- กระดูกสันหลัง เป็นโครงกระดูกที่ช่วยป้องกันอันตรายแก่ระบบประสาทไขสันหลัง ซึ่งมีหน้าที่รับความรู้สึก รวมถึงส่งกระแสประสาทจากสมองเพื่อสั่งการกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
- เมื่อไรก็ตามที่กิจกรรมหรือพฤติกรรมที่เราทำส่งแรงกระแทกลงไปยังกระดูกสันหลังซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน หมอนรองกระดูกก็มีโอกาสเสื่อมหรือฉีกขาดจนปลิ้นตัวออกมา และไปกดทับเส้นประสาทจนกลายเป็น “โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท”
- อาการปวด เป็นอาการที่พบได้ในทุกโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง โดยตำแหน่งที่ปวดมักจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ เช่น ปวดคอ ปวดหลัง ปวดสะโพก
- ความเสื่อมตามอายุ น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การนั่งอยู่กับที่นานๆ การได้รับบาดเจ็บ เป็น 4 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้มากที่สุด
- โรคกระดูกสันหลังคด เป็นโรคที่ไม่ได้มีอาการแสดงร้ายแรง แต่มักทำให้ลักษณะทางกายภาพของผู้ป่วยมีความไม่สมดุล เช่น ไหล่ไม่เท่ากัน กระดูกสะบักนูนไม่เท่ากัน ความเว้าของเอว 2 ข้างไม่เสมอเท่ากัน
สารบัญ
โรคที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง
กระดูกสันหลังเป็นตำแหน่งที่ต้องรองรับน้ำหนักของร่างกายทั้งเวลาที่เราพักอยู่เฉยๆ และในระหว่างที่ทำกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่กระดูกสันหลังจะเกิดความเสื่อมหรือผิดปกติขึ้นได้ หากปล่อยให้กระดูกรับน้ำหนักร่างกายมากเกินไป หรือทำกิจกรรมในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
โดยโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ได้แก่
1. โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูก เป็นเนื้อเยื่อที่คั่นกลางอยู่ระหว่างข้อกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ทำหน้าที่เสริมความยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทก รวมถึงรับน้ำหนักของร่างกายระหว่างที่ทำกิจกรรมต่างๆ
แต่เมื่อไรก็ตามที่กิจกรรมหรือพฤติกรรมที่เราทำส่งแรงกระแทกลงไปยังกระดูกสันหลังซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน หมอนรองกระดูกก็มีโอกาสเสื่อมหรือฉีกขาดจนปลิ้นตัวออกมา และไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ด้านหลังจนกลายเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (Herniated Disc) ซึ่งมักก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- ปวดคอ ในกรณีที่การกดทับของเส้นประสาทเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ
- ปวดหลัง และมักจะปวดจนร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง
- ปวดสะโพกหรือเอวส่วนล่าง โดยอาจปวดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง
- มีอาการชาที่ขา น่อง เท้า
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ขาเกร็ง
- กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้
กิจกรรมและการพฤติกรรมที่มักส่งผลทำให้มีโอกาสเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ได้แก่
- การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป
- การก้มเงยบ่อยๆ
- การยกของหนักบ่อยๆ
- การสะพายกระเป๋าหนักๆ ด้วยไหล่ข้างเดียว
- การทำงานอยู่ในที่ที่มีแรงสั่นสะเทือนบ่อยๆ
- การนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน
- การไม่ออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อหลังที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กระดูกสันหลังอ่อนแอลง
- การออกกำลังกายหนักเกินไป ซึ่งสามารถส่งผลให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป หรือในท่าที่ไม่เหมาะสม
- การขับรถนานๆ
- การประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อกระดูกสันหลัง
- พฤติกรรมสูบบุหรี่จัด
ปวดหลังร้าวลงขา เริ่มรู้สึกชา จนรู้สึกกังวลใจ อาการแบบนี้เป็นเพราะกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทหรือเปล่า อยากเช็กให้ชัวร์ ทำนัดคุยกับแพทย์เฉพาะทาง ผ่านแอดมิน HDcare ได้ที่นี่
2. โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ
โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ (Spinal Stenosis) เป็นโรคที่เกิดจากการตีบแคบลงของโพรงกระดูกสันหลังซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเส้นประสาทไขสันหลังซึ่งอยู่ภายใน โดยอาจตีบแคบที่โพรงกระดูกเพียงระดับเดียว หรือหลายระดับก็ได้ และส่งผลให้มีการกดทับของเส้นประสาทจนก่อให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น
- อาการปวด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่โพรงประสาทตีบแคบ เช่น ปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอว และมักจะมีอาการมากขึ้นระหว่างอยู่ในท่ายืน
- อาการชา
- อาการเสียวแปลบที่มือ แขน เท้า หรือขา
- อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่มือ แขน ขา หรือเท้า
- มีปัญหาด้านการทรงตัว
ปัจจัยที่มักทำให้เกิดโรคพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ได้แก่
- ความเสื่อมตามอายุ จึงมักพบโรคนี้ได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ
- ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลังตั้งแต่กำเนิด
- พฤติกรรมยกของหนักบ่อย
- พฤติกรรมนั่งหรือขับรถนานๆ
- การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป
- การได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
- การเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภาวะกระดูกโตผิดปกติ การมีเนื้องอกในไขสันหลัง
3. โรคกระดูกสันหลังคด
โรคกระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คือ โรคที่เกิดขึ้นเมื่อแนวกระดูกสันหลังซึ่งจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงเกิดการคดงอเป็นรูปตัว C หรือตัว S จัดเป็นโรคในกระดูกสันหลังที่ไม่ได้ร้ายแรงนัก แต่เมื่อผู้ป่วยอายุมากขึ้น ความคดงอของกระดูกสันหลังก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจหรือปอดได้
ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังคดมักจะมีลักษณะทางกายภาพดังต่อไปนี้
- ไหล่ไม่เท่ากัน
- กระดูกสะบักนูนไม่เท่ากัน
- ความเว้าของเอว 2 ข้างไม่เสมอเท่ากัน
- สะโพก 2 ข้างสูงต่ำไม่เท่ากัน
- ขา 2 ข้างยาวไม่เท่ากัน
โรคกระดูกสันหลังคดมักเกิดได้จากสาเหตุดังนี้
- ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลังตั้งแต่กำเนิด
- ความผิดปกติของเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถรักษาสมดุลของแกนกลางลำตัวและกระดูกสันหลังได้
- ความเสื่อมของกระดูกสันหลังตามอายุ
- การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
4. โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม (Degenerative Disc) เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เกิดได้จากอายุที่มากขึ้น การใช้งานหนัก การการใช้งานไม่เหมาะสม เช่น นั่งนานๆ ยกของหนักในท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ จนทำให้กระดูกสันหลังสูญเสียความยืดหยุ่นและความแข็งแรงในการรองรับแรงกระแทก ทำให้เกิดเป็นอาการผิดปกติตามมา เช่น
- ปวดคอ
- ปวดหลัง โดยอาจเริ่มจากปวดแบบเป็นๆ หายๆ ก่อนและกลายมาเป็นอาการปวดแบบเรื้อรัง
- ปวดหลังจนร้าวลงขา
- อาการตามแขน ขา เท้า
- อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้
ปัจจัยของการเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ได้แก่
- ความเสื่อมตามอายุ
- การมีน้ำหนักตัวมากไป
- การขับรถนานๆ หรือนั่งอยู่กับที่นานๆ เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และไม่มีลุกขยับร่างกายบ้าง
- การยกของหนักบ่อยๆ
- การประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อกระดูกสันหลัง
- พฤติกรรมสูบบุหรี่จัด
5. โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis) คือ ภาวะที่ข้อกระดูกสันหลังเคลื่อนออกจากแนวปกติไปด้านหน้าหรือด้านหลัง โดยส่วนมากมักพบที่ข้อกระดูกส่วนเอวระดับข้อที่ 4 และข้อที่ 5 เนื่องจากเป็นระดับข้อกระดูกสันหลังที่ต้องรับน้ำหนักร่างกายมากที่สุด และก่อให้เกิดอาการผิดปกติที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น
- ปวดหลังเรื้อรัง และมักจะมีอาการมากขึ้นระหว่างขยับหรือใช้งานหลัง เช่น ระหว่างก้ม เงย เดิน ยกของ
- ปวดหลังร้าวลงไปถึงต้นขาหรือก้น
- ปวดขาหรือมีอาการชาที่ขาหรือสะโพก และมักจะดีขึ้นเมื่ออยู่ในท่าก้มโค้งหรือนั่งพัก บางครั้งอาจชาลงไปถึงที่เท้า
- เดินได้สั้นลง
- รู้สึกตึงหรือเมื่อยกล้ามเนื้อหลังเร็วขึ้น โดยเป็นผลมาจากการทำงานที่หนักขึ้นของกล้ามเนื้อหลังเพื่อทดแทนกระดูกสันหลังที่เคลื่อน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้
ปัจจัยหลักที่ทำให้กระดูกสันหลังมีโอกาสเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติ ได้แก่
- ข้อกระดูกสันหลังผิดปกติแต่กำเนิด
- ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมมาก
- เกิดการแตกหักที่กระดูกสันหลังซึ่งเชื่อมระหว่างปล้องกระดูกสันหลังกับส่วนหางของกระดูกสันหลัง
- ข้อต่อฟาเซ็ต (Facet Joint) ซึ่งเป็นข้อต่อที่อยู่ด้านหลังของกระดูกสันหลังเกิดจากเสื่อม ทำให้กระดูกสันหลังขาดความมั่นคงในการเคลื่อนไหว
- การทำกิจกรรมหรือการเล่นกีฬาที่ทำให้เกิดแรงตึงสะสมในกระดูกหลังส่วนล่าง เช่น ฟุตบอล ยกน้ำหนัก ยิมนาสติก กรีฑา
- การได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
- การลุกลามของโรคหรือการติดเชื้อบางชนิดมายังกระดูกสันหลัง เช่น โรคมะเร็ง เนื้องอก วัณโรคกระดูกสันหลัง
การเข้าใจโครงสร้าง และโอกาสเกิดความผิดปกติที่พบได้บ่อยของกระดูกสันหลัง เป็นจุดเริ่มต้น ที่ให้หลายๆ คนเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติ หรือชะลอความเสื่อมให้ช้าลงได้
แต่หากคุณเริ่มมีอาการปวดหลังเรื้อรัง ปวดร้าวลงแขน ขา รู้สึกชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือมีปัญหาในการเคลื่อนไหว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพราะยิ่งตรวจพบและรักษาได้รวดเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่หายจากโรคก็สูงขึ้นตามไปด้วย
เริ่มมีอาการ คล้ายว่ากระดูกสันหลังจะผิดปกติ อยากปรึกษาและตรวจกับแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย