clinic

บริการดูแลสุขภาพจิตสำหรับเด็ก ที่ Joy Of Minds Clinic

Joy Of Minds Clinic มีจิตแพทย์เด็กและจิตแพทย์วัยรุ่นที่พร้อมช่วยดูแลแก้ไขปัญหาทางจิตใจของเด็กๆ ทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็กเล็กไปจนถึงเด็กวัยรุ่น

คลินิกเข้าใจถึงความซับซ้อนของปัญหาด้านจิตใจในเด็กๆ ที่หลายครั้งอาจไม่สามารถพูดออกไปให้ผู้ใหญ่ในบ้านฟังได้ หรือได้พยายามสื่อสารออกไปแล้ว แต่เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ทำให้เกิดเป็นการตีความหมายหรือเจตนาที่ผิดพลาดไป จนนำไปสู่การทะเลาะหรือความขัดแย้งในครอบครัว

ดูแลสุขภาพจิตสำหรับเด็ก

Joy Of Minds Clinic พร้อมดูแลและปรับสุขภาพจิตใจของเด็กๆ ให้สามารถสื่อสารหรือแสดงออกสิ่งที่เขาต้องการได้ตรงประเด็นและเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงการให้คำปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ ให้พูดคุยทำความเข้าใจกับลูกๆ ได้อย่างตรงจุด นำไปสู่ทางออกของความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดีขึ้น

นอกจากนี้จิตแพทย์ที่ Joy Of Minds Clinic ยังเป็นผู้ช่วยดึงศักยภาพหรือความสามารถของเด็กๆ ที่อาจซุกซ่อน แต่ยังไม่มีโอกาสได้แสดงออกหรือใช้ทักษะที่เขามีได้อย่างเต็มที่ ผ่านการทำกิจกรรมกับนักกิจกรรมบำบัด

โดยประเด็นปัญหาทางจิตใจหรือพัฒนาการของเด็กๆ ที่พบได้บ่อย และสามารถพึ่งพาคำปรึกษาจากจิตแพทย์ในการค้นหาคำตอบหรือทางแก้ได้ ได้แก่

  • ปัญหาด้านการใช้กล้ามเนื้อ เช่น
    • ยืนหรือเดินไม่ได้ด้วยตนเอง
    • ไม่สามารถหยิบจับสิ่งของด้วยตนเองได้
    • การวาดรูป หรือเขียนหนังสือได้ช้า
  • ปัญหาด้านการสื่อสาร เช่น
    • ไม่ยอมพูด
    • ชอบพูดแทรก
    • พูดวนซ้ำๆ
    • ไม่แสดงออกทางอารมณ์
    • ฟัง อ่าน เขียน หรือพูดได้ไม่สมวัย
    • ขานชื่อแล้วไม่ตอบสนอง
    • ไม่เข้าใจในคำสั่งหรือคำขอของผู้อื่น
  • ปัญหาด้านการเข้าสังคม เช่น
    • ชอบแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว
    • รู้สึกว่าเข้ากับเพื่อนๆ วัยเดียวกันไม่ได้ หรือไม่ได้รับการยอมรับ
    • การถูกบุลลี่ หรือถูกรังแกทั้งทางร่างกายและจิตใจ
    • ไม่สามารถพูดคุยเปิดใจกับคนในครอบครัวได้
    • รู้สึกเหมือนถูกละเลย
    • การใช้ยาเสพติดตามเพื่อนๆ
    • อยากหนีออกจากบ้าน
    • เสพติดการเล่นเกมหรือเล่นสื่อโซเชียลจนกระทบต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
  • ปัญหาด้านความรัก เช่น
    • ไม่แน่ใจถึงรสนิยมทางเพศ
    • การผิดหวังหรือคาดหวังเรื่องความรัก
    • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เข้าใจวิธีป้องกัน
  • ปัญหาด้านภาวะอารมณ์ เช่น
    • หงุดหงิดหรือก้าวร้าวฉุนเฉียวง่าย
    • ซึมเศร้า
    • วิตกกังวล
    • ย้ำคิดย้ำทำ
    • หมดไฟหรือเบื่อหน่ายกับสิ่งรอบตัวหรือคนรอบตัว
    • ควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาโกรธหรือโมโห
  • ปัญหาด้านสมาธิ เช่น
    • ความจำไม่ดี
    • ไม่เก็บของให้เข้าที่
    • อยู่นิ่งไม่ได้
    • ไวต่อสิ่งเร้ารอบตัว
  • ปัญหาด้านการกิน เช่น
    • กินมากเกินไป
    • กินน้อยเกินไป
    • ไม่ยอมกินข้าวเลย

พบจิตแพทย์เด็กดียังไง?

การพาเด็กๆ หรือครอบครัวมาขอคำปรึกษากับจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด แต่กลับกัน การมาพบจิตแพทย์สามารถทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มองเห็นวิธีแก้ปัญหาด้านความสัมพันธ์ สภาพจิตใจ หรือด้านพัฒนาการที่ถูกแนวทางร่วมกันได้ เช่น

  • ได้เข้าใจวิธีฝึก สอน หรืออบรมดูแลเด็กๆ ในบ้านอย่างเหมาะสม
  • เสริมพัฒนาการเด็กที่อาจช้าหรือไม่สมวัยให้กลับมาตามทันช่วงวัยของเขา
  • เข้าใจวิธีการสื่อสารพูดคุยต่อกันและกันทั้งในฝั่งเด็กและฝั่งผู้ใหญ่
  • เพื่อฝึกเด็กให้รู้จักการควบคุมอารมณ์ และเรียนรู้การใช้เหตุผลนำในการทำกิจกรรมหรือพูดคุยกับคนรอบตัว
  • เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวมีความเข้าใจปัญหาภายในบ้านอย่างตรงกันมากขึ้น และรู้วิธีแก้ไข
  • เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความเข้าใจถึงพัฒนาการหรือสภาพจิตใจของเด็กๆ มากขึ้น
  • เพื่อช่วยลดความกดดัน ความคาดหวัง หรือความเครียดที่ผู้ปกครองมีต่อเด็กๆ รวมถึงที่ผู้ปกครองมีต่อตนเอง ในฐานะผู้ใหญ่ที่ต้องเลี้ยงดูเด็กให้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพได้
  • เพื่อช่วยดึงศักยภาพหรือความสามารถของเด็กๆ ให้แสดงออกมาได้มากขึ้นและอย่างถูกทาง
  • เพื่อให้เด็กๆ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ตนเองต้องการออกมา โดยปราศจากความกลัวหรือความวิตกกังวลต่อสายตาผู้อื่น

พบจิตแพทย์เด็ก ดียังไง?

เมื่อไหร่ที่ควรพาเด็กมาพบจิตแพทย์

นายแพทย์จตุภัทร คุณสงค์ จิตแพทย์ประจำ Joy Of Minds Clinic ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับวิธีสังเกตปัญหาด้านพัฒนาการเด็กซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ด้าน โดยหากพบว่าเด็กๆ ในบ้านมีปัญหาแม้เพียงหนึ่งใน 4 พัฒนาการนี้ ก็ควรพาเด็กมาพบจิตแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยไม่ต้องรอให้อาการรุนแรงขึ้นหรือเด็กมีช่วงวัยโตขึ้นกว่าเดิม

เรื่องของพัฒนาการเด็กจะมีทั้งหมด 4 ด้านคือ

  1. การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่หรือ Gross Motor Skills เช่น การยืน การเดิน ถ้าเด็กอายุ 1 ขวบแล้วยังเดินเกาะราวเองไม่ได้ แสดงว่าเขาอาจมีปัญหาด้านพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่
  2. การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine Motor Skills) เช่น การหยิบจับสิ่งของ การวาดภาพระบายสี ถ้าเด็กอายุ 2-3 แล้วยังวาดรูปง่ายๆ เช่นวงกลมไม่ได้ หรือยังจับดินสอขีดเขียนไม่ได้ อันนี้คุณพ่อคูณแม่อาจจะต้องเริ่มมองแล้วว่าเขาอาจมีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อล่าช้าครับ
  3. การใช้ภาษา (Language Development) ถ้าเด็กอายุ 2 ขวบแล้วแต่ยังพูดคำเดี่ยวๆ สั้นๆ ไม่ได้ อันนี้ก็อาจจะต้องสงสัยแล้วว่าเขามีปัญหาด้านพัฒนาการด้วยหรือไม่
  4. การเข้าสังคม (Social Development) ผ่านการสังเกตว่าเด็กรู้จักเล่นกับผู้ใหญ่ พี่เลี้ยง หรือเพื่อนๆ วัยเดียวกันกับเขาบ้างมั้ย เขารู้จักวิธีสื่อสารพูดคุยกับคนรอบตัวหรือเปล่า

นี่เป็นสิ่งที่เราสามารถสังเกตได้ ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่มองเห็นแล้วว่าเขามีพัฒนาการเริ่มช้าก็อย่าลังเลและอย่าปล่อยไว้นานครับ ควรพาเด็กมาพบจิตแพทย์เด็ก เพราะมันจะช่วยให้เขาเกิดการเรียนรู้และมีพัฒนาการเท่าทันกับเด็กวัยเดียวกัน

พาลูกไปพบจิตแพทย์ที่ไหนดี?

พาลูกมาพบจิตแพทย์เด็ก ไม่ได้ดูน่ากลัวหรือดูเป็นครอบครัวมีปัญหาอย่างที่หลายคนคิด

แนวคิดเกี่ยวกับการมาพบจิตแพทย์ของใครหลายคนที่มองว่าดูเป็นปัญหาใหญ่ น่ากังวล และอาจทำให้ภาพลักษณ์ของครอบครัวดูเป็นบ้านที่มีปัญหา

นายแพทย์จตุภัทร อธิบายว่า การมาพบจิตแพทย์ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว หากมองในอีกแง่ก็ไม่ต่างจากการเจ็บป่วยทางกาย และผู้ป่วยจำเป็นต้องมาหาหมอเพื่อปรึกษาวิธีรักษา ซึ่งการมาพบจิตแพทย์ให้ข้อดีเกี่ยวกับการกระตุ้นพัฒนาการเด็กได้หลายด้านอีกด้วย

ทำไมถึงควรพาลูกมาพบจิตแพทย์

“อยากฝากถึงคุณพ่อคุณแม่หลายท่านครับ จริงๆ แล้วจิตแพทย์ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวเลย เราก็เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง มองเราเป็นลุงป้าน้าอาที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาคนก็ได้ และสามารถเข้ามาปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่ได้จำเป็นต้องป่วยรุนแรง หรือมีอาการถึงขั้นก้าวร้าวควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วค่อยพาเด็กๆ มาหา ไม่จำเป็นเลยครับ”

บางครั้งถ้าเห็นแล้วว่าเด็กๆ ไม่มีความสุข เล่นกับเพื่อนไม่ได้ หรือดูทะเลาะกันบ่อย หรือน้องๆ ดูล่าช้าในบางพัฒนาการ ก็สามารถเข้ามาให้หมอช่วยกระตุ้นได้เลย ให้เขาได้ใช้ความสามารถและศักยภาพได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าสังเกตเห็นว่าเขาดูมีบางอย่างเปลี่ยนไป แค่นิดๆ หน่อยๆ หรือมีอะไรที่ไม่โอเคเพียงนิดเดียว ก็เข้ามาคุยกันได้เลย

ดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใหญ่

นอกจากบริการดูแลสุขภาพจิตสำหรับเด็ก Joy Of Minds Clinicc ยังให้บริการกลุ่มผู้ใหญ่ที่กำลังเผชิญปัญหาด้านสภาพจิตใจ และต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คำแนะนำในการปรับแก้สิ่งที่เผชิญอยู่อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความวิตกกังวล ความผิดหวัง ภาวะซึมเศร้า หมดไฟ หรือปัญหาด้านจิตใจอื่นๆ

Joy Of Minds Clinic ยังมีบริการเวิร์กช็อปดูแลสุขภาพจิต เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในเชิงรุกให้กับเหล่าพนักงานในองค์กรหรือบริษัทต่างๆ รวมถึงมีบริการทำแบบประเมินสุขภาพจิต เพื่อหาความเสี่ยงปัญหาด้านจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรคเครียด โรควิตกกังวล

หรือหากใครสนใจอยากปรึกษาแพทย์โดยตรง ที่ Joy Of Minds Clinic มีจิตแพทย์ผู้ใหญ่พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านอย่างเต็มที่

ผู้มาใช้บริการ ที่ Joy Of Minds Clinic

ขั้นตอนการเข้ารับบริการที่ Joy Of Minds Clinic นั้นแสนง่าย เพียงจองผ่านทางออนไลน์ได้ที่ HDmall.co.th ในวันรับบริการ เพียงยื่นคูปองที่แอดมินออกให้กับทางคลินิกและทำแบบประเมินเบื้องต้น จากนั้นเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาที่คุณต้องการแก้ไข หลังจากนั้นหากต้องมีการใช้ยารักษา ก็รับยาที่สั่งจ่ายโดยจิตแพทย์ของทางคลินิก และเดินทางกลับบ้านได้ทันที

ฟื้นฟูความอบอุ่นภายในครอบครัวและเสริมพัฒนาการ ความสามารถของลูกน้อยให้สมวัย ด้วยการดูแลจากจิตแพทย์ที่ Joy Of Minds Clinic หรือหากคุณกำลังเผชิญความเครียด ความกดดัน หรือปัญหาด้านจิตใจไม่ว่าด้วยเรื่องราวแบบใด ให้ Joy Of Minds Clinic เป็นผู้มอบทางออกที่ใช่ให้กับคุณ

Scroll to Top