ตอนนี้เราอายุ 29 ปีแล้วค่ะ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เป็นคนชอบทำงาน พักผ่อนน้อย พอเริ่มมีงานเยอะขึ้น ก็ยิ่งทำให้ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลยค่ะ
จนช่วงหลังๆ หน้าเราโทรมมากๆ ผิวหน้าไม่สดใส เริ่มหย่อนคล้อยและดูมีอายุสุดๆ แถมเวลาแต่งหน้าก็ไม่ค่อยติดทนด้วย
พอเจอปัญหาแบบนี้เลยเริ่มรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในใบหน้าของตัวเอง ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงสักเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นสักที คิดว่าปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว เลยต้องรีบหาตัวช่วยดีๆ ที่สามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างเร่งด่วนค่ะ
จนเราได้มาเจอว่า ที่ Bangkok Genesis Clinic มีโปรแกรมตัวนึงชื่อว่า GlowLifting และ FulLifting
ที่เป็นการผสมผสานการใช้ Biostimulator และ Skinbooster เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ช่วยยกกระชับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าให้งานผิวแบบฉ่ำๆ กันเลย
แต่ที่เราชอบสุดๆ ก็คือที่ Bangkok Genesis Clinic เค้าดูแลโดยคุณหมอผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เราเลยรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจเข้ามาใช้บริการที่นี่ทันทีค่ะ
สารบัญ
รีวิวโปรแกรม GlowLifting ที่ Bangkok Genesis Clinic
พอมาถึงที่ Bangkok Genesis Clinic ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ว่ามาใช้บริการ GlowLifting จากนั้นก็ลงทะเบียนทำประวัติลูกค้าใหม่ก่อน พอลงทะเบียนเสร็จแล้วก็เข้าไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษาปัญหาผิวหน้าได้เลยค่ะ
ก่อนอื่น คุณหมอจะสอบถามเราว่ามีความกังวลปัญหาผิวเรื่องอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นก็ตรวจเช็กดูปัญหาผิวหน้าและให้คำปรึกษาเบื้องต้นพร้อมกับแนะนำโปรแกรม GlowLifting ให้ฟังด้วย
จากการประเมินปัญหา คุณหมอก็บอกว่าเรามีปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก มาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ดูไม่สดใส ดูโทรม แถมยังมีแก้มค่อนข้างเยอะ ทำให้หน้าดูหย่อนคล้อย ไม่ค่อยกระชับ บวกกับผิวหน้าที่แห้งกร่านจึงส่งผลให้เวลาแต่งหน้าก็ไม่ค่อยติดนั่นเองค่ะ
คุณหมอเลยแนะนำโปรแกรม GlowLifting โดยจะใช้ Sculptra ควบคู่กับ Restylane ซึ่งเป็น Biosimulator และ Skinbooster ในการฉีดเข้าไปเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมและเติมเต็ม แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมมิติใต้ตาได้ด้วย
ขมับและแก้มที่ตอบ คุณหมอฉีด Sculptra ปริมาณ 1 ขวด เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็ม และยกกระชับใบหน้า ทำให้ฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาดูแน่น เต่งตึงเหมือนเด็กอีกครั้ง
ในส่วนของบริเวณใต้ตา คุณหมอจะใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น Vital Light เนื่องจากรุ่นนี้มีเนื้อที่ค่อนข้างนิ่ม เหมาะสำหรับการฉีดเติมบริเวณที่เป็นเนื้อเยื่ออ่อน
โดยจะใช้ฟิลเลอร์ข้างละประมาณ 1 cc ในการฉีดเสริมมิติใต้ตาเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ใต้ตาสดใสยิ่งขึ้นค่ะ
ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?
อันนี้คุณหมอบอกว่าฉีดครั้งเดียวแต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของผิว และอายุของเรา และการดูแลผิวหลังทำด้วยนะคะ
นอกจากนี้คุณหมอก็อธิบายให้ฟังเพิ่มเติมว่า ตัว Sculptra สามารถฉีดต่อเนื่องกันภายใน 3 เดือน เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการกระตุ้นคอลลาเจน
โดยมาตราฐานแล้วจะคำนวนจากอายุของเราแล้วหารด้วย 10 ก็ทราบว่าเราควรจะฉีด Sculptra อย่างต่อเนื่องจำนวนกี่ขวด
โดยผลลัพธ์หลังการได้ฉีด Sculptra จะช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ดูกระจ่างใสและดูโกลว์ขึ้น และที่สำคัญช่วยให้ผิวหน้าแลดูอ่อนกว่าวัยเหมือนผิวเด็กๆ อีกครั้ง
GlowLifting เหมาะกับใครบ้าง?
คุณหมอบอกว่า เมื่ออายุมากขึ้นหรืออายุเกิน 25-40 ปีขึ้นไป ใบหน้าของคนส่วนใหญ่ประมาณ 90% จะเริ่มหย่อนคล้อยลง และดูไม่ค่อยกระชับ โปรแกรม GlowLifting ก็เลยเหมาะกับคนที่มีปัญหาในช่วงวัยนี้
แต่ถ้าอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป คุณหมอจะแนะนำให้ทำโปรแกรม Fulllifting ที่นำเอาจุดเด่นของ Biostimulator 2 ตัว ก็คือ Sculptra และ Radiesse มาช่วยยกกระชับและเติมเต็มแทนค่ะ
โดยผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมากให้เต็มขึ้น สมูธสวยเป็นธรรมชาติด้วยคอลลาเจนของเราเอง อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย
ขั้นตอนการกู้ผิวโทรมเป็นผิวใสด้วยโปรแกรม GlowLifting
เริ่มแรก เจ้าหน้าที่จะเก็บผมให้เราแล้วก็ทำการคลีนหน้าพร้อมกับแปะยาชาทิ้งไว้ก่อนค่ะ บอกเลยว่าเจ้าหน้าที่บริการดีมาก ระหว่างลงยาชาพี่เค้าจะนวดหน้าให้ด้วยค่ะ บวกกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ แทบจะหลับไปเลยค่ะ
พอยาชาออกฤทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเช็ดยาชาออก จากนั้นคุณหมอจะเริ่มเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูป Active form โดยผสม Sculptra เข้ากับ Sterile water เสร็จแล้วคุณหมอก็จะนำดินสอมาวาดมาร์กจุดบริเวณที่จะฉีด Sculptra และฟิลเลอร์ให้ก่อน
โดยคุณหมอจะเริ่มฉีด Sculptra บริเวณขมับ แก้ม และกรอบหน้าข้างขวาก่อนค่ะ หลังจากฉีดเสร็จก็จะนวดหน้าเพื่อให้ยากระจายตัวไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ข้างขวาต่อเลย
ความรู้สึกระหว่างทำ ตอนแรกเราก็กังวลว่าจะเจ็บหรือเปล่า แต่พอได้ทำจริงๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอย่างที่คิดเลยค่ะ แค่รู้สึกจี๊ดๆ เล็กน้อยแบบทนได้
หลังจากฉีด Sculptra และฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จไป 1 ข้างแล้ว คุณหมอก็จะให้ดูกระจกก่อนค่ะว่าผลลัพธ์ที่ได้เป็นยังไงบ้าง
จะบอกว่าเราส่องกระจกดูก็รู้สึกว้าวกับผลลัพธ์ที่ได้มากๆ เลยค่ะ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเลยว่าข้างที่ฉีดดูเต็ม ดูสดใส และยกกระชับขึ้นกว่าข้างที่ไม่ได้ฉีดมากๆ โดยรวมใช้เวลาฉีดไปประมาณ 30 นาทีก็เสร็จทั้ง 2 ข้างแล้วค่ะ
หลังจากทำเสร็จ หน้าของเราจะมีความแดงจากเข็มและระบมบ้างนิดนึงค่ะ แต่คุณหมอบอกว่ารอประมาณ 1-2 ชั่วโมง รอยแดงจะค่อยๆ ลดลงไปเอง
ทั้งนี้ คุณหมอก็ได้แนะนำให้นวดหน้าทั้งหมด 5 ท่า เป็นจำนวน 5 ครั้ง โดยจะต้องทำต่อเนื่องกันประมาณ 5 วันค่ะ ซึ่งการนวดหน้าก็จะช่วยให้ยากระจายตัวไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้อย่างสม่ำเสมอค่ะ
ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม GlowLifting
ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าการทำ GlowLifting แค่ครั้งเดียวจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขนาดนี้ ทั้งนี้คุณหมอบอกว่าผลลัพธ์หลังทำเราจะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อผ่านไปสักประมาณ 1 เดือนค่ะ
แต่สำหรับเราผลลัพธ์ที่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกก็ถือว่าพอใจมากๆ แล้วค่ะ เพราะจากตอนแรกที่ผิวดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หน้าดูโทรม และเบ้าตาลึก หลังทำผิวหน้าก็ดูยกกระชับขึ้น ขมับดูเต็ม ร่องแก้มและใต้ตาดูตื้นขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
บรรยากาศของ Bangkok Genesis Clinic
บรรยากาศของ Bangkok Genesis Clinic ภายในคลินิกก็กว้างขวาง ตกแต่งสวยงาม เรียบหรูดูน่าใช้บริการมากค่ะ สำหรับคนที่ขับรถมาเองก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดเลย สามารถจอดรถบริเวณลาน The Crystal ราชพฤกษ์ ได้เลย
นอกจากบรรยากาศที่ดีมากๆ แล้ว ด้านการให้บริการของที่นี่ก็ดีเช่นกัน เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี คุณหมอเองก็ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาได้ดีมากๆ ทั้งอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับตัว Sculptra และฟิลเลอร์ให้เข้าใจ พร้อมแนะนำวิธีการดูแลตัวเองให้อย่างละเอียดด้วย
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยฟื้นฟูผิวหน้าแบบจัดเต็ม หน้ากลับมาดูเด็กอีกครั้ง เราแนะนำให้มากู้ผิวด้วยโปรแกรม GlowLifting ที่ Bangkok Genesis Clinic เลยค่ะ รับรองผลลัพธ์ออกมาปังแน่นอน
และตอนนี้ทาง Bangkok Genesis Clinic เค้ามีโปรโมชั่นเด็ดๆ ร่วมกับ HDpay ที่ให้เราผ่อนชำระค่าบริการได้ 0% นาน 10 เดือนอยู่ด้วยนะคะ เสกความสวยได้ในราคาสบายกระเป๋าแบบนี้พลาดไม่ได้เลยน้า
