อาการปัสสาวะเล็ดโดยเฉพาะเวลาไอ จาม หรือออกแรง เป็นปัญหาที่ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญ และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในแต่ละวันหลายด้าน ทั้งด้านความมั่นใจ ด้านความคล่องตัวต่อกิจวัตรการทำงาน
และหนึ่งในวิธีรักษาที่แพทย์มักแนะนำ เมื่อผู้ป่วยมีอาการปัสสาวะเล็ดในระดับรุนแรงคือ การผ่าตัดใส่สลิง เพื่อประคองท่อปัสสาวะให้ปิดแน่นระหว่างที่ผู้ป่วยทำกิจกรรมซึ่งเกิดแรงดันในช่องท้อง เช่น ไอ จาม ยกของหนัก ออกแรงเบ่ง ซึ่งหลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอน ผลข้างเคียง หรือการพักฟื้น
บทความนี้จึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบเกี่ยวกับการผ่าตัดใส่สลิงที่คุณควรรู้และสงสัยมาให้อ่านพร้อมกัน
สารบัญ
1. ผ่าตัดใส่สลิง ทำไมต้องผ่า ไม่ผ่าได้ไหม?
ตอบ: การผ่าตัดใส่สลิง เป็นการผ่าตัดเพื่อช่วยหยุดอาการปัสสาวะเล็ดจากความผิดปกติภายในร่างกาย และอยู่ในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีไม่ผ่าตัด เช่น การใช้ยา การนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
โดยปกติท่อปัสสาวะของร่างกายเราจะมีกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นช่วยประคองท่อปัสสาวะให้ยังคงปิดแน่น ทำให้ไม่มีปัสสาวะเล็ดออกมาในระหว่างที่ทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงดันในช่องท้อง เช่น ไอ จาม ออกกำลังกาย ยกของหนัก ออกแรงเบ่ง ลุกยืน
แต่หากเมื่อไรก็ตามที่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นส่วนนี้อ่อนแรงลง โดยอาจเกิดจากการตั้งครรภ์ การคลอดบุตร หรืออายุที่มากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะมีอาการปัสสาวะเล็ดได้
การผ่าตัดใส่สลิง คือ การผ่าตัดเพื่อให้แพทย์ใส่แผ่นสลิงเข้าไปใต้ท่อปัสสาวะ เพื่อพยุงท่อปัสสาวะให้ยังคงปิดสนิทในระหว่างที่ช่องท้องเกิดแรงดัน ทำให้ไม่มีปัสสาวะเล็ดออกมา
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมีความประสงค์จะไม่ผ่าตัด อาการปัสสาวะเล็ดก็จะยิ่งรุนแรงและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตมากขึ้น เช่น
- รู้สึกไม่สบายตัวจากปัสสาวะที่เล็ดทั้งกลางวันและกลางคืน
- ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยจนกระทบการทำงาน หรือกิจวัตรประจำวัน
- ปัสสาวะเล็ดระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ อาจทำให้รู้สึกอับอาย
- ปัสสาวะราดผ้าปูที่นอน
- ต้องใส่แผ่นอนามัยไว้ตลอดเวลา
- เสี่ยงเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากสุขอนามัยของร่างกายที่ไม่สะอาด
2. ผ่าตัดใส่สลิง พักฟื้นกี่วัน? มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?
ตอบ: หลังการผ่าตัดใส่สลิง ผู้ป่วยจะนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน ระหว่างแพทย์จะมีการทดสอบอาการปัสสาวะเล็ด หากไม่มีอาการแล้ว แพทย์จะอนุญาตให้เดินทางกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
หลังออกจากโรงพยาบาล ผู้ป่วยจะใช้เวลาพักฟื้นต่ออีกประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ยังต้องหลีกเลี่ยงการยกของหนัก การออกกำลังกายหนักๆ การมีเพศสัมพันธ์ เป็นระยะเวลาประมาณ 6 สัปดาห์
3. ผ่าตัดใส่สลิง เจ็บไหม?
ตอบ: ระหว่างผ่าตัด แพทย์จะมีการให้ยาระงับความรู้สึกเพื่อป้องกันอาการเจ็บให้ผู้ป่วย และเมื่อยาหมดฤทธิ์หลังจากผ่าตัด ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บระบมแผลได้บ้าง แต่จะเป็นอยู่เพียง 2-3 วัน และอาการก็จะบรรเทาหายไป
4. ผ่าตัดใส่สลิง ระยะเวลาผ่าตัดนานแค่ไหน?
ตอบ: การผ่าตัดใส่สลิงมักจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 30 นาที
5. การดูแลตนเองหลังผ่าตัดใส่สลิง
ตอบ: การดูแลตนเองหลังผ่าตัดใส่สลิงเพื่อรักษาอาการปัสสาวะเล็ดนั้น มีดังนี้
- ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยรู้สึกถึงการปัสสาวะได้ช้าหรือยากจากอาการบวม แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น
- พักฟื้นร่างกายเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถเริ่มกลับไปทำกิจวัตรเบาๆ ได้
- งดออกกำลังกาย งดยกของหนัก งดการกระโดด นั่งยองๆ มีเพศสัมพันธ์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์
- โดยทั่วไปผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ให้งดแช่น้ำ งดว่ายน้ำเป็นเวลา 4 สัปดาห์
- ดื่มน้ำให้มากๆ กินอาหารที่มีกากใยสูงเป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก ซึ่งทำให้ต้องมีการเบ่งถ่ายแรงๆ จนปัสสาวะเล็ดได้อีก
6. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดใส่สลิง
ตอบ: แม้ผลข้างเคียงอาจเกิดได้น้อย แต่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ้างดังนี้
- ภาวะติดเชื้อที่แผล
- ภาวะเลือดออกจากแผล
- อาการปวดหรือเจ็บแผล แต่มักจะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์
- การบาดเจ็บที่อวัยวะหรือบริเวณใกล้เคียง เช่น ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ
- สายสลิงเกิดการเคลื่อนที่ในภายหลัง ผู้ป่วยต้องผ่าตัดซ้ำเพื่อปรับตำแหน่งสายสลิงใหม่
- สายสลิงแน่นเกินไป ทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะไม่ออกหลังผ่าตัด ต้องกลับมาผ่าตัดซ้ำเพื่อปรับสายสลิงให้หลวม หรือปรับตำแหน่งสายสลิงใหม่
- มีอาการปวดปัสสาวะแบบฉับพลันและกลั้นปัสสาวะไม่ได้ภายหลังผ่าตัด แต่มักมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย
7. ค่าใช้จ่ายของการผ่าตัดใส่สลิง
ตอบ: ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดรักษาปัสสาวะเล็ดด้วยการใส่สลิงจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเทคนิคการผ่าตัดที่แพทย์เลือกใช้ รวมถึงเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
แม้การผ่าตัดใส่สลิงจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของการรักษาอาการปัสสาวะเล็ด แต่ก็เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาวิธีอื่น
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดใส่สลิง หรืออยากทราบว่าเหมาะสมกับอาการปัสสาวะเล็ดของตนเองหรือไม่ หรือยังสามารถรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัดได้อยู่ ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ
ปัสสาวะเล็ด แต่ไม่รู้ว่าต้องผ่าตัดหรือยัง ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจผ่าตัดราคาดี จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย