Default fallback image

ผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ คืออะไร

ถ้าโพรงประสาทซึ่งอยู่ภายในกระดูกสันหลังถูกเบียดจนตีบแคบ ก่อให้เกิดอาการปวดหลัง อาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ยืนหรือเดินก็ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ต้องนั่งพักบ่อยขึ้น คุณหมอลงความเห็นให้ผ่าตัด แล้วกระบวนการผ่าตัดจะเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวล่วงหน้า และดูแลตนเองหลังผ่าตัดอย่างไรบ้าง อ่านคำตอบได้ที่นี่

การผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ คืออะไร?

การผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ คือ การผ่าตัดเพื่อนำกระดูก เส้นเอ็น หรือเนื้อเยื่อส่วนที่ลุกล้ำเข้าไปเบียดโพรงประสาทด้านในกระดูกสันหลังออก ช่วยเปิดพื้นที่ภายในโพรงประสาทอันเป็นที่อยู่ของไขสันหลัง รากประสาท หลอดเลือด รวมถึงเส้นเอ็นยึดกระดูกสันหลังให้กลับมามีขนาดเท่าเดิม 

ปัจจุบันการผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ นิยมใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Endoscopic Decompression) ซึ่งมีจุดเด่นการผ่าตัดที่แม่นยำกว่า มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กไม่เกิน 1 เซนติเมตรประมาณ 3-4 แผลเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยเจ็บแผลน้อย เสียเลือดน้อยกว่า และฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วขึ้น 

ด้วยตัวโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบที่สามารถเกิดขึ้นกับโพรงประสาทระดับใดของกระดูกสันหลังก็ได้ ดังนั้นตำแหน่งและอาการผิดปกติในผู้ป่วยแต่ละรายจึงจะแตกต่างกันไป รวมถึงตำแหน่งที่แพทย์จะทำการผ่าตัดด้วย 

แต่ตำแหน่งที่มักพบความผิดปกติได้บ่อย จะได้แก่ คอ และเอว หรือที่บางรายอาจระบุว่าเป็นหลังส่วนล่าง จึงทำให้การผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องเพื่อรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบสามารถแบ่งย่อยออกได้อีก ตามตำแหน่งที่ทำการผ่าตัด ได้แก่ 

  • การผ่าตัดโรคโพรงประสาทตีบแคบที่กระดูกส่วนคอผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscopic Cervical Decompression)
  • การผ่าตัดโรคโพรงประสาทตีบแคบที่กระดูกส่วนเอวผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscopic Lumbar Decompression)

ขั้นตอนการผ่าตัดโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบด้วยเทคนิคส่องกล้อง มีขั้นตอนหลักๆ ดังต่อไปนี้

  • วิสัญญีแพทย์วางยาสลบผู้ป่วย
  • แพทย์ทำความสะอาดผิวผู้ป่วยในตำแหน่งที่จะผ่าเปิดแผล
  • แพทย์ผ่าเปิดแผล 3-4 แผล ในขนาดแผลละไม่เกิน 1 เซนติเมตร จากนั้นสอดเครื่องมือผ่าตัดและกล้องผ่าตัดขนาดเล็กที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 มิลลิเมตรเข้าไปด้านใน ผ่านชั้นกล้ามเนื้อลึกเข้าไปถึงด้านในกระดูกสันหลัง
  • แพทย์ใช้อุปกรณ์และกล้องผ่าตัดผ่าตัดนำกระดูก เส้นเอ็น หรือเนื้อเยื่อส่วนที่กดเบียดโพรงประสาทสันหลังออก
  • เย็บปิดแผล

นอกจากการผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้อง ก็ยังมีเทคนิคการผ่าตัดอื่นๆ ในการรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบอีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินจากแพทย์ในการคัดเลือกวิธีผ่าตัดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่สุด เช่น

  • การผ่าตัดลามิเนกโตมี (Laminectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระดูกลามินา (Lamina) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระดูกสันหลังส่วนที่มีการกดทับออก เพื่อขยายพื้นที่ว่างรอบๆ เส้นประสาท
  • การผ่าตัดลามิโนโตมี (Laminotomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อตัดนำส่วนหนึ่งของกระดูกลามินาส่วนที่กดทับเส้นประสาทมากที่สุดออก เพื่อคลายแรงกดต่อเส้นประสาท
  • การผ่าตัดลามิโนพลาสตี (Laminoplasty) เป็นการผ่าตัดเฉพาะที่กระดูกสันหลังส่วนคอ เพื่อตัดเอาส่วนหนึ่งของกระดูกลามินาออก ช่วยเปิดพื้นที่ช่องว่างภายในโพรงประสาทสันหลัง จากนั้นใส่แผ่นโลหะกับสกรูทำเป็นสะพานบานพับเชื่อมต่อกระดูกส่วนที่ตัดออกไป 

การผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ อันตรายไหม?

ในทุกการทำหัตถการยอมมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงได้ แต่โดยทั่วไปมักมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ในกรณีที่ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้องซึ่งเป็นเทคนิคผ่าตัดใหม่ที่แม่นยำและปลอดภัยกว่าเทคนิคผ่าตัดแบบเก่า

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ

  • แจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว ยาประจำตัวที่กินอยู่ ณ ปัจจุบัน รวมถึงวิตามินเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพทุกชนิดให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อนผ่าตัด
  • ตรวจสุขภาพตามรายการที่แพทย์แนะนำล่วงหน้าก่อนผ่าตัด รวมถึงตรวจเอกซเรย์ ตรวจ CT Scan ตรวจ MRI ตามรายการที่แพทย์กำหนดเพื่อระบุตำแหน่งของโพรงสันหลังที่ผิดปกติ
  • งดยาบางกลุ่มล่วงหน้าก่อนผ่าตัดตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • งดสูบบุหรี่และงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
  • งดน้ำและงดอาหารล่วงหน้าก่อนผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง
  • ควรพาญาติมาด้วยในวันผ่าตัด และเพื่ออยู่ดูแลอำนวยความสะดวกในระหว่างที่ผู้ป่วยพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล

การดูแลตนเองหลังผ่าตัดรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ

  • กินยาตามที่แพทย์สั่งจ่ายให้อย่างเคร่งครัด
  • หมั่นทำกายภาพบำบัด ออกกกายบริหาร และหมั่นเคลื่อนไหวร่างกายตามรูปแบบที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำอยู่เสมอ อย่าหยุดทำถึงแม้แผลจะสมานตัวหรือกลับมาเดินได้คล่องแล้ว
  • โดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะเริ่มลุกเดินเคลื่อนไหวร่างกายได้หลังผ่าตัด 1 วัน
  • ในผู้ป่วยบางราย แพทย์อาจให้สวมที่พยุงหลังไว้ก่อนจนกว่าจะอนุญาตให้นำออก
  • ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้ตามปกติหลังผ่าตัดประมาณ 1-3 วัน แต่ยังต้องงดว่ายน้ำ งดแช่น้ำ จนกว่าแผลจะสมานตัวดี
  • งดยกของหนัก งดออกกำลังกายหนักๆ  และงดการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก อย่างน้อย 3 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • สามารถขับรถยนต์ได้ตามปกติหลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ แต่ยังต้องงดขับรถทางไกลจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
  • ปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเพื่อลดโอกาสการกดทับที่โพรงประสาทสันหลังซ้ำอีก เช่น หลีกเลี่ยงการยกของหนัก งดนั่งทำงานอยู่กับที่นานๆ โดยในทุก 15-20 นาที ให้หมั่นลุกขึ้นเดิน งดขับรถทางไกลบ่อย ๆ 
  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ในระยะยาวเพื่อร่างกายที่แข็งแรง และเพื่อให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น 
  • กลับมาตรวจดูแผลกับแพทย์ตามนัดหมาย โดยในวันตรวจแผล แพทย์อาจส่งตัวผู้ป่วยไปเอกซเรย์ ตรวจ CT Scan หรือทำ MRI เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของโพรงประสาทสันหลังภายหลังการผ่าตัด

โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตหลายด้าน แต่หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ร่วมกับการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง โอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงเดิมก็อยู่ไม่ไกล 

ดังนั้นหากเมื่อไรที่พบอาการปวดหลัง ปวดร้าวจนลงสะโพก ขา เท้า ชาตามมือ แขน ขา เท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างผิดสังเกต อย่ารอช้าที่จะขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัย และทำการรักษาโดยเร็ว

อยากเช็กให้ชัวร์ ปวดหลังแบบนี้ อาการแบบนี้ เพราะโพรงประสาทถูกกดทับหรือเปล่า ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top