การรักษาภาวะช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงหรือซีสต์ขนาดใหญ่ บทความนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดรักษาช็อกโกแลตซีสต์ในทุกแง่ เพื่อเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสิน
สารบัญ
วิธีการผ่าตัดรักษาช็อกโกแลตซีสต์
ปัจจุบันการผ่าตัดรักษาช็อกโกแลตซีสต์มี 2 วิธีหลัก ได้แก่
การผ่าตัดส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery)
การผ่าตัดส่องกล้องเป็นที่นิยมสูงในปัจจุบัน เนื่องจากมีแผลเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง เจ็บน้อยกว่า และการฟื้นตัวเร็วกว่า
ขั้นตอนการผ่าตัดแบบส่องกล้อง
แพทย์จะเจาะรูเล็กๆ 3-4 รู บริเวณหน้าท้อง จากนั้นทำการสอดกล้องและเครื่องมือผ่านรูเล็กๆ เข้าไปในช่องท้อง เพื่อตัดถุงน้ำออกจากรังไข่ แต่ในบางกรณีอาจต้องตัดรังไข่ออกบางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
ข้อดีของการผ่าตัดแบบส่องกล้อง
- แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 0.5-1 เซนติเมตร จำนวน 3-4 แผล
- เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
- ฟื้นตัวเร็ว สามารถเดินได้ภายใน 1 วันหลังผ่าตัด
- ระยะพักฟื้นสั้น สามารถกลับบ้านภายใน 1-2 วัน
การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery หรือ Laparotomy)
การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่จะต้องกรีดเปิดแผลขนาดใหญ่ที่บริเวณหน้าท้อง นิยมใช้ในผู้ที่แพทย์ประเมินแล้วว่าไม่สามารถผ่าตัดแบบส่องกล้องได้
ขั้นตอนการผ่าตัดแบบเปิด
แพทย์จะกรีดแผลขนาดใหญ่บริเวณหน้าท้องส่วนล่างขนาดประมาณ 10-15 ซม. เพื่อเปิดช่องท้อง และเข้าถึงรังไข่โดยตรง จากนั้นจะตัดถุงน้ำซีสต์ หรือรังไข่ออกตามความรุนแรงของอาการ
ข้อดีของการผ่าตัดแบบเปิด
- เหมาะสำหรับกรณีที่ซีสต์มีขนาดใหญ่มาก หรือมีพังผืดในช่องท้องมากกว่าปกติ
- แพทย์สามารถมองเห็นและเข้าถึงอวัยวะได้ชัดเจน ทำให้ผ่าตัดได้สะดวกขึ้น
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
เนื่องจากการผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ เป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงต้องมีการเตรียมตัวตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้
- การตรวจร่างกายและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น
- ตรวจเลือดทั่วไป
- ตรวจการแข็งตัวของเลือด
- ตรวจปัสสาวะ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- เอกซเรย์ปอดอัลตราซาวด์ช่องท้อง
- งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- ไม่ใส่เครื่องประดับ แว่นตา คอนแทคเลนส์ หรือฟันปลอม
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานอยู่ โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด
การดูแลหลังผ่าตัด
- รักษาความสะอาดและทำความสะอาดแผลตามแพทย์แนะนำ ห้ามแผลโดนน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนกว่าแผลจะแห้ง
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดซึม บวมแดง หรือมีหนองไหล
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก 4-6 สัปดาห์
- งดการมีเพศสัมพันธ์ 4-6 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- สามารถอาบน้ำได้หลังผ่าตัด 24-48 ชั่วโมง (ตามคำแนะนำของแพทย์)
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
ความเสี่ยงจากการผ่าตัดรักษาช็อกโกแลตซีสต์
- ความเสี่ยงจากการผ่าตัดทั่วไป ได้แก่ การติดเชื้อ เลือดออกผิดปกติ เกิดลิ่มเลือด รวมไปถึงผลกระทบจากการได้รับยาสลบเป็นเวลานาน
- การบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้
- การสูญเสียรังไข่บางส่วนหรือทั้งหมด
- การเกิดพังผืดในช่องท้อง
- ในกรณีที่ต้องตัดรังไข่ออกทั้งหมด อาจส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากในอนาคตได้
ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด
การผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ มีค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันตามวิธีการผ่าตัด หากเป็นการผ่าตัดส่องกล้องอยู่ที่ประมาณ 80,000-150,000 บาท
แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 60,000-120,000 บาท ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและความซับซ้อนของการผ่าตัด
การผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ เบิกประกันสังคมได้ไหม
ผู้ประกันตนสามารถเบิกค่ารักษาพยายาลได้ตามสิทธิประกันสังคม โดยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นกรณีฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใดก็ได้ และเบิกค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด
ผลกระทบต่อการมีบุตรในอนาคต
โดยส่วนใหญ่แล้ว การผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์จะส่งต่อความสามารถในการมีบุตรดังนี้
- การผ่าตัดแบบเลาะถุงน้ำ เป็นการผ่าตัดที่แพทย์จะเลาะซีสต์ออกเท่านั้น โดยยังเก็บรังไข่เอาไว้ ผู้ป่วยจึงยังสามารถมีบุตรได้ และจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากจากช็อกโกแลตซีสต์อีกด้วย
- การผ่าตัดแบบตัดรังไข่ แพทย์จะตัดรังไข่ข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างออก โดยหากตัดรังไข่ออกเพียงข้างเดียว ก็ยังสามารถมีบุตรได้ แต่ถ้าหากตัดออกทั้งสองข้าง ก็จะทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้อีก เว้นแต่จะมีการฝากไข่ไว้ล่วงหน้า
นอกจากนี้การผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ก็ยังอาจส่งผลให้เกิดพังผืดที่รังไข่ ซึ่งอาจกระทบต่อการตั้งครรภ์ในอนาคตได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจผ่าตัด ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับแผนการมีบุตร เพื่อรับทราบความเสี่ยง
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ ในเรื่องของราคา โรงพยาบาลที่ให้บริการ ติดต่อ HDcare เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำ และข้อมูลที่ครบถ้วนแค่คุณ คลิกที่นี่