ตับอ่อน อวัยวะสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่รู้ไหมว่าตับอ่อนมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก และหากเกิดความผิดปกติมักไม่แสดงอาการ ตรวจพบได้ยาก จนกว่าจะถึงระยะที่รุนแรง
ตับอ่อนคืออะไร ทำไมโรคเกี่ยวกับตับอ่อนถึงตรวจพบยากในระยะแยก สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ และโรคมะเร็งตับอ่อนคืออะไร รักษาได้ไหม และต้องรักษาอย่างไร บทความนี้เรารวบรวม เรื่องที่หลายคนอยากรู้ และเข้าใจผิดเกี่ยวกับตับอ่อน โรคตับอ่อนอักเสบ โรคมะเร็งตับอ่อน มาไว้ให้แล้ว
สารบัญ
- ตับอ่อนอยู่ที่ไหนในร่างกาย
- ตับอ่อนมีหน้าที่อะไร
- โรคตับอ่อนอักเสบเกิดจากอะไร
- ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อนคืออะไร
- อาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณผิดปกติของตับอ่อน
- ทำไมควรตรวจคัดกรองโรคเกี่ยวกับตับอ่อนเป็นประจำ
- โรคตับอ่อนอักเสบรักษาได้ไหม
- โรคมะเร็งตับอ่อนรักษาได้ไหม
- ทำไมเมื่อเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับตับ หรือตับอ่อน จึงมักมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
- การตรวจเลือดสามารถบอกปัญหาตับอ่อนได้ไหม
ตับอ่อนอยู่ที่ไหนในร่างกาย
ตับอ่อนอยู่ในช่องท้องบริเวณด้านซ้ายตอนบน หลังกระเพาะอาหาร และด้านหน้ากระดูกสันหลัง มีลำไส้เล็กตอนต้น (Duodenum) ล้อมรอบส่วนหัวของตับอ่อน
เนื่องจากตำแหน่งของตับอ่อนอยู่ในจุดที่ซับซ้อน ทำให้โรคที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อนมักตรวจพบได้ยากในระยะแรก เช่น มะเร็งตับอ่อน หรือภาวะอักเสบเรื้อรัง อาการของโรคมักจะไม่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน จนกว่าโรคจะลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
ตับอ่อนมีหน้าที่อะไร
ตับอ่อนมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการหลักๆ คือ
- เป็นต่อมไร้ท่อ ที่ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมน: ตับอ่อนจะผลิตฮอร์โมนอินซูลินและกลูคากอน โดยอินซูลินช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ขณะที่กลูคากอนเพิ่มระดับน้ำตาลเมื่อร่างกายต้องการพลังงาน
- ย่อยอาหาร: ตับอ่อนจะผลิตเอนไซม์ เช่น ไลเปส (Lipase) และอะไมเลส (Amylase) ที่ช่วยย่อยไขมันและคาร์โบไฮเดรตในลำไส้เล็ก
จะเห็นได้ว่า ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญทั้งในระบบการย่อยอาหารและการควบคุมพลังงานของร่างกาย หากเกิดความผิดปกติ เช่น ภาวะตับอ่อนอักเสบ อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานในทั้งสองระบบพร้อมกัน
โรคตับอ่อนอักเสบเกิดจากอะไร
ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเอนไซม์ย่อยอาหารที่ตับอ่อนผลิตเกิดการรั่วไหลและเริ่มทำลายเนื้อเยื่อตับอ่อนเอง สาเหตุหลักที่พบบ่อยคือ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
อีกสาเหตุสำคัญคือ การเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งนิ่วอาจหลุดเข้าไปอุดตันท่อน้ำดีหรือตับอ่อน ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น เช่น การใช้ยาบางชนิด หรือการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อนคืออะไร
มีปัจจัยหลายอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับอ่อน เช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่พบในผู้ป่วย นอกจากนี้ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ยังเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเมตาบอลิซึม
นอกจากนี้ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมีโรคมะเร็งตับอ่อน หรือโรคทางพันธุกรรมบางชนิด เช่น BRCA2 Mutation ยังเป็นอีกปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญ หากพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประเมินและคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ
อาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณผิดปกติของตับอ่อน
อาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกความผิดปกติของตับอ่อน มีดังนี้
- ปวดท้องรุนแรง อาการปวดท้องบริเวณกลางหรือส่วนบนของช่องท้อง อาจร้าวไปที่หลัง มักเกิดจากตับอ่อนอักเสบ หรือนิ่วอุดตันท่อน้ำดี อาการจะรุนแรงขึ้นหลังรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และอาจมาพร้อมอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
- ตัวเหลือง ตาเหลือง: เกิดจากสารบิลิรูบินสะสมในร่างกาย อาจเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำดีที่สัมพันธ์กับมะเร็งตับอ่อน มักมาพร้อมอุจจาระซีด ปัสสาวะสีเข้ม และคันผิวหนัง
