ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกคน ซึ่งอาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้ หากไม่รีบทำการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธี
การตรวจคัดกรองโรคอย่างสม่ำเสมอ เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนลงได้ บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจช็อกโกแลตซีสต์เอาไว้แล้ว
สารบัญ
เมื่อไหร่ควรตรวจช็อกโกแลตซีสต์
โดยทั่วไปแล้วการตรวจหาช็อกโกแลตซีสต์สามารถทำได้ตลอด ไม่จำเป็นต้องมีอาการผิดปกติแล้วค่อยเข้ารับการตรวจ โดยสามารถตรวจพร้อมกับตรวจสุขภาพประจำปีได้เลย หรือหากต้องการทราบว่าตัวเองมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับรังไข่ หรือมดลูกหรือไม่ ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ทันที
วิธีการตรวจคัดกรองช็อกโกแลตซีสต์
ปัจจุบันการตรวจคัดกรองช็อกโกแลตซีสต์มีหลายวิธี ดังนี้
การตรวจภายใน
การตรวจภายใน เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่แพทย์ใช้ในการตรวจหาความผิดปกติในบริเวณอุ้งเชิงกราน โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและตรวจภายในช่องคลอดเพื่อคลำหาก้อนหรือความผิดปกติในบริเวณอุ้งเชิงกราน
ระหว่างการตรวจ อาจรู้สึกหน่วงๆ บริเวณท้องน้อย หรือไม่สบายเล็กน้อย แต่จะไม่ได้รู้สึกเจ็บมาก โดยใช้เวลาตรวจประมาณ 5-10 นาที
การตรวจอัลตราซาวด์
การตรวจอัลตราซาวด์ถือเป็นวิธีหลักที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยช็อกโกแลตซีสต์ โดยมี 2 วิธีหลัก ได้แก่ อัลตราซาวด์ทางหน้าท้อง และอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
ทั้งนี้การตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดจะเป็นวิธีที่แพทย์นิยมใช้มากกว่า เพราะให้ภาพที่ชัดเจน เหมาะกับกรณีที่ต้องการตรวจรายละเอียดของรังไข่
สำหรับการตรวจอัลตราซาวด์ทางหน้าท้องนั้น แพทย์จะใช้เจลเย็นๆ ทาบริเวณหน้าท้องแล้วนำหัวตรวจแนบบริเวณหน้าท้องจากนั้นเคลื่อนหัวตรวจไปเรื่อยๆ เพื่อดูอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน
ขณะที่การอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดนั้น แพทย์จะทาเจลหล่อลื่นและสวมถุงยางอนามัยบริเวณหัวตรวจ จากนั้นสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อตรวจดูความผิดปกติ โดยส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจจะปวดหน่วงๆ และอึดอัดเล็กน้อย
โดยทั่วไปทั้ง 2 วิธีใช้เวลาตรวจประมาณ 15-30 นาที
การตรวจเลือด
การตรวจเลือดช่วยวิเคราะห์ระดับฮอร์โมนและสารที่เกี่ยวข้องกับช็อกโกแลตซีสต์ได้ โดยแพทย์มักสั่งตรวจระดับฮอร์โมน และสารต่างๆ พร้อมกันในคราวเดียว ได้แก่ ระดับฮอร์โมน CA-125 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่มักพบในผู้ที่มีช็อกโกแลตซีสต์ รวมไปถึงการตรวจเลือดเพื่อตรวจการทำงานของรังไข่ เพื่อประเมินสุขภาพและการทำงานของรังไข่
การตรวจ MRI
ในบางกรณี ที่แพทย์สงสัยว่ารังไข่มีความผิดปกติ อาจสั่งตรวจ MRI เพิ่มเติม โดย MRI เป็นการสร้างภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะเป็นวิธีที่แพทย์ใช้เมื่อต้องการภาพที่ละเอียดมากขึ้น
ระหว่างตรวจจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจรู้สึกอึดอัดจากการต้องอยู่นิ่งๆ ในพื้นที่แคบ และมีเสียงดัง ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีก็เสร็จสิ้น
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
โดยทั่วไปแล้วการตรวจหาช็อกโกแลตซีสต์ในแต่ละวิธีจะมีการเตรียมตัวที่แตกต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันนัก โดยการเตรียมตัวของแต่ละวิธีมีดังต่อไปนี้
การเตรียมตัวก่อนการตรวจภายในและอัลตราซาวด์
ในเบื้องต้นก่อนเข้ารับการตรวจภายใน หรือการตรวจอัลตราซาวด์ แพทย์จะแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ
แต่ผู้ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร และวันที่มาตรวจควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบายและถอดง่าย
การเตรียมตัวก่อนการตรวจเลือด
โดยทั่วไปแล้ว ก่อนการตรวจเลือดเพื่อหาสัญญาณความผิดปกติภายในอุ้งเชิงกรานมักไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร แต่บางกรณีที่แพทย์สั่งตรวจเลือดรายการอื่นเพิ่มเติม อาจจำเป็นต้อนงดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา และก่อนเข้ารับการตรวจจะต้องแจ้งแพทย์หากกำลังรับประทานยาใดๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยของแพทย์
การเตรียมตัวก่อนการตรวจ MRI
ก่อนถึงการตรวจแพทย์จะแจ้งให้งดอาการ และน้ำ อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงก่อนตรวจ และในวันเข้ารับการตรวจหากผู้เข้ารับการตรวจอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือโลหะอยู่ในร่างกายจะต้องทำการแจ้งแพทย์ก่อน และจะต้องถอดเครื่องประดับและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกด้วย เพื่อไม่ให้รบกวนต่อการทำงานของเครื่องมือ
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาช็อกโกแลตซีสต์ ควรจดบันทึกอาการ และคำถามที่ต้องการถามแพทย์ เตรียมประวัติการรักษาและยาที่ใช้ประจำ เพื่อแจ้งแพทย์ในระหว่างการซักประวัติ และหากมีอาการแพ้ยาหรือสารทึบรังสี ก็ควรแจ้งแพทย์ด้วยเพื่อความปลอดภัย
ระยะเวลาในการรอคอยผลตรวจ
หลังจากเข้ารับการตรวจแล้ว การรอคอยผลตรวจแต่ละวิธี จะมีระยะเวลาที่แตกต่างกัน โดยการตรวจภายใน การอัลตราซาวด์ และการตรวจด้วย MRI จะทราบผลจากแพทย์ได้ทันที หรือรอรับผลในการพบแพทย์ครั้งต่อไป ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณาและเงื่อนไขของสถานพยาบาลนั้นๆ
ส่วนการตรวจเลือดจะใช้เวลาในการรอผลอย่างน้อย 1-3 วัน หรือบางสถานพยาบาลก็สามารถรอรับผลได้เลย
การติดตามผลตรวจ
เมื่อได้รับผลตรวจแล้ว หากไม่มีความผิดปกติใดๆ แพทย์อาจนัดให้ตรวจตามรอบการตรวจสุขภาพในปีต่อไป
แต่ถ้าพบสิ่งผิดปกติ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์หรือไม่ แพทย์อาจนัดตรวจเพิ่มเติม เพื่อสังเกตว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ทั้งนี้ก่อนจะถึงวันนัดครั้งต่อไป ผู้เข้ารับการตรวจต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติร่วมด้วย หากมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง อาเจียน หรือมีไข้สูงเกินกว่า 38.5 องศาเซลเซียส หรือมีเลือดออกมาทางช่องคลอด ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
แต่ในกรณีที่ผลตรวจระบุว่า มีช็อกโกแลตซีสต์อย่างแน่ชัด แพทย์จะวางแผนการรักษาต่อไป หากขนาดของซีสต์ไม่ใหญ่มากนัก อาจใช้วิธีรักษาด้วยการรับประทานยา หรือฉีดยา แต่ถ้าหากถุงน้ำมีขนาดใหญ่ และเสี่ยงต่อการแตก แพทย์มักแนะนำให้ผ่าตัดออก เพื่อความปลอดภัย
ค่าใช้จ่ายในการตรวจหาช็อกโกแลตซีสต์
ค่าใช้จ่ายในการตรวจช็อกโกแลตซีสต์อาจแตกต่างกันไปตามวิธีการตรวจ และสถานพยาบาล โดยหากต้องการทราบถึงราคาการตรวจวินิจฉัยแต่ละแบบ สามารถติดต่อ HDCare เพื่อเช็กราคาและแพ็กเกจที่สถานพยาบาลใกล้บ้านคุณได้ คลิกที่นี่
ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน และถือเป็นภาวะที่ค่อนข้างรุนแรง หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา ซีสต์อาจแตกจนเป็นอันตรายร้ายแรงได้ ดังนั้นควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย รวมทั้งเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
ปวดท้องน้อยบ่อยๆ และปวดรุนแรงขึ้นเมื่อมีประจำเดือน สงสัยว่ามีเนื้องอก ถุงน้ำ หรือช็อกโกแลตซีสต์หรือเปล่า อยากตรวจให้มั่นใจ ทักหา HDCare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิงได้รวดเร็วทันใจ จาก รพ. ใกล้บ้านคุณ คลิกที่นี่