เมื่อพูดถึงต่อมลูกหมาก คนส่วนใหญ่มักทราบว่าเป็นหนึ่งในอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย แต่อาจยังไม่รู้ว่า หน้าที่ที่แท้จริงและความสำคัญของต่อมลูกหมากคืออะไร ในบทความนี้ เรามาทำความเข้าใจนิยามและหน้าที่ของต่อมลูกหมากพร้อมกัน รวมถึงความผิดปกติที่มักพบได้บ่อยกับต่อมลูกหมาก
สารบัญ
ต่อมลูกหมาก คืออะไร? ทำหน้าที่อะไร?
ต่อมลูกหมาก (Prostate) คือ ต่อมที่มีลักษณะคล้ายลูกเกาลัด มีขนาดประมาณ 3-4 เซนติเมตร อยู่บริเวณรอบท่อปัสสาวะส่วนต้นและอยู่ภายในร่างกาย แยกคนละส่วนกับลูกอัณฑะ ซึ่งหลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นส่วนเดียวกัน
ต่อมลูกหมากมีหน้าที่สำคัญในการสร้างน้ำเมือกหล่อเลี้ยงเซลล์อสุจิ ช่วยให้เซลล์อสุจิมีความแข็งแรง รวมถึงมีความเป็นด่างที่สามารถต่อต้านกับความเป็นกรดภายในช่องคลอดฝ่ายหญิงได้ จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้อสุจิว่ายไปปฏิสนธิกับไข่ได้สำเร็จ
นอกจากนี้กล้ามเนื้อของต่อมลูกหมากยังมีบทบาทในการช่วยผลักดันการหลั่งน้ำอสุจิออกมา เมื่อเพศชายถึงจุดสุดยอดอีกด้วย
ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับต่อมลูกหมาก
ความผิดปกติบริเวณต่อมลูกหมาก มักพบได้ในผู้ชายอายุประมาณ 30-40 ปีขึ้นไป โดยโรคที่พบได้บ่อยจะแบ่งออกได้ 3 โรคด้วยกัน ได้แก่
1. โรคต่อมลูกหมากโต
โรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia : BPH) เป็นโรคที่ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง แต่อาการของโรคมักส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญได้ โดยโรคต่อมลูกหมากโต เกิดจากการทำงานของฮอร์โมนที่ลดลงและต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อผู้ชายอายุมากขึ้น จนไปกดเบียดท่อปัสสาวะที่อยู่ใกล้ๆ จนตีบแคบลง และทำให้เกิดปัญหาด้านการปัสสาวะตามมา เช่น
- ปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะไหลช้าหรือไหล ๆ หยุด ๆ
- รู้สึกว่าปัสสาวะได้ไม่สุด
- กลั้นปัสสาวะไม่ได้
- ต้องเบ่งปัสสาวะแรงขึ้น
- เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
2. โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อย 1 ใน 3 ของเพศชาย โดยเกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์บริเวณต่อมลูกหมาก และพัฒนากลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
นอกจากนี้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ยังสามารถลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง ท่อปัสสาวะ ปอด ตับ ไต หรือกระดูกของผู้ป่วยได้ด้วย
โรคมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะเริ่มแรก อาจไม่แสดงอาการใดๆ แต่เมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มเติบโตมากขึ้น ผู้ป่วยก็มักจะเริ่มมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบปัสสาวะ เช่น
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- ปัสสาวะไม่ออก
- ปวดปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะไม่พุ่ง
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- เมื่อหลั่งเซลล์อสุจิจะมีเลือดปน
- รู้สึกเจ็บเอวค่อนไปทางด้านหลัง
3. โรคต่อมลูกหมากอักเสบ
โรคต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis) เป็นภาวะอักเสบที่เกิดได้จากหลายปัจจัย แต่โดยส่วนมากมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ และลุกลามไปที่ต่อมลูกหมาก
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคนี้ได้อีก เช่น การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก การได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้กับต่อมลูกหมาก การอักเสบของเนื้อต่อมลูกหมากเองโดยหาสาเหตุไม่ได้
อาการของโรคต่อมลุกหมากอักเสบจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย โดยอาการที่พบได้บ่อย จะได้แก่
- คลื่นไส้อาเจียน
- หนาวสั่น มีไข้
- ปัสสาวะไม่สุด หรือปัสสาวะไม่ออก
- ปัสสาวะมีเลือดปน
- ปวดเอวค่อนไปทางด้านหลัง
- รู้สึกปวดอัณฑะ และบริเวณโดยรอบ เช่น ทวารหนัก ท้องน้อย ขาหนีบ
จะเห็นได้ว่า ความผิดปกติของต่อมลูกหมาก มักมีอาการแสดงที่เกี่ยวข้องกับการปัสสาวะหลายอย่าง ดังนั้นหากคุณสังเกตเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับระบบขับถ่ายปัสสาวะของตนเอง ก็อย่านิ่งนอนใจ และรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพื่อจะได้หาสาเหตุของความผิดปกตินั้นและวางแผนการรักษาต่อไป
ยังไม่แน่ใจว่าเป็นต่อมลูกหมากโต เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือต่อมลูกหมากอักเสบรึเปล่า ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคเกี่ยวกับต่อลูกหมาก จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย