เป็นสิวที่อวัยวะเพศชาย ทำอย่างไร ?

สิวที่อวัยวะเพศชายสามารถเกิดขึ้นได้จากการระคายเคือง เหงื่อ ความมัน หรือการติดเชื้อเล็กน้อย ควรดูแลความสะอาดและหลีกเลี่ยงการบีบสิวเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยละเอียด

เป็นสิวที่อวัยวะเพศชาย เกิดจากอะไร ?

สิวที่อวัยวะเพศชายอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ใช่อาการที่ร้ายแรง แต่ก็ควรระวังหากมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย

  • รูขุมขนอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณรูขุมขน มักเกิดหลังจากการโกนขนหรือการเสียดสีจากกางเกงใน
  • ต่อมไขมันอุดตัน บางครั้งต่อมไขมันบริเวณอวัยวะเพศอาจอุดตันจนเกิดเป็นตุ่มหรือสิวลักษณะคล้ายเม็ดไขมัน
  • การระคายเคือง เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง เช่น สบู่ แป้ง หรือสารหล่อลื่น รวมถึงการเสียดสีจากเสื้อผ้าที่รัดแน่น
  • การติดเชื้อทางผิวหนัง เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดตุ่มหนอง หากมีลักษณะตุ่มแดง อักเสบ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นหรือผู้ที่มีฮอร์โมนเพศสูง อาจทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้นจนเกิดสิว
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิสหรือเริม อาจทำให้เกิดตุ่มหรือแผลบริเวณอวัยวะเพศ หากมีลักษณะตุ่มน้ำใสหรือเจ็บ ควรรีบพบแพทย์
  • เหงื่อและความชื้นสะสม การสวมใส่กางเกงที่รัดแน่นหรือไม่ระบายอากาศ อาจทำให้เกิดการสะสมของเหงื่อและความชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดสิวหรือการติดเชื้อ

เป็นสิวที่อวัยวะเพศชาย รักษาอย่างไร ?

หากมีสิวที่อวัยวะเพศ ควรปฎิบัติตัวดังนี้

  • รักษาความสะอาด: ล้างบริเวณอวัยวะเพศด้วยสบู่อ่อนๆ และซับให้แห้ง
  • หลีกเลี่ยงการบีบสิว: เพราะอาจทำให้ติดเชื้อหรืออักเสบมากขึ้น
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี: เพื่อลดการสะสมของเหงื่อและความอับชื้น
  • พบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ: เช่น สิวไม่หาย เจ็บ อักเสบ หรือมีหนอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษา

หากสิวเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันการแพร่กระจาย

คำถามจากผู้ใช้บริการ HDmall

ผมมีเม็ด เหมือนสิวขึ้นที่ลำอวัยวะเพศชายครับ ขึ้นเป็นตุ่มเดียวเลยครับ สีแดง กดไม่เจ็บแต่ถ้ากดแรงๆ จะเจ็บ ไม่มีกลิ่น ไม่คัน อันตรายไหมครับ?

ถ้าคนไข้ ไม่ทีอาการอื่นๆ นอกจากตุ่มสิวเม็ดเดียว หรือ ไม่มีความเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันมาก่อน มาการดังกล่าว อาจเป็น รูขุมขนอักเสบ ซึ่งถ้าเป็นตุ่มเดียว ไม่อันตราย สามารถหายเองได้เพียงรักษาความสะอาดค่ะ

รูขุมขนอักเสบ (folliculitis) เริ่มแรกอาจเป็นเหมือนตุ่มหนอง คล้ายสิว ขึ้นตามแขนขา หรือตามรูขุมขนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อฝ่อลงจะกลายเป็นสีดำ หรือถ้ามีการแกะเกาบ่อยๆ อาจเป็นแผลเป็นได้ และอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้ค่ะ

สาเหตุ เป็นได้หลายอย่างค่ะ ตั้งแต่ การ ติดเชื้อ , การรักษาสุขอนามัยไม่ดี , โรคทางภูมิคุมกันผิดปกติต่างๆ เป็นต้น
การรักษาเบื้องต้นของรูขุมขนอักเสบ แนะนำว่า

  1. งดอาบน้ำร้อน ให้อาบน้ำที่อุณหภูมิห้อง
  2. ทาโลชัน ให้ความขุ่ทชื้นสม่ำเสมอ
  3. รักษาความสะอาดของผิวหนังบริเวณดังกล่าว ไม่ควรอับชื้น
  4. ถ้าเป็นมากแนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยเพ้่ทเติม อาจได้ยาสเตียรอยด์ หรือยาฆ่าเชื้อมาทาค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top