การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ฟื้นตัวเร็ว และเห็นผลหลังทำทันที
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกแง่มุมของการฉีดฟิลเลอร์ ตั้งแต่หลักการ สารที่ใช้ ขั้นตอน ผลลัพธ์ ไปจนถึงความเสี่ยงและการดูแลหลังทำ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
สารบัญ
ฉีดฟิลเลอร์ เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย คือการใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ฉีดเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณลำตัวขององคชาต เพื่อเพิ่มความหนา (เส้นรอบวง) HA เป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี จึงช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณที่ฉีดให้ดูอวบอิ่มขึ้นทันที
ทำไมต้องเป็นกรดไฮยาลูรอนิก?
กรดไฮยาลูรอนิกที่ใช้ในทางการแพทย์มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากเข้ากันได้ดีกับร่างกายและมีอัตราการแพ้ต่ำ อีกทั้งยังสามารถสลายเองตามธรรมชาติ หรือฉีดเอนไซม์ (Hyaluronidase) เพื่อละลายออกได้หากเกิดปัญหา
ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย?
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะดังนี้
- ต้องการเพิ่มเส้นรอบวง (ความหนา) ของอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการฉีดฟิลเลอร์
- ไม่ต้องการผ่าตัด และต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แผลผ่าตัด หรือระยะเวลาพักฟื้น
- ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว สามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามสำหรับการฉีดฟิลเลอร์
- เข้าใจข้อจำกัดของฟิลเลอร์ โดยทราบว่าผลลัพธ์ไม่ถาวรและจำเป็นต้องฉีดซ้ำตามระยะเวลา
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อนหากทำโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- การปรึกษาแพทย์และประเมินผล: แพทย์จะซักประวัติสุขภาพ ตรวจอวัยวะเพศ และสอบถามความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการ จากนั้นจะอธิบายชนิดฟิลเลอร์ ปริมาณที่เหมาะสม ขั้นตอนการทำ ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวังอย่างละเอียด เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างแพทย์และผู้รับบริการ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพึงพอใจ
- การทำความสะอาดและฉีดยาชา: แพทย์หรือพยาบาลจะทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึง จากนั้นจะฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือทายาชา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างการฉีด
3 การฉีดฟิลเลอร์: เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังบริเวณลำตัวอวัยวะเพศอย่างระมัดระวัง โดยใช้เทคนิคที่เหมาะสม เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดีและดูเป็นธรรมชาติ ในระหว่างฉีด อาจมีการนวดเบาๆ เพื่อจัดรูปทรงของฟิลเลอร์ให้เข้าที่ ส่วนปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นกับขนาดเดิมและความต้องการของแต่ละบุคคล
- การดูแลหลังฉีดเบื้องต้น: แพทย์จะให้คำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างละเอียด อาจแนะนำให้ประคบเย็นเพื่อลดบวมและรอยช้ำ โดยทั่วไปขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณและเทคนิคการฉีด
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา หรือสมุนไพรบางประเภท เพื่อป้องกันรอยช้ำหรือเลือดออก
- ควรทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
การดูแลอย่างถูกวิธีหลังฉีดฟิลเลอร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน โดยมีข้อแนะนำดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดคลึงบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
- งดกิจกรรมทางเพศ อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ และลดความเสี่ยงการอักเสบหรือติดเชื้อ
- งดออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก อย่างน้อย 2–3 วันหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น อบซาวน่า อบไอน้ำ หรืออาบน้ำอุ่นจัด ประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 2–3 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำ และส่งเสริมการฟื้นตัวของร่างกาย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้กรดไฮยาลูรอนิกในฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดี และคงรูปได้นานขึ้น
- รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ ทั้งยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะ หากมีการสั่งจ่าย ควรรับประทานให้ครบถ้วน
- สังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการบวมแดง ปวดร้อน หรือมีไข้ที่ไม่ดีขึ้น ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
ฉีดฟิลเลอร์ เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย เจ็บไหม?
ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือทายาชาบริเวณที่จะฉีดก่อนเริ่มทำ ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่จึงรู้สึกเพียงเล็กน้อย อาจรู้สึกตึงๆ หรือเจ็บแปลบชั่วขณะเท่านั้น ความรู้สึกเจ็บอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ ไม่ได้รุนแรงอย่างที่หลายคนกังวล
หลังการฉีดฟิลเลอร์เรียบร้อยแล้ว เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีอาการปวดระบมเล็กน้อย ร่วมกับอาการบวม หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติและมักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
แพทย์อาจให้ยาแก้ปวดเพื่อลดความไม่สบาย หากมีอาการปวดรุนแรงผิดปกติ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อความปลอดภัย
อันตรายและความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์
แม้การฉีดฟิลเลอร์ด้วยกรดไฮยาลูรอนิกจะถือว่าค่อนข้างปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อทำโดยแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะหากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ความชำนาญ หรือใช้สารที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจพบได้ ได้แก่
- อาการบวม ช้ำ หรือแดง เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย มักหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- การติดเชื้อ หากไม่รักษาความสะอาด หรือใช้เครื่องมือที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งในบางกรณีอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ หรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก
- การเกิดก้อนหรือความไม่สม่ำเสมอของผิว ฟิลเลอร์อาจจับตัวเป็นก้อน หรือกระจายไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวเป็นคลื่นหรือเป็นปุ่มนูน อาจต้องแก้ไขด้วยการนวด หรือฉีดเอนไซม์เพื่อละลายฟิลเลอร์
- การแพ้ฟิลเลอร์ แม้จะพบได้น้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดอาการแพ้ต่อสาร HA ในบางราย
- การอุดตันของหลอดเลือด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุด แม้จะเกิดได้ยาก แต่หากฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือด อาจทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดจนเน่าตาย จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยทันทีจากแพทย์เฉพาะทาง
- การอักเสบเรื้อรัง อาจเกิดขึ้นในบางราย โดยบริเวณที่ฉีดมีการอักเสบต่อเนื่อง ต้องใช้เวลาและการดูแลรักษาเพิ่มเติม
การลดความเสี่ยงเหล่านี้สามารถทำได้ด้วยการเลือกฉีดกับแพทย์เฉพาะทาง เช่น แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและเพศชาย (Urologist) หรือแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ โดยควรทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย
การฉีดฟิลเลอร์สามารถเพิ่มเส้นรอบวง (ความหนา) ของอวัยวะเพศได้ทันทีหลังทำ โดยผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงความยืดหยุ่นของผิวหนังในแต่ละบุคคล
ส่วนระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คงอยู่นั้น ฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (HA) เป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยทั่วไปจะคงผลลัพธ์ไว้ได้นานประมาณ 1–3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- ชนิดและคุณภาพของฟิลเลอร์
- ปริมาณที่ฉีด
- เทคนิคของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
- การดูแลตัวเองหลังฉีด
- ลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละคน
เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย ขนาดที่เพิ่มขึ้นจะค่อยๆ ลดลง หากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ อาจจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดซ้ำเป็นระยะตามคำแนะนำของแพทย์
การฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มเส้นรอบวงโดยไม่ต้องผ่าตัด ขั้นตอนไม่ซับซ้อน พักฟื้นไม่นาน แต่ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทาง
จะเลือกวิธีเพิ่มขนาดอวัยวะเพศแบบไหนดีให้ปลอดภัย เห็นผล และไม่เสี่ยง? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย