เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อันตรายไหม ?

การพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การอักเสบของไต หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน หากมีอาการร่วม เช่น ปัสสาวะแสบขัดหรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์

เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อันตรายไหม?

การพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ หรือที่เรียกว่า “pyuria” เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอักเสบหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเป็นผลมาจากสาเหตุอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกาย ความอันตรายขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้

สาเหตุเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ

  1. การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI)
    • สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดจากแบคทีเรีย
    • อาการร่วม: ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้อย ปวดท้องน้อยหรือปวดหลังส่วนล่าง
  2. นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
    • นิ่วอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นการอักเสบ
    • อาการร่วม: ปวดท้องหรือปวดหลังรุนแรง ปัสสาวะเป็นสีแดงหรือมีเลือดปน
  3. โรคไตหรือการอักเสบของไต
    • เช่น โรคไตอักเสบ (glomerulonephritis) หรือ pyelonephritis
    • อาการร่วม: ไข้สูงปวด หลังบริเวณเอว บวมที่ใบหน้าหรือขา
  4. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs)
    • เช่น หนองในหรือคลามิเดีย สามารถทำให้พบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะได้
    • อาการร่วม: ตกขาวผิดปกติ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  5. สาเหตุอื่น ๆ
    • การอักเสบของอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมากอักเสบในผู้ชาย
    • ภาวะภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เช่น โรค SLE

เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อันตรายหรือไม่ ?

การพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะอาจไม่เป็นอันตรายร้ายแรงในทันทีหากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม แต่หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข อาจนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงขึ้น เช่น

  • การติดเชื้อแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด (sepsis)
  • ไตเสียหายถาวรในกรณีที่มีการอักเสบเรื้อรัง

แนวทางการรักษาเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ

  • พบแพทย์เพื่อตรวจ และรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
  • ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยลดความเข้มข้นของปัสสาวะและขับเชื้อโรคออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ป้องกันการติดเชื้อ โดยปัสสาวะทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ และรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ

คำถามจากผู้ใช้บริการ HDmall

พ่อดิฉัน พบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อันตรายไหมค่ะ ?

โดยปกติแล้ว สามารถพบเม็ดเลือดขาวในกระเพาะปัสสาวะได้ครับ ซึ่งโดยส่วยมากจะเรียกว่า การติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะ อาการของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง

  • รู้สึกเจ็บปวด แสบร้อนขณะที่ปัสสาวะ
  • ถ่ายปัสสาวะกะปริบกะปรอย ต้องปัสสาวะบ่อยครั้ง หรือจำเป็นต้องปัสสาวะในทันที ไม่สามารถอั้นได้
  • รู้สึกปัสสาวะไม่สุด
  • ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ
  • ปัสสาวะอาจมีสีขุ่น หรือมีเลือดปน
  • ปวดบริเวณท้องน้อย (กระเพาะปัสสาวะ) หรือบริเวณหัวหน่าว
  • อ่อนเพลีย อ่อนแรง
  • ไข้หรือหนาวสั่น
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

หากมีอาการตามข้างบน อาจเป็นอาการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจครับ

ตอบโดย นพ. ปวริศ ยืนยง

การพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ พบได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ค่ะ โดยถ้าเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ ไม่มากกว่า 5-10 เซลล์สามารถพบในภาวะปกติได้ค่ะ

ส่วนถ้ามีเม็ดเลือดขาว 5-10 เซลล์ขึ้นไป เป็นภาวะทีาไม่ปกติ ต้องหาสาเหตุค่ะ ได้แก่

  1. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ พบได้บ่อยที่สุด ผู้ป่วยอาจมีอาการร่วม เช่น มีไข้ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะขุ่น ปวดหลัง ปวดท้อง หรือมีกลิ่นเหม็นเป็นต้นค่ะ ผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้มีอายุมาก นอนติดเตียง การขับปัสสาวะที่กะเพาะปัสสาวะผิดปกติ การใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้นานๆ เป็นต้นค่ะ
  2. โรคไต (interstitial nephritis) สาเหตุมักพบจากยา เช่น กลุ่มยาแก้ปวด ยาสมุนไพร ยาฆ่าเชื้อบางชนิดค่ะ

ถ้าพบเม็ดเลือดขาว โดยปกติ จะต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง โดยทำความสะอาดอวัยวะเพศให้สะอาด และเก็บปัสสาวะที่สดใหม่ ภายใน 2 ชมค่ะ โดยจะต้องเก็บเพาะเชื้อร่วมด้วย หากมียาที่เป็นสาเหตุ คุณหมออาจให้หยุดยานั้นๆ ก่อนค่ะ ดังนั้น หากพบเม็ดเลือดขาวมนปัสสาวะเกิน 5 เซลล์ แนะนำให้ไปตรวจซ้ำเพื่อหาสาเหตุค่ะ

ตอบโดย พญ. พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์


บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top