การรักษาอาการไหล่หลุดแบ่งออกได้ 2 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ การรักษาด้วยวิธีผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า แล้วต้องไหล่หลุดแบบไหนถึงต้องผ่าตัด แล้วแบบไหนที่ยังไม่ต้องถึงขั้นผ่าตัดก็ได้
ในบทความนี้ มาเจาะลึกความต่างของ 2 รูปแบบการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดพร้อมกัน ผ่าตัดกับไม่ผ่าตัด มีข้อแตกต่างกันอย่างไร
1. การรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด
การรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด มักประกอบไปด้วยกระบวนการรักษา 3 ขั้นตอนหลักๆ ได้แก่
- แพทย์ให้ยาระงับปวด
- แพทย์จัดกระดูกข้อไหล่ให้กลับเข้าที่ จากนั้นให้ผู้ป่วยใส่ที่คล้องแขนไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์
- หลังถอดที่คล้องแขน แพทย์จะให้ผู้ป่วยทำกายภาพบำบัดหัวไหล่ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้งานหัวไหล่ได้ตามปกติอีกครั้ง
การรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด เหมาะกับใคร
การรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัด นิยมใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะข้อไหล่หลุดเป็นครั้งแรกๆ มีอาการไม่บ่อย หรือผู้ป่วยที่เคยมีภาวะข้อไหล่หลุดมาแล้วซ้ำๆ แต่มีเงื่อนไขสุขภาพที่ทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีผ่าตัดได้
ในกรณีนี้แพทย์ก็อาจพิจารณาให้ผู้ป่วยรักษาด้วยวิธีทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ แต่ก็อาจมีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ข้อดีของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด
- เจ็บน้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัด
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่า
- ระยะเวลาฟื้นตัวหลังการรักษาสั้นกว่า
ข้อจำกัดของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด
- รักษาได้เฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะข้อไหล่หลุดครั้งแรกๆ มีภาวะข้อไหล่หลุดแต่อาการไม่รุนแรง หรือมีภาวะข้อไหล่หลุดที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีผ่าตัดได้
- ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
ผลข้างเคียงของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด
การรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัด มักไม่ก่อผลข้างเคียงที่รุนแรงใดๆ ต่อผู้ป่วย ในระหว่างรักษาผู้ป่วยอาจยังมีอาการเจ็บหรือปวดข้อไหล่ที่หลุดได้อยู่บ้าง แต่หลังจากได้รับยาและใส่ที่พยุงแขนไว้ อาการก็จะบรรเทาลง
อย่างไรก็ตาม หากหลังการรักษา ผู้ป่วยไม่ได้ระมัดระวังในการใช้งานหัวไหล่กับแขนให้ดี ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นภาวะนี้ซ้ำได้อีก
ราคาของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด
ค่าใช้จ่ายสำหรับวิธีรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับแผนการรักษาจากแพทย์ รวมถึงปัจจัยด้านระยะเวลาในการรักษา รายการยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้ และเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
2. การรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบผ่าตัด
การรักษาภาวะข้อไหล่หลุดด้วยวิธีผ่าตัด มีจุดมุ่งหมายเพื่อเข้าไปซ่อมแซมเนื้อกระดูกที่เสียหายหรือสึกหรอจากการเกิดภาวะข้อไหล่หลุดโดยตรง ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้ 2 เทคนิคหลักๆ ได้แก่
- การผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบเปิด เป็นการผ่าตัดเพื่อตัดนำกระดูกกลุ่มโคราคอยด์ โพรเซส (Coracoid Process) มาเสริมที่บริเวณเบ้ากระดูกหัวไหล่ที่เนื้อสึกเกิน 15-25% แล้ว
- การผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบส่องกล้อง แพทย์จะเจาะรูแผลขนาด 0.5-1 เซนติเมตร จำนวน 3-4 จุด เพื่อนำกล้องและอุปกรณ์ผ่าตัดเข้าไปเย็บซ่อมแซมเยื่อหุ้มกระดูกข้อไหล่และหมอนรองข้อไหล่ที่ฉีกขาด หรือยืดตัวออกให้กลับมาตึงและสามารถใช้งานใกล้เคียงกับปกติอีกครั้ง
การรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบผ่าตัด เหมาะกับใคร
- เทคนิคผ่าตัดแบบเปิด: นิยมรักษาในผู้ป่วยที่เกิดภาวะข้อไหล่หลุดซ้ำหลายครั้ง จนภาวะเบ้ากระดูกไหล่สึกเกิน 15-25%
- เทคนิคผ่าตัดแบบส่องกล้อง: นิยมรักษาในผู้ป่วยที่เกิดภาวะข้อไหล่หลุดซ้ำ แต่เบ้ากระดูกหัวไหล่ยังไม่ได้รับความเสียหายที่รุนแรง หรือยังสึกหรอในระดับที่น้อย
ข้อดีของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบผ่าตัด
- เทคนิคผ่าตัดแบบเปิด
-
-
- เป็นทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องได้ หรือการผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องไม่สามารถซ่อมแซมภาวะข้อไหล่หลุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- สามารถรักษาความเสียหายของเบ้ากระดูกไหล่ในระดับที่รุนแรงจากการเกิดภาวะข้อไหล่หลุดซ้ำๆ ได้
-
- เทคนิคผ่าตัดแบบส่องกล้อง
-
- แผลผ่าตัดขนาดเล็ก ทำให้เจ็บแผลน้อยกว่า
- ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดสั้นกว่า
- มีโอกาสเสียเลือดน้อย และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า
- โอกาสเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ได้รับบาดเจ็บจากการผ่าตัดน้อยกว่า
- ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล หลังผ่าตัดสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย
ข้อจำกัดของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบผ่าตัด
- เทคนิคผ่าตัดแบบเปิด
- มีแผลผ่าตัดค่อนข้างใหญ่ ทำให้มีโอกาสเจ็บแผลมากกว่าเทคนิคผ่าตัดแบบส่องกล้อง รวมถึงมีโอกาสเสียเลือดมากกว่า และต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นค่อนข้างนานกว่า
- ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกในอนาคต
- เทคนิคผ่าตัดแบบส่องกล้อง
-
- หากผู้ป่วยมีภาวะข้อไหล่หลุดซ้ำจนเกิดภาวะเบ้ากระดูกไหล่สึกเกิน 15-25% จะไม่สามารถผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้ได้
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง โดยอยู่ในระดับหลักแสน
- ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกในอนาคต
ผลข้างเคียงจากการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบผ่าตัด
ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดทั้งเทคนิคผ่าตัดแบบเปิดและเทคนิคผ่าตัดส่องกล้องจะคล้ายคลึงกัน แต่โอกาสเกิดในเทคนิคผ่าตัดส่องกล้องจะน้อยกว่า รวมถึงมีระดับความรุนแรงที่มักไม่เท่าเทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด โดยผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย มีดังต่อไปนี้
- ผลข้างเคียงจากยาสลบหรือยาชา เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน
- ภาวะแผลติดเชื้อ ส่งผลทำให้อาจมีไข้สูง มีอาการแผลบวมแดง มีของเหลวหรือน้ำหนองไหลออกจากแผล แผลมีกลิ่นเหม็น
- อาการปวดเจ็บแผลผ่าตัด
- เส้นประสาท เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียจากการผ่าตัด
ราคาของการรักษาภาวะข้อไหล่หลุดแบบผ่าตัด
-
- เทคนิคผ่าตัดแบบเปิด: ค่าใช้จ่ายของเทคนิคผ่าตัดแบบเปิด จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
- เทคนิคผ่าตัดแบบส่องกล้อง: ประมาณ 190,000-200,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
ภาวะไหล่หลุด เป็นภาวะที่กลับมาเป็นซ้ำได้ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานหนัก หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ภาวะที่รุนแรงถึงชีวิต แต่หากเป็นซ้ำบ่อยๆ กระบวนการรักษาก็จะซับซ้อนและยุ่งยากยิ่งขึ้น ดังนั้นการใช้งานหัวไหล่และแขนอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคต
ไหล่หลุดซ้ำๆ แต่ไม่รู้ว่ายังไม่ต้องผ่าตัดได้หรือไม่ หรือผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องได้หรือเปล่า ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคจาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย