ยาเหน็บช่องคลอด เป็นยาสำหรับรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้หญิง เช่น อาการตกขาวจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา หรือเชื้อพยาธิ ซึ่งตัวยาก็จะมีหลายขนาด และมีวิธีใช้แตกต่างกัน
สารบัญ
ฤทธิ์ของยาเหน็บช่องคลอด
ยาเหน็บช่องคลอด ส่วนใหญ่ประกอบด้วยตัวยา Clotrimazole เป็นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะที่ เพื่อรักษาโรคและอาการบางอย่างในผู้หญิง เช่น การรักษาอาการตกขาวจากการติดเชื้อชนิดต่างๆ ทั้งเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และพยาธิ ซึ่งแต่ละเชื้อก็ทำให้เกิดอาการตกขาวในลักษณะที่แตกต่างกันไป อาจมีบางอาการที่เหมือนกันบ้าง
ทางที่ดีควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และจะได้รับยาที่ใช้รักษาได้เหมาะสมด้วย
วิธีใช้ยาเหน็บช่องคลอด
- ตัดเล็บมือให้สั้น สะอาด
- ล้างมือให้สะอาดและล้างช่องคลอดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ แต่ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด แล้วเช็ดให้แห้ง
- แกะยาออกจากแผงบรรจุ นำเม็ดยาไปจุ่มน้ำสะอาดประมาณ 2 วินาที เพื่อให้ยาลื่น สอดได้ง่าย
- หาผ้าปู หรือใส่ผ้าอนามัย เพื่อป้องกันตัวยาละลายไหลออกมาเลอะหลังจากสอดยาแล้ว
- นอนหงายบนที่นอน ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง แยกขาออกจากกัน เพื่อเปิดปากช่องคลอด
- ใช้นิ้วชี้ค่อย ๆ ดันยาด้านที่เป็นปลายแหลมเข้าไปในช่องคลอด ให้ลึกเท่าที่นิ้วจะสอดได้ เพื่อให้เม็ดยาจะไม่หลุดออกมา
- หนีบขาเพื่อไม่ให้เม็ดยาหลุดออกมา นอนในท่าเดิมประมาณ 15 นาที เพื่อให้ยาละลายเคลือบช่องคลอด บางคนอาจนอนตะแคง แล้วขมิบก้นไว้สักครู่
- ล้างมือให้สะอาดหลังใช้ยา
คำแนะนำการใช้ยาเหน็บช่องคลอดเพิ่มเติม
- งดการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการรักษา
- เหน็บยาติดต่อกันทุกวันจนครบขนาด ไม่ต้องหยุดยานี้แม้จะมีประจำเดือน
- ควรเหน็บยาก่อนนอน เพื่อที่ยาจะไม่ไหลซึมออกมาเวลานั่ง ยืน เดิน หรือเคลื่อนไหวไปมา และควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเหน็บยา
- หากมีอาการคันช่องคลอด หรือมีเม็ด ผื่นเกิดขึ้นที่ช่องคลอด ต้องหยุดยา และไปพบแพทย์เพราะอาจแพ้ยา
- กรณีใช้แท่งช่วยสอดยาแทนนิ้วมือ ให้ทำวิธีการเดียวกัน แต่ต้องระวังไม่ให้แท่งช่วยสอดครูดกับผนังช่องคลอดจนเป็นแผลถลอก
คำถามที่พบบ่อยเรื่องยาสอดช่องคลอด
ยาสอดช่องคลอดกี่ชั่วโมงละลาย ?
ยาสอดช่องคลอดมักละลายภายใน 4-8 ชั่วโมง แต่ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของยาและความชื้นในช่องคลอด ควรอ่านคำแนะนำในฉลากและหลีกเลี่ยงการล้างภายในช่องคลอดหลังสอดยา
ยาสอดช่องคลอดแบบเม็ดเดียว กี่วันหาย ?
ยาสอดช่องคลอดแบบเม็ดเดียวมักใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อ เช่น เชื้อราในช่องคลอด โดยระยะเวลาที่อาการจะหายขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อและปฏิกิริยาของร่างกายต่อยา ดังนี้
- ระยะเวลาที่อาการเริ่มดีขึ้น ส่วนใหญ่ อาการคัน ระคายเคือง หรือตกขาวผิดปกติ จะเริ่มดีขึ้นภายใน 1-3 วัน หลังจากใช้ยา
- ระยะเวลาที่การติดเชื้อหายสนิท ในกรณีการติดเชื้อราเล็กน้อยถึงปานกลาง การติดเชื้อมักจะหายสนิทภายใน 7 วัน หากใช้ยาตามคำแนะนำ
- กรณีที่อาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการเรื้อรัง หากผ่านไป 7 วัน แล้วยังมีอาการอยู่ อาจเป็นเพราะติดเชื้อที่ดื้อต่อยาหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยเพิ่มเติม
เหน็บยาช่องคลอดแบบเหน็บ 7 วันไม่ครบ ลืมเหน็บบางวัน ต้องเหน็บต่อวันถัดไปไหม ?
ควรเหน็บต่อให้ครบขนาดการรักษา
เป็นตกขาวสีขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นมาก แต่ไม่คัน ไม่เจ็บมดลูกด้วย เลยซื้อยามากิน และเหน็บเอง จากนั้นอาการก็หายไป แต่เมื่อกลับมามีเพศสัมพันธ์ อาการก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก และเป็นๆ หายๆ มา 1 ปีแล้ว มีวิธีรักษาให้หายขาดอย่างไร ?
ตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากรักษาไม่ถูกต้อง หรือไม่เหมาะกับเชื้อ จะทำให้มีโอกาสรักษาไม่หาย หรือกลับเป็นซ้ำใหม่ได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเป็นเพียงการกำจัดการติดเชื้อที่มีอยู่ในขณะนั้น หากต้องการให้หายขาด จำเป็นต้องใช้ยาให้ถูกต้อง และครบตามขนาดการรักษา รวมถึงต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อดังกล่าวอีกด้วย รวมไปถึงแก้ไขสาเหตุที่ทำให้ตกขาวได้
ดังนั้นสำหรับกรณีศึกษานี้แนะนำให้พบสูติ-นรีแพทย์ เพื่อประเมิน ตรวจอย่างละเอียด และรักษาอย่างเหมาะสมที่สุด
การเหน็บยาทางช่องคลอดมีผลต่อยาคุมที่กินหรือไม่ ?
ยาเหน็บรักษาการติดเชื้อราที่ช่องคลอด เป็นการรักษาการติดเชื้อเฉพาะที่ ยังไม่พบรายงานว่า ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด
รู้สึกแสบช่องคลอด ถือว่าผิดปกติไหม จำเป็นต้องหยุดยาหรือไม่ ?
อาการคัน หรือแสบร้อนเฉพาะที่ เป็นผลข้างเคียงที่อาจพบได้เมื่อใช้ยานีโอ เพโนทราน หากอาการไม่รุนแรงสามารถใช้ต่อจนครบขนาดได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถทนผลข้างเคียงได้ ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาการใช้ยาอื่นแทน
ได้สอดยาครบตามจำนวน 7 เม็ด แต่เมื่อสอดเม็ดสุดท้ายแล้วรู้สึกเจ็บ เลยสงสัยว่า ช่องคลอดน่าจะแห้ง แล้ววันถัดไป ก็มีเลือดออกมาเป็นเหมือนเส้นด้ายบางๆ หลังจากนั้น 2 วัน พอมีเพศสัมพันธ์แล้ว ก็มีเมือกสีน้ำตาลๆ ออกมาติดกางเกงชั้นในเล็กน้อย อาการแบบนี้เป็นอันตรายอะไรหรือไม่ ?
จากข้อมูลที่ได้รับ เมื่อผู้ใช้รู้สึกเจ็บเมื่อสอดยาเม็ดสุดท้ายนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเม็ดยา หรืออุปกรณ์ช่วยสอด อาจขีดข่วนภายในช่องคลอดขณะสอดยาทำให้เกิดแผลในช่องคลอดจนช่องคลอดอักเสบ หากมีเลือดออกไม่มากก็ไม่น่ากังวลอะไรแต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนบริเวณที่มีอาการ
แต่หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น หลายวันแล้วก็ยังมีเลือดซึมออกมาตลอด หรืออาการอักเสบจากการติดเชื้อในช่องคลอดไม่หายไป (ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ยาไม่ถูกโรค) แนะนำให้พบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
อยากทราบว่าถ้าเหน็บยาแล้วต้องเอาออกไหม ถ้าต้องเอาออก เหน็บประมาณกี่นาที หรือกี่ชั่วโมง ?
สามารถทำตามวิธีการที่แนะนำไว้ในบทความเลย เมื่อเหน็บยาแล้ว เม็ดยาจะละลายเคลือบในช่องคลอด รักษาการติดเชื้อเฉพาะที่ไม่ต้องเอายาออก และไม่ต้องล้างช่องคลอดเมื่อเหน็บยาเสร็จ เมื่อถึงเวลาอาบน้ำตอนเช้า ให้ล้างทำความสะอาดตามปกติ
ใช้ยาคานาโซลเหน็บไป 2 วัน วันที่ 3 เป็นประจำเดือน เอกสารข้างกล่องยาไม่แนะนำให้ใช้ยาขณะมีประจำเดือน ทำอย่างไรดี ?
การใช้ยาเหน็บช่องคลอดในระหว่างมีประจำเดือน นอกจากจะไม่สะดวกต่อผู้ใช้แล้วยังอาจไม่ได้ประสิทธิภาพดีเท่าที่ควรจึงไม่แนะนำให้ใช้กรณีที่เป็น Clotrimazole 500 mg สอดครั้งเดียว แต่หากเป็น Clotrimazole 100 mg สอดติดต่อกันหลายวันนั้น แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องไปตามปกติ หรือถ้าไม่สะดวกจริงๆ อาจต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อน แล้วจึงเริ่มต้นใช้ยาใหม่ (เริ่มนับหนึ่งใหม่ จนครบขนาด)
ในกรณีศึกษานี้ ไม่ทราบว่ายายี่ห้อคานาโซลที่ผู้ใช้บอกนั้นขนาดกี่มิลลิกรัม แต่จากข้อมูลที่ว่าต้องสอดหลายวันก็น่าจะเป็น Clotrimazole 100 mg ดังนั้นหากสามารถสอดยาได้ก็ให้ใช้ต่อเนื่องได้เลย ที่เอกสารกำกับยาแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ช่วงที่มีประจำเดือนเพราะเกรงว่าจะไม่ได้ผลเต็มที่เท่าที่ควร แต่ถ้าใช้ไปแล้วก็ควรใช้ต่อเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการรักษา
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีล้างอสุจิออกจากช่องคลอดทำอย่างไร ?
- เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ สัญญาณเสี่ยงโรคอะไรบ้าง
- ช่องคลอดหลวม จิ๋มตด เพราะเหตุใด รักษาอย่างไร ?
คำถามสุขภาพที่พบบ่อย