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ: หากน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน เช่น ไม่ได้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายมากขึ้น อาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน วิธีสังเกตคือ หากน้ำหนักลดลงเกิน 5% ของน้ำหนักตัวภายในระยะเวลาภายใน 6-12 เดือน โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง
ทำไมควรตรวจคัดกรองโรคเกี่ยวกับตับอ่อนเป็นประจำ
เพราะโรคที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อนมักไม่มีอาการในระยะแรก การตรวจสุขภาพประจำปีโดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือ มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
นอกจากนี้ การตรวจ CT Scan, MRI หรือการอัลตราซาวด์ ยังช่วยทำให้บ่งชี้ความผิดปกติของตับอ่อนได้แม่นยำมากขึ้นด้วย
โรคตับอ่อนอักเสบรักษาได้ไหม
โรคตับอ่อนอักเสบทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรังสามารถรักษาได้ แต่กระบวนการรักษาและผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุของโรค
- ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน: การรักษาจะเน้นการพักตับอ่อนโดยการงดอาหารและน้ำในช่วงแรก พร้อมให้สารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยลดการอักเสบ ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวได้ดีภายในไม่กี่วัน หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
- ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง: การรักษาจะเน้นการควบคุมอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การใช้เอนไซม์เสริมช่วยย่อยอาหาร หรือการควบคุมน้ำตาลในผู้ที่เกิดโรคเบาหวานจากตับอ่อนเสื่อม นอกจากนี้ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น งดดื่มแอลกอฮอล์ หากพบอาการรุนแรง เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การอุดตันของท่อน้ำดี หรือการพัฒนากลายเป็นมะเร็งตับอ่อน
โรคมะเร็งตับอ่อนรักษาได้ไหม
หากตรวจพบมะเร็งตับอ่อนในระยะแรก ซึ่งก้อนมะเร็งยังจำกัดอยู่ในตับอ่อนและไม่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น การรักษาโดยการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดแบบ Whipple Procedure (การตัดส่วนหัวของตับอ่อนออกพร้อมกับลำไส้เล็กและท่อน้ำดีบางส่วน) อาจช่วยกำจัดก้อนมะเร็งได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดนี้ต้องการความชำนาญสูง และผู้ป่วยต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงพอด้วย
หลังการผ่าตัดผู้ป่วยมักได้รับเคมีบำบัด (Chemotherapy) และ/หรือ รังสีบำบัด (Radiation Therapy) เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่ และลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นใหม่
ส่วนในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เช่น มะเร็งลุกลามหรือแพร่กระจายไปแล้ว แพทย์ยังสามารถใช้เคมีบำบัดหรือยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) เพื่อควบคุมโรคและบรรเทาอาการได้
ทำไมเมื่อเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับตับ หรือตับอ่อน จึงมักมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
อาการตัวเหลืองเกิดจากสารบิลิรูบินในเลือดสูง มักเกิดขึ้นเมื่อมีการอุดตันในท่อน้ำดีหรือท่อตับอ่อน เช่น นิ่วไปอุดกั้นท่อน้ำดี หรือก้อนมะเร็งตับอ่อนที่ไปกดท่อหรือทำให้ท่อเหล่านั้นอุดตัน จนสารบิลิรูบินไม่สามารถไหลผ่านได้ตามปกติ จึงสะสมในเลือด ทำให้เกิดอาการตัวเหลือง หรือตาเหลืองตามมา
ดังนั้นหากพบอาการดังกล่าวร่วมกับอาการอื่น เช่น ปวดท้อง น้ำหนักลด หรืออุจจาระสีซีด ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะตับอ่อนของคุณอาจกำลังผิดปกติ
การตรวจเลือดสามารถบอกปัญหาตับอ่อนได้ไหม
การตรวจเลือดทั่วไปมักไม่เพียงพอในการวินิจฉัยโรคตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบหรือมะเร็งตับอ่อน การวินิจฉัยมักต้องใช้การตรวจเฉพาะทาง เช่น การวัดเอนไซม์อะไมเลสและไลเปสในเลือด รวมถึงการตรวจภาพรังสี เช่น CT Scan, MRI หรือ Endoscopic Ultrasound (EUS) เพื่อดูความผิดปกติในตับอ่อน
การตรวจเลือดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการวินิจฉัย หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องเรื้อรัง น้ำหนักลด หรืออาการตัวเหลือง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดและเหมาะสมมากขึ้น
หากคุณมีความเสี่ยง หรือมีอาการที่เข้าข่ายโรคตับอ่อนอักเสบ โรคมะเร็งตับอ่อน และอยากตรวจให้แน่ใจ เพื่อที่จะได้รักษาอย่างถูกต้อง อย่าลังเลที่จะไปปรึกษาแพทย์ผู้เฉพาะทาง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดปกติของตับอ่อนใช่ไหม? ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจรักษาโรคตับอ่อนอักเสบ โรคมะเร็งตับอ่อน จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย