Default fallback image

8 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการรักษาโรคเนื้องอกไขสันหลัง

โรคเนื้องอกไขสันหลัง เป็นโรคเนื้องอกที่มักพบได้ไม่บ่อยนัก ความรู้และความเข้าใจพื้นฐานของคนทั่วไปที่มีต่อโรคนี้ รวมถึงข้อมูลด้านกระบวนการรักษาจึงมีค่อนข้างน้อย  วันนี้เราจึงจะมารวบรวม 8 ข้อควรรู้และความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาโรคเนื้องอกไขสันหลังให้คุณได้อ่านพร้อมๆ กัน

1. มีเนื้องอกไขสันหลัง ทำให้เกิดอาการอย่างไร?

ตอบ: โรคเนื้องอกไขสันหลังมีอาการบ่งชี้หลักที่เด่นชัด คือ อาการปวด โดยจะมีลักษณะของอาการดังต่อไปนี้

  • มักพบอาการปวดที่คอ เอว ชายโครง หลังส่วนบน หรือหลังส่วนล่าง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีก้อนเนื้องอก
  • อาการปวดมักจะเกิดขึ้น 2 แบบ ได้แก่ แบบร้าวเหมือนถูกของมีคมแทงอยู่ข้างในผิว และมักจะร้าวลงไปยังตำแหน่งอื่นๆ ของร่างกายด้วย เช่น มือ แขน สะโพก ขา กับปวดแบบหน่วงจนทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่ข้างใน
  • อาการปวดมักเริ่มต้นจากเพียงเล็กน้อย และจะค่อยๆ พัฒนาความรุนแรงมากขึ้นจนปวดตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เวลานอนหรือเวลาพักอยู่เฉยๆ รวมถึงไม่สามารถบรรเทาให้หายได้ด้วยการยาแก้ปวด หรือวิธีแก้ปวดทั่วไป
  • ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดที่ร่างกายเพียงซีกเดียว หรือปวดพร้อมกันทั้ง 2 ซีก

นอกจากอาการปวด อาการบ่งชี้อื่นๆ ที่พบได้บ่อยจากโรคเนื้องอกไขสันหลัง ได้แก่

  • มีอาการชาตั้งแต่ที่มือ แขน ขา 
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาจรุนแรงได้ถึงขั้นเป็นอัมพาต
  • สูญเสียการควบคุมปัสสาวะและอุจจาระ
  • สูญเสียสมรรถภาพทางเพศ
  • การรับรู้ความรู้สึกเปลี่ยนไป เช่น ไวต่อความเย็นหรือความร้อนมากขึ้น รับรู้ความเจ็บปวดได้น้อยลง

2. เนื้องอกไขสันหลัง ไม่ผ่าตัดได้ไหม?

ตอบ: การรักษาโรคเนื้องอกไขสันหลังสามารถรักษาได้หลายวิธี โดยวิธีหลักๆ แบ่งออกได้ 4 วิธี คือ การติดตามดูอาการ การผ่าตัดซึ่งเป็นวิธีรักษาหลัก ตามด้วยการฉายรังสีรักษา การทำเคมีบำบัด

แพทย์จะเป็นผู้ประเมินวิธีรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยเป็นรายบุคคล โดยกลุ่มผู้ป่วยที่แพทย์มักพิจารณายังไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัด ได้แก่

  • กลุ่มผู้ป่วยที่ก้อนเนื้องอกไขสันหลังไม่ใช่ชนิดมะเร็ง มีขนาดเล็ก และอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสก่ออันตรายต่อระบบประสาทและสมองได้ต่ำ ในผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะใช้วิธีติดตามอาการเป็นระยะๆ ไปก่อน 
  • กลุ่มผู้ป่วยที่ก้อนเนื้องอกไขสันหลังอยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงอันตรายสูงต่อโครงสร้างสำคัญกระดูกสันหลังและเส้นประสาท แพทย์อาจพิจารณาให้รับการรักษาด้วยวิธีอื่นเพื่อลดขนาดเนื้องอกก่อนแล้วค่อยรับการผ่าตัด หรือหากการผ่าตัดเสี่ยงอันตรายเกินไป ก็จะพิจารณาให้รักษาด้วยวิธีอื่นแทน
  • กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัดได้

3. เนื้องอกไขสันหลังที่ไม่ใช่มะเร็งรักษาได้อย่างไร?

ตอบ: หากผลตรวจวินิจฉัยพบว่า เนื้องอกที่ไขสันหลังไม่ใช่มะเร็ง แพทย์จะประเมินแนวทางการรักษาโดยวิเคราะห์จากหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่ง ขนาด ลักษณะของก้อนเนื้อ สุขภาพของผู้ป่วย

หากก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็ก อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง ส่วนมากแพทย์ก็จะให้ผู้ป่วยรอติดตามดูอาการไปก่อน โดยจะนัดหมายให้กลับมาตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือทำ MRI เป็นระยะๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของก้อนเนื้องอก

แต่หากก้อนเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งที่กดเบียดเส้นประสาท หรือก่ออาการผิดปกติหลายอย่างจนผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันลำบาก เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดสะโพกอย่างรุนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรง แพทย์ก็มักพิจารณาให้ผู้ป่วยรับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด เนื่องจากเป็นวิธีที่จะช่วยนำก้อนเนื้องอกออกได้เร็วที่สุด

4. เนื้องอกไขสันหลัง ผ่าตัดเอาออกได้หมดเลยไหม?

ตอบ: โดยทั่วไปแพทย์จะผ่าตัดนำก้อนเนื้องอกไขสันหลังออกทั้งหมดหรือนำออกให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่ง ขนาด ลักษณะ ชนิดของก้อนเนื้องอก 

หากก้อนเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อโครงสร้างกระดูกสันหลังและเส้นประสาท แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดนำเนื้องอกออกเพียงบางส่วน แล้วใช้วิธีรักษาอื่นๆ เพิ่มเติมหลังผ่าตัดอีกครั้ง เช่น ฉายรังสีรักษา ทำเคมีบำบัด

หรือในอีกกรณี คือ แพทย์พิจารณาไม่ให้ใช้วิธีผ่าตัด และเลือกใช้วิธีรักษาอื่นที่เสี่ยงอันตรายน้อยกว่า หรือเพื่อลดขนาดก้อนเนื้องอกให้เล็กลงก่อน แล้วค่อยผ่าตัดนำก้อนเนื้องอกออกในภายหลัง

5. เนื้องอกไขสันหลัง ผ่าแล้วจะเป็นอัมพาตไหม?

ตอบ: อาการอัมพาต เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังผ่าตัดเนื้องอกไขสันหลัง แต่โดยทั่วไปแพทย์จะให้ความระมัดระวังสูงในการผ่าตัด เพื่อไม่ให้กระบวนการผ่าตัดสร้างความเสียหายต่อระบบประสาทของผู้ป่วย โดยเฉพาะการผ่าตัดเนื้องอกไขสันหลังซึ่งเป็นการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทโดยตรง

เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงสูงที่สุด ผู้ป่วยควรเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกไขสันหลังกับแพทย์เฉพาะทางและในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

6. ผ่าตัดเนื้องอกไขสันหลัง พักฟื้นนานแค่ไหน?

ตอบ: โดยทั่วไปหลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 คืน และแพทย์จะให้ผู้ป่วยลุกเดินโดยทันทีหลังจากผู้ป่วยฟื้นจากยาสลบ เพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จากนั้นหากไม่มีสัญญาณอาการแทรกซ้อนใดๆ ผู้ป่วยก็สามารถเดินทางกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้

สำหรับระยะเวลาที่ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงานได้ ในกรณีที่ทำงานประจำที่ไม่ได้ใช้แรงหนัก เป็นงานนั่งโต๊ะทำงานทั่วไป แพทย์มักจะอนุญาตให้กลับไปทำงานได้หลังผ่าตัดประมาณ 3-4 สัปดาห์

แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยทำงานที่ใช้แรงหนัก ระยะเวลาที่จะกลับไปทำงานได้อย่างเต็มที่จะขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ แต่โดยทั่วไปแพทย์จะให้ผู้ป่วยงดยกของหนัก งดทำกิจกรรมหนักๆ หรือออกกำลังกายหนักๆ 1-2 เดือน

7. โรคมะเร็งไขสันหลัง รักษาแล้วหายขาดไหม?

ตอบ: แม้ผู้ป่วยจะเคยกำจัดเซลล์มะเร็งหรือก้อนเนื้อที่ไขสันหลังได้ตามแผนการรักษาจากแพทย์ทั้งหมด แต่ก็ยังมีโอกาสที่เซลล์มะเร็งจะเกิดขึ้นซ้ำที่ไขสันหลังอีกได้ในอนาคต 

แพทย์จึงอาจให้ผู้ป่วยที่รับการรักษาไปแล้วกลับมาตรวจติดตามอาการอีกเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ชะล่าใจต่อโอกาสที่เซลล์มะเร็งจะกลับมา

8. หลังผ่าตัดเนื้องอกไขสันหลังต้องใส่เหล็กดามหลังทุกคนไหม?

ตอบ: ไม่จำเป็น การเสริมเหล็กดามหลังหรือการฉีดซีเมนต์เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กระดูกสันหลังจะเป็นกระบวนการรักษาเสริมหลังผ่าตัดเฉพาะในผู้ป่วยที่สมรรถภาพหลังค่อนข้างอ่อนแอ แพทย์จะพิจารณากระบวนการรักษาส่วนนี้ก่อนผ่าตัด โดยอาจพิจารณาจากผลตรวจวินิจฉัย ผลตรวจเอกซเรย์ หรือผลตรวจ MRI 

โรคเนื้องอกไขสันหลังอาจเป็นโรคที่หลายคนไม่คุ้นเคย แต่หากเป็นแล้วละเลยไม่รีบรักษา โรคก็สามารถส่งผลร้ายแรงต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้ป่วยได้

การเข้าใจอาการ สัญญาณเตือน และวิธีรักษาโดยพื้นฐานจึงเป็นความรู้สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม และหากพบอาการที่คล้ายคลึงกับอาการสัญญาณเตือนของโรคนี้ ก็อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์โดยทันที

อยากเช็กอาการปวดหลัง ปวดเอว อาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง สงสัยว่าเกิดจากอะไร ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top