มีอะไรกับแฟน แล้วค่อยใส่ถุงยาง มีโอกาสท้องไหม ?

วัยรุ่นบางคนเพิ่งมีประสบการณ์มีอะไรกับเเฟนครั้งเเรก ทำให้เกิดคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับการใส่ถุงยางอนามัย บางคนไม่ได้ใส่ถุงยางในช่วงแรกของการมีเพศสัมพันธ์แล้วเพิ่งมาใส่ทีหลัง บางคนไม่รู้ว่าแตกต่างกันอย่างไรระหว่างใช้ถุงยางกับไม่ใช้ หรือบางคนสงสัยว่าหลั่งนอกจะท้องได้หรือไม่ สำหรับเรื่องสอดใส่ก่อนแล้วค่อยใส่ถุงทีหลังก็มีคนถามก็เป็นข้อสงสัยที่ถามเข้ามาบ่อย

มีอะไรกับแฟนไม่ใส่ถุงยาง เสี่ยงท้องแค่ไหน ?

การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน มีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 4-27% แม้จะไม่มีการหลั่งใน

ปัจจัยความเสี่ยงมีดังนี้

1. ช่วงเวลาของรอบเดือน

  • หากเป็นช่วง ตกไข่ (ประมาณวันที่ 10-17 นับจากวันแรกของประจำเดือน) โอกาสตั้งครรภ์จะสูง เนื่องจากไข่พร้อมที่จะผสมกับอสุจิ
  • หากเป็นช่วง ก่อนหรือหลังประจำเดือนมา โอกาสตั้งครรภ์จะต่ำกว่า แต่ยังไม่ใช่ศูนย์ เพราะร่างกายของแต่ละคนมีการตกไข่ที่แตกต่างกัน

2. การมีน้ำหล่อลื่นของผู้ชาย

  • แม้จะไม่มีการหลั่ง แต่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายอาจมีอสุจิปนอยู่ได้ ลมีโอกาสทำให้ตั้งครรภ์

3. การป้องกันที่ไม่ครบถ้วน

  • หากมีการหลั่งภายนอก อาจมีอสุจิหลุดรอดไปในช่องคลอดได้โดยไม่ได้ตั้งใจ

ดังนั้น ควรถุงยางอนามัย หรือวิธีการคุมกำเนิดอื่น เพื่อป้องกันทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหากกังวลเรื่องการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิด ควรพิจารณา ยาคุมฉุกเฉิน ภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ในระดับหนึ่ง

คำถามจากผู้ใช้บริการ HDmall

หนูมีอะไรกับแฟน ตอนแรกแฟนสอดใส่อวัยวะเพศแบบไม่ได้ใส่ถุงยาง ขยับเข้าออกแค่ 4-5 ครั้ง แต่ไม่ได้หลั่งเลยทั้งข้างในและข้างนอก แล้วเอาออกมาใส่ถุงยาง แล้วค่อยทำภารกิจต่อจนเสร็จ แต่ไม่ได้หลั่งใน เอาออกมาหลั่งข้างนอกทั้งๆ ที่ยังใส่ถุงยางอยู่ แบบนี้มีโอกาสท้องไหมคะ ?

มีโอกาสแต่น้อยครับ บางครั้งอาจมีอสุจิปนมากับน้ำหล่อลื่นได้

อีกอย่าง โอกาสตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย ถ้าเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ และมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน 7 วัน หรือหลัง 7 วันของวันแรกที่ประจำเดือนมา ถือว่าเป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสตั้งครรภ์น้อยมากครับ แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากวันแรกที่ประจำเดือนมา จะเป็นช่วงตกไข่ โอกาสตั้งครรภ์จะสูง

ถ้ายังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 72 ชั่วโมง พิจารณาใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ โดยเฉพาะถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงตกไข่

ตอบโดย นพ. วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์

การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่แต่ไม่มีการหลั่ง ถ้าหากไม่ได้มีการป้องกันเลย จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4-27% เนื่องจากอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปผสมกับไข่ได้ครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัย ถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องและไม่มีการแตกรั่ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์ผิดพลาดได้มีประมาณ 2%

ดังนั้น จึงควรมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยหรือวิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ลดลงให้น้อยที่สุด

ในกรณีที่ได้มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันไปแล้ว อาจป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มเติมได้โดยการรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งการรับประทานยาคุมฉุกเฉินสามารถลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 75-85% แต่ก็อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน และอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้

ในกรณีนี้ แนะนำให้พิจารณาว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากยาคุมฉุกเฉินมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงหรือไม่ หากประโยชน์มากกว่า ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์

หนูเพิ่งเป็นประจำเดือนไปเมื่อต้นเดือนที่แล้วค่ะ วันที่ 1 กันยา แล้วมีอะไรกับแฟนวันนี้ แบบนี้มีโอกาสท้องไหมคะ หรือหนูควรกินยาคุมฉุกเฉินกันไว้ดีกว่า เพราะหนูเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่ค่ะ บางเดือนก็มาต้นเดือน บางเดือนก็มากลางเดือนค่ะ

การมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย แต่ไม่มีการหลั่งนั้น มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4-27% ในขณะที่การรับประทานยาคุมฉุกเฉินสามารถลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% (ยังมีโอกาสตั้งครรภ์อยู่ 15-25%)

แต่เนื่องจากเป็นการสอดใส่เพียงไม่นาน จึงถือเป็นภาวะที่ก้ำกึ่งว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะให้ประโยชน์จริงหรือไม่ เพราะในอีกด้านหนึ่ง การรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้

ในกรณีนี้ หมอแนะนำว่าคุณควรพิจารณาข้อดี-ข้อเสียของการรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้ดี ถ้าต้องการลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ให้น้อยที่สุดโดยไม่สนใจผลข้างเคียงของยา ก็แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน

แต่ถ้าคิดว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะไม่ได้ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ไปมากนัก และอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันจากผลข้างเคียงของยา ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์


บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top