แม้โคล่าหรือน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลจะไม่มีแคลอรี่ แต่ก็ไม่แนะนำให้ดื่มมากเกินไปในแต่ละวัน เนื่องจากอาจมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ปริมาณที่เหมาะสมของโคล่าไม่มีน้ำตาลแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง ระดับกิจกรรม และสภาพสุขภาพโดยรวม จึงไม่มีการกำหนดค่าที่ตายตัวว่าดื่มได้วันละกี่ขวดหรือกี่กระป๋อง
สารบัญ
ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการดื่ม
สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น แอสปาร์แตม (Aspartame), ซูคราโลส (Sucralose) หรืออะซีซัลเฟมเค (Acesulfame K) เพิ่งถูกผลิตมาไม่กี่สิบปี ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลอันตรายในระยะยาวมีข้อมูลน้อย และยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ถึงอันตรายที่ชัดเจน
แม้จะมีบางงานวิจัยที่พาดพิงถึงโรคอื่น เช่น องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งเคยประกาศเมื่อช่วง กรกฎาคม พ.ศ. 2566 แต่ก็ไม่ใช่ข้อห้ามและเป็นเพียงคำแนะนำ
อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขภาพโดยรวม แนะนำให้ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อลดการทดแทนการดื่มแทนน้ำเปล่าและลดผลข้างเคียงจากน้ำอัดลม
- แนะนำทั่วไป ควรดื่มเฉลี่ยไม่เกิน 1 กระป๋องต่อวัน หรือไม่เกิน 7 กระป๋องต่อสัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการดื่มแทนน้ำเปล่า และควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักเพื่อความสมดุลของร่างกาย
- ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมรวดเดียวจำนวนมาก ในเวลาสั้นๆ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายจนถึงขึ้นเสียชีวิตได้
ข้อดีของโคล่าไม่มีน้ำตาล
- ไม่มีน้ำตาล: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าแบบปกติ
- ไม่มีแคลอรี่: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- รสชาติใกล้เคียงกับแบบปกติ: ตอบสนองความอยากได้เครื่องดื่มหวาน
ข้อเสียของโคล่าไม่มีน้ำตาล
- สารให้ความหวาน: โคล่าไม่มีน้ำตาลใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล การบริโภคในปริมาณมากอาจส่งผลต่อสุขภาพ เช่น ปัญหาทางเดินอาหาร หรือการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลำไส้
- กรด: เครื่องดื่มคาร์บอเนตมีกรด ซึ่งอาจกัดกร่อนฟัน และส่งผลต่อกระดูก
- สารเติมแต่ง: โค้กไม่มีน้ำตาลมีสารเติมแต่งอื่นๆ ซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้
- การติด: รสชาติที่หวานและซ่าอาจทำให้ติดได้ การดื่มมากเกินไปอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการกินและสุขภาพโดยรวม
- มีคาเฟอีน: อาจส่งผลต่อคนที่ไวต่อคาเฟอีน
สรุปควรทานประมาณเท่าไหร่ ?
การดื่มโคล่าไม่มีน้ำตาลในปริมาณ 1 กระป๋องต่อวัน ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป
สำหรับคนรักสุขภาพ อาจไม่ทานเลยหรือลดปริมาณให้น้อยกว่านั้น
น้ำตาลเทียมยังไม่มีวิจัยที่ระบุผลข้างเคียงที่ชัดเจน การทานปริมาณน้อยจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากผลกระทบทางอ้อมของน้ำตาลเทียมต่อระบบเผาผลาญและสุขภาพในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็นข้อกำหนดตายตัว สามารถทานได้มากกว่านั้นในบางกรณี เพียงแต่ควรเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ
บทความแนะนำ