การช่วยตัวเองบ่อยๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมหรือเปล่า อาหารเสริมเพิ่มพลังชายได้ผลจริงไหม ผู้สูงอายุต้องเจอปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศทุกคนหรือเปล่า รักษาแบบไหนได้ผลที่สุด
บทความนี้รวบรวมคำถามที่พบบ่อย และข้อเข้าใจผิด เกี่ยวกับการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายมาไว้ให้แล้ว เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการรักษามากขึ้น และสามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างมั่นใจ
สารบัญ
- ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คืออะไร?
- ปัจจัยไหนบ้างที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ?
- เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ?
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ไหม?
- อาหารเสริมหรือสมุนไพรช่วยได้ไหม?
- การออกกำลังกายแบบไหนดีต่อสมรรถภาพทางเพศที่สุด?
- ความเครียดส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศอย่างไร?
- โรคเบาหวานเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางเพศอย่างไร?
- ยาที่ใช้รักษาโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศหรือไม่?
- อายุมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศอย่างไร?
- การตรวจระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสำคัญอย่างไร?
- การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีอะไรบ้าง?
- การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมคืออะไร และเหมาะกับใคร?
- ภาวะแข็งตัวค้าง คืออะไร อันตรายแค่ไหน?
- การมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงจริงไหม?
- การช่วยตัวเองบ่อยๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมไหม?
- ผู้ชายที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะมีลูกได้ไหม?
- การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ไหม?
- การกินอาหารทะเลดิบช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ จริงไหม?
- เมื่อผู้ชายสูงอายุจะมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศทุกคนรึเปล่า?
- ไวอากร้าสามารถแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้จริงไหม?
ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คืออะไร?
ตอบ: ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ Erectile Dysfunction (ED) คือปัญหาที่องคชาตไม่สามารถแข็งตัวได้เต็มที่ หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวได้นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ อาการนี้อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หรือกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตได้
สาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด รวมถึงปัจจัยทางอารมณ์ เช่น ความเครียด วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด การเข้าใจต้นตอของปัญหาอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการหาทางรักษาที่ตรงจุดและได้ผล
ปัจจัยไหนบ้างที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ?
ตอบ: ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศมีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
- ด้านร่างกาย ได้แก่ โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคอ้วนและภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดและสุขภาพของหลอดเลือด นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การสูบบุหรี่ และการใช้ยาบางชนิดก็อาจเป็นปัจจัยเสริมได้
- ด้านจิตใจ ได้แก่ ความเครียดเรื้อรัง ภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น ล้วนมีผลโดยตรงต่อความต้องการทางเพศและการทำงานของอวัยวะเพศ
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ?
ตอบ: ควรพิจารณาไปพบแพทย์หากมีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือเริ่มส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการแข็งตัวลดลง แข็งตัวไม่เต็มที่ หรือแข็งตัวไม่นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์โดยสมบูรณ์ การปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้หาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ไหม?
ตอบ: การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดความเครียด และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศ
นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนไม่ติดมัน ก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น และลดความเสี่ยงของโรคที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงการงดสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสารเหล่านี้มีส่วนในการทำลายหลอดเลือด และส่งผลเสียต่อระบบประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวขององคชาต
อาหารเสริมหรือสมุนไพรช่วยได้ไหม?
ตอบ: ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสมุนไพรมากมายวางจำหน่าย โดยโฆษณาว่าสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้ โดยเฉพาะสมุนไพรที่เป็นที่รู้จัก เช่น โสม (Ginseng) ที่เชื่อกันว่าช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ถั่งเช่า (Cordyceps) ที่นิยมในแพทย์แผนจีน และอ้างว่าช่วยฟื้นฟูพลังงานและฮอร์โมนเพศ แอล-อาร์จินีน (L-Arginine) กรดอะมิโนที่มีบทบาทในการขยายหลอดเลือด ฮอร์นี่ย์ โกท วีด (Horny Goat Weed) ซึ่งบางคนใช้เพื่อช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ
แม้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีการใช้อย่างแพร่หลายและมีผู้ใช้บางรายกล่าวว่า รู้สึกดีขึ้นหลังจากรับประทาน แต่หลักฐานทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือยังมีอยู่อย่างจำกัด โดยการศึกษาจำนวนมากที่สนับสนุนสมุนไพรเหล่านี้มักเป็นงานวิจัยขนาดเล็ก หรือยังอยู่ในขั้นทดลองกับสัตว์
ที่สำคัญคือ อาหารเสริมหรือสมุนไพรไม่ได้เหมาะกับทุกคน และไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือผู้ที่กำลังใช้ยารักษาโรคอื่นอยู่ การรับประทานสมุนไพรอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา หรือผลข้างเคียง เช่น ความดันต่ำ ใจสั่น คลื่นไส้ หรือกระทบต่อการทำงานของตับและไต
การออกกำลังกายแบบไหนดีต่อสมรรถภาพทางเพศที่สุด?
ตอบ: การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้ผลและปลอดภัยที่สุดในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ เพราะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และส่งผลดีต่อระบบหัวใจ รวมถึงระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) เช่น การเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ กระตุ้นการสูบฉีดเลือด และลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
นอกจากแอโรบิกแล้ว การฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนอย่าง “เคเกล” (Kegel Exercises) ซึ่งเน้นกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมการแข็งตัวหรือการหลั่ง การฝึกเคเกลช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอวัยวะเพศ เพิ่มการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด และอาจช่วยให้การแข็งตัวอยู่ได้นานขึ้นด้วย เทคนิคนี้สามารถฝึกได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา
ความเครียดส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศอย่างไร?
ตอบ: ความเครียดเป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศได้หลายทาง เมื่อร่างกายเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ซึ่งสามารถลดความต้องการทางเพศและขัดขวางการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวขององคชาตได้
นอกจากนี้ ความเครียดเรื้อรังยังสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ การจัดการความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำสมาธิ โยคะ การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือการปรึกษาผู้ชำนาญการ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสมรรถภาพทางเพศ
โรคเบาหวานเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางเพศอย่างไร?
ตอบ:โรคเบาหวานถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงต่อเนื่องจะค่อยๆ ส่งผลเสียต่อระบบหลอดเลือดและเส้นประสาททั่วร่างกาย รวมถึงบริเวณอวัยวะเพศด้วย เส้นประสาทที่เสียหายจะลดความสามารถในการส่งสัญญาณจากสมองไปยังองคชาต ขณะที่หลอดเลือดที่เสียหายจะทำให้เลือดไหลเวียนเข้าสู่องคชาตได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้การแข็งตัวเกิดขึ้นได้ยาก หรือไม่สามารถคงความแข็งตัวได้นานพอ
ในผู้ป่วยเบาหวาน ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักไม่ใช่แค่อาการชั่วคราว แต่เป็นผลสะสมจากความเสียหายที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหานี้
นอกจากการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว การดูแลตัวเอง เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และลดพฤติกรรมเสี่ยงอย่างการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้
ยาที่ใช้รักษาโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศหรือไม่?
ตอบ: ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง เช่น ยาขับปัสสาวะบางกลุ่ม หรือยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยไม่ควรหยุดยาเองโดยเด็ดขาด หากมีข้อกังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนชนิดของยา หรือปรับขนาดยาที่ใช้ แพทย์จะประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยาแต่ละชนิด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
อายุมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศอย่างไร?
ตอบ: อายุที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศได้ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยกลางคนและวัยสูงอายุ การทำงานของหลอดเลือดและเส้นประสาทอาจเสื่อมลงตามธรรมชาติ และระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนก็อาจลดลง
อย่างไรก็ตาม ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศไม่ได้เป็นผลมาจากอายุเพียงอย่างเดียวเสมอไป แต่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่มักจะมาพร้อมกับอายุ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง กลับกลายเป็นสาเหตุสำคัญ ดังนั้น การดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการจัดการความเครียด สามารถช่วยรักษาและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้แม้ในวัยสูงอายุ
การตรวจระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสำคัญอย่างไร?
ตอบ: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศชายหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อความต้องการทางเพศ การแข็งตัวขององคชาต และมวลกล้ามเนื้อ หากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าปกติ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลง
การตรวจระดับฮอร์โมนนี้สามารถทำได้โดยการเจาะเลือด และหากพบว่ามีภาวะฮอร์โมนต่ำ แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคนและมีข้อควรระวัง ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความจำเป็นและความเหมาะสมของการรักษา
การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีอะไรบ้าง?
ตอบ: ปัจจุบันมีแนวทางรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหลายรูปแบบ โดยแพทย์จะเลือกใช้ตามสาเหตุและสุขภาพของผู้ป่วย
- ยารับประทาน ยากลุ่ม PDE5 เช่น ไวอากร้า (Sildenafil) ซิอะลิส (Tadalafil) และเลวิตร้า (Vardenafil) เป็นทางเลือกแรกที่ใช้บ่อย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังองคชาต ทำให้แข็งตัวเมื่อมีสิ่งเร้า แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลแพทย์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคหัวใจหรือใช้ยาบางชนิดร่วมกันไม่ได้
- การปรับฮอร์โมนเพศชาย ในรายที่มีฮอร์โมนเพศชายต่ำ อาจใช้ฮอร์โมนเสริมในรูปแบบฉีด เจล หรือแผ่นแปะ ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและการแข็งตัว แต่ต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิด
- อุปกรณ์สุญญากาศและการฉีดยาเข้าที่องคชาต อุปกรณ์สุญญากาศช่วยให้เลือดไหลเข้าองคชาตโดยไม่ใช้ยา ขณะที่การฉีดยา เช่น Alprostadil ให้ผลรวดเร็ว แต่ต้องระวังผลข้างเคียง เช่น อาการแข็งตัวค้าง
- การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม เมื่อวิธีอื่นไม่ได้ผล การผ่าตัดใส่อุปกรณ์ภายในองคชาตถือเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ได้ผลถาวร โดยผู้ป่วยสามารถควบคุมการแข็งตัวได้เอง
- การบำบัดด้วยคลื่นกระแทกความถี่ต่ำ (LI-ESWT) เป็นการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยคลื่นเสียงพลังงานต่ำ เพื่อกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ในองคชาต ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และส่งผลให้การแข็งตัวดีขึ้นตามธรรมชาติ
การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมคืออะไร และเหมาะกับใคร?
ตอบ: การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม เป็นทางเลือกในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่ให้ผลลัพธ์ถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่สำเร็จ โดยแพทย์จะฝังอุปกรณ์ช่วยแข็งตัวไว้ภายในองคชาต เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมการแข็งตัวได้เอง ปัจจุบันมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แบบชิ้นเดียว (Non-inflatable) และแบบพองลม 3 ชิ้น (Inflatable)
- แบบชิ้นเดียว (Non-inflatable) เป็นแท่งซิลิโคนแข็งกึ่งยืดหยุ่น ฝังไว้ถาวร ผู้ป่วยสามารถดัดองคชาตขึ้นเมื่อต้องการใช้งาน และพับลงเมื่อไม่ใช้งาน ข้อดีคือ ผ่าตัดง่าย ใช้งานสะดวก ไม่ต้องควบคุมกลไกซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาในการใช้มือ อย่างไรก็ตาม องคชาตจะดูแข็งตัวตลอดเวลา แม้ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจ
- แบบพองลม 3 ชิ้น (Inflatable) ประกอบด้วยแกนซิลิโคน ถุงของเหลวในช่องท้อง และปั๊มในถุงอัณฑะ ผู้ป่วยสามารถบีบปั๊มเพื่อให้ของเหลวไหลเข้าแกน ทำให้องคชาตแข็งตัว และปล่อยของเหลวกลับเมื่อไม่ใช้งาน ลักษณะการแข็งตัวใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ช่วยเสริมความมั่นใจ แต่มีโครงสร้างซับซ้อนกว่า และต้องฝึกใช้ปั๊มให้คล่อง เหมาะกับผู้ที่สุขภาพดีและสามารถเรียนรู้การใช้งานได้อย่างถูกต้อง
ภาวะแข็งตัวค้าง คืออะไร อันตรายแค่ไหน?
ตอบ: ภาวะแข็งตัวค้าง (Priapism) คือการที่องคชาตแข็งตัวติดต่อกันนานเกิน 4 ชั่วโมงโดยไม่มีสิ่งเร้าทางเพศ และไม่คลายตัวเองตามธรรมชาติ อาจมีอาการเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ สาเหตุหลักมาจากเลือดคั่งหรือระบายเลือดออกไม่ได้ในองคชาต มักเกิดจากการใช้ยารักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยเฉพาะยาฉีด โรคเลือด เช่น โลหิตจางชนิดเคียว หรือการบาดเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ
Priapism ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หากปล่อยไว้นานเกิน 4–6 ชั่วโมง อาจทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจน เกิดพังผืด และนำไปสู่ภาวะเสื่อมสมรรถภาพถาวร หรืออาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศ ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการ
การมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงจริงไหม?
ตอบ: ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอในระดับที่เหมาะสมช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเพศ โดยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งสำคัญต่อการแข็งตัวขององคชาต นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มความใกล้ชิดกับคู่รัก ขณะที่การขาดการกระตุ้นหรือเว้นช่วงนานเกินไป อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงได้
การช่วยตัวเองบ่อยๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมไหม?
ตอบ: การช่วยตัวเองอย่างพอดีและสม่ำเสมอไม่ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อม ในทางกลับกันยังช่วยให้เข้าใจร่างกายและความต้องการทางเพศ รวมทั้งช่วยคลายความเครียดได้ แต่หากช่วยตัวเองมากเกินจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันหรือความสัมพันธ์ อาจสะท้อนปัญหาทางจิตใจที่ควรได้รับการดูแล ไม่ใช่เพราะสมรรถภาพทางเพศลดลงโดยตรง
ผู้ชายที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะมีลูกได้ไหม?
ตอบ: ผู้ชายที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหมันหรือไม่มีลูกไม่ได้ เพราะภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือปัญหาในการแข็งตัวขององคชาต ไม่ใช่ปัญหาในการผลิตอสุจิ ผู้ชายที่มีอาการนี้ส่วนใหญ่ยังคงมีการสร้างอสุจิได้ตามปกติ และสามารถมีบุตรได้ หากมีการเก็บและนำอสุจิไปใช้ในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น การผสมเทียมหรือทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้อาจทำให้การมีเพศสัมพันธ์เพื่อการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติเกิดขึ้นได้ยากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต ความมั่นใจ และความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ การปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถวางแผนเรื่องบุตรได้ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติหรือด้วยเทคโนโลยีทางเลือก
การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ไหม?
ตอบ: การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ไม่ว่าจะด้วยการผ่าตัด การฉีดสาร หรือใช้อุปกรณ์ขยายขนาด ไม่มีผลโดยตรงต่อสมรรถภาพการแข็งตัวขององคชาต สมรรถภาพทางเพศขึ้นกับการไหลเวียนเลือด สุขภาพเส้นประสาท และปัจจัยทางจิตใจเป็นหลัก การเพิ่มขนาดจึงเกี่ยวกับรูปลักษณ์มากกว่าการทำงาน ความเชื่อผิดๆ นี้ อาจทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ และเสี่ยงต่อสุขภาพ หากใช้วิธีที่ไม่ปลอดภัย
การกินอาหารทะเลดิบช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ จริงไหม?
ตอบ: การกินอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรม แม้จะถูกมองว่าเป็นอาหารเพิ่มพลังทางเพศ เนื่องจากมีแร่ธาตุสังกะสีสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตฮอร์โมนเพศชาย แต่ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่ยืนยันว่าอาหารเหล่านี้สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้จริงอย่างมีนัยสำคัญ การหวังผลจากการบริโภคอาหารชนิดเดียวจึงอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
นอกจากนี้ การกินอาหารทะเลดิบยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ หรือสารปนเปื้อนอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยรวม การดูแลสุขภาพทางเพศอย่างยั่งยืนควรมาจากการรับประทานอาหารที่หลากหลายและสมดุล ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ
เมื่อผู้ชายสูงอายุจะมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศทุกคนรึเปล่า?
ตอบ: ผู้ชายสูงอายุไม่ได้จำเป็นต้องมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศเสมอไป แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอายุอาจส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศลดลงบ้าง แต่ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศส่วนใหญ่มักเกิดจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือผลข้างเคียงจากยา หากผู้สูงอายุดูแลสุขภาพดี ทั้งออกกำลังกาย รับประทานอาหาร และจัดการความเครียดได้ดี ก็ยังสามารถรักษาสมรรถภาพทางเพศให้แข็งแรงได้นาน
ไวอากร้าสามารถแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้จริงไหม?
ตอบ: ยาไวอากร้าและยากลุ่มเดียวกัน เช่น ซิอะลิส หรือเลวิตร้า เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังองคชาต ทำให้เกิดการแข็งตัวเมื่อมีสิ่งเร้าทางเพศ อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้ไม่ได้สามารถแก้ปัญหาได้ในทุกกรณี โดยเฉพาะหากสาเหตุมาจากปัญหาทางจิตใจ ฮอร์โมน หรือความผิดปกติของเส้นประสาท ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วย
นอกจากนี้ ยาไวอากร้ายังมีข้อจำกัดในการใช้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือผู้ที่ใช้ยาไนเตรท ซึ่งหากใช้ร่วมกันอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำได้ การใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์จึงอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ทั้งในด้านร่างกายและสุขภาพโดยรวม
ปัจจุบันมีแนวทางดูแลและรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงการเเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายที่หลากหลายและปลอดภัย ทั้งในแง่การแพทย์ การปรับพฤติกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากเริ่มสังเกตว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยและแนวทางรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ข้อมูลที่เรารู้มาใช่เรื่องจริงไหม? เข้าใจผิดหรือเปล่า? ไม่รู้จะถามใครดี ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย