สุขภาพช่องปากและฟันเป็นเรื่องที่ได้ยินอยู่บ่อย ๆ แต่บางเรื่องกลับเป็นความเข้าใจผิด ๆ อยู่ ทั้งเรื่องของโรคในช่องปาก การดูแลความสะอาด และอีกหลายเรื่อง บทความนี้จะขอมาแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันให้กับคุณเอง
อ่านครบหมดทุกข้อ คุณจะดูแลสุขภาพฟันและช่องปากได้ดีขึ้นแน่นอน
สารบัญ
1. ฟันผุเกิดจากน้ำตาลอย่างเดียว
ทุกคนทราบกันดีว่าน้ำตาลไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับฟัน และยังทำให้เกิดฟันผุได้ด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วจุดเริ่มต้นส่วนหนึ่งของฟันผุมาจากแบคทีเรียในช่องปากของเราสร้างกรดขึ้น ส่งผลกัดกร่อนผิวเคลือบฟันของเราจนทำให้เกิดฟันผุ
น้ำตาลเป็นเพียงหนึ่งในอาหารอันโอชะของแบคทีเรียเหล่านี้เท่านั้น เพราะอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต อย่างข้าว และแป้ง เช่น ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว หรือคาร์โบไฮเดรตกลุ่มอื่น ก็ทำให้แบคทีเรียสร้างกรดที่ทำให้ฟันผุขึ้นได้เหมือนกัน
นอกจากนี้ เศษอาหารกลุ่มอื่น ๆ ก็อาจทำปฏิกิริยากับน้ำลาย กลายเป็นเมือกที่ส่งผลให้เกิดฟันผุได้เช่นเดียวกัน จึงไม่ใช่เฉพาะแค่น้ำตาลอย่างเดียวที่เป็นตัวการสำคัญของฟันผุ
2. แปรงฟันแรง ๆ ฟันสะอาด
แปรงฟันทั้งที แปรงแรง ๆ ฟันจะได้สะอาด เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการแปรงฟันที่รุนแรงเกินไป ยิ่งขนแปรงของแปรงสีฟันแข็งด้วยแล้ว มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวเคลือบฟันเสียหาย และเหงือกบาดเจ็บ ส่งผลให้ฟันอ่อนแอ และเสี่ยงปัญหาช่องปากอื่น ๆ ตามมาได้
การแปรงฟันให้สะอาดคือ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยครั้งละ 2 นาที เช้า–เย็นทุกวัน และควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม เพื่อทำความสะอาดตามซอกฟันได้ดี
วิธีแปรงฟันอย่างถูกวิธีที่ทันตแพทย์แนะนำ ให้วางขนแปรงเอียงเข้าหาฟัน ทำมุม 45 องศา ให้ปลายขนแปรงอยู่บริเวณขอบเหงือก จากนั้นปัดขนแปรงขึ้นลงกับแนวฟันบนและล่าง ทั้งฟันด้านในและด้านนอก
3. ใช้ไหมขัดฟันแล้วเลือดออก ควรหยุดทันที
การใช้ไหมขัดฟันหลังแปรงฟันเป็นวิธีดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ควรละเลย เพราะการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถขจัดเศษอาหาร และสิ่งสกปรกออกได้หมด
แต่ปัญหาที่คนเริ่มใช้ไหมขัดฟันแรก ๆ มักเจอ คือ เลือดออกจากการใช้ไหมขัดฟัน ทำให้หลายคนเลือกที่จะหยุดใช้ เพราะกลัวเป็นอันตรายกับฟัน
แท้ที่จริงแล้ว การที่เลือดออกตามซอกฟันเมื่อเริ่มใช้ไหมขัดฟันครั้งแรก ยิ่งเป็นคนที่ไม่ได้ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ เป็นสัญญาณว่าฟันของเรากำลังมีหินปูนเกาะอยู่ ส่วนใหญ่เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง 1–2 สัปดาห์ อาการเลือดออกจะดีขึ้นเอง (ในกรณีที่คุณใช้อย่างถูกวิธี และขัดไม่แรงจนเกินไป)
แต่หากใช้ไหมขัดฟันแล้วเลือดออกไม่หยุดติดต่อกันนาน แนะนำว่าควรหยุดใช้ และปรึกษาทันตแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณการอักเสบของเหงือก หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ
4. หลังแปรงฟัน ควรบ้วนปากทุกครั้ง
เชื่อว่าคนส่วนมากจะบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลังแปรงฟันอย่างแน่นอน แต่จริง ๆ แล้ว เราไม่ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลังแปรงฟันนะ เพราะในยาสีฟันส่วนใหญ่จะมีสารฟลูออไรด์ที่ช่วยป้องกันผุ ซึ่งฟลูออไรด์จำเป็นต้องอาศัยเวลาในการทำปฏิกิริยากับฟันของเรา
ถ้าคุณบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้งหลังแปรงฟันอาจทำให้ฟลูออไรด์ถูกล้างออกไปไม่มากก็น้อย และอาจเสี่ยงต่อฟันผุ แถมยังเป็นการใช้ยาสีฟันอย่างไม่คุ้มค่าด้วย
วิธีที่ถูกต้อง คือ การบ้วนฟองยาสีฟันทิ้งให้หมดหลังแปรงฟัน ถ้าใครที่ยังไม่คุ้นชินอาจจะบ้วนน้ำแต่น้อย หรือบ้วนเพียงครั้งเดียว เพื่อให้ฟลูออไรด์อยู่ในช่องมากที่สุด รวมถึงเลี่ยงการดื่มน้ำ หรือกินอาหารหลังแปรงฟัน 30 นาทีแค่นั้นเอง
5. อุดฟันเป็นทันตกรรมที่เจ็บ
เด็กหรือแม้แต่ผู้ใหญ่หลายคนกลัวการทำฟัน เพราะกลัวความเจ็บ แต่การอุดฟันเป็นทันตกรรมที่แทบไม่เจ็บเลย เพราะทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือกรอฟันส่วนที่ผุออก แล้วใช้วัสดุอุดฟันอุดรอยผุนั้น ซึ่งคุณอาจรู้สึกถึงอาการเสียวฟันเพียงนิดเดียว
แต่หากฟันผุลึกลงไปใกล้โพรงประสาทฟัน หรือฟันผุรุนแรงจนถึงขั้นถอนฟันทิ้ง ก็ย่อมเสียวฟันมากขึ้นหรือเจ็บปวดแน่นอน ทันตแพทย์จะใช้ยาชาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ ดังนั้น ควรไปตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน หากมีฟันผุจะได้อุดฟันก่อนอาการจะรุนแรงขึ้น
อุดฟันไม่เจ็บอย่างที่คิด ฟันผุไม่เยอะ รีบอุดก่อนปวด เช็กและเปรียบโปรอุดฟัน ราคาสบายกระเป๋า จากคลินิกทันตกรรมได้ที่ HDmall.co.th คลิกเลย
6. น้ำยาบ้วนปาก ยิ่งบ้วน ยิ่งสะอาด
น้ำยาบ้วนปากเป็นหนึ่งในของใช้ที่มีติดห้องน้ำ แต่จริง ๆ แล้วน้ำยาบ้วนปากแทบไม่จำเป็นเลย หากคุณแปรงฟันอย่างถูกต้องอยู่เป็นประจำ ในขณะเดียวกันการใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆ อาจทำให้จุลินทรีย์ในช่องปากเสียสมดุล และช่องปากระคายเคืองได้ด้วย
ทางที่ดี แนะนำว่าใช้แต่พอดี และให้ความสำคัญกับการแปรงฟันอย่างถูกต้องอยู่เป็นประจำ และเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่อ่อนโยนต่อช่องปากด้วย
7. ถ้ายังไม่ปวดฟัน ยังไม่ต้องไปหาหมอ
สุขภาพช่องปากและฟันเป็นสิ่งหลายคนละเลย เพราะเข้าใจว่าเหมือนสุขภาพร่างกาย ถ้าไม่เจ็บป่วยก็ไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ความเป็นจริงแล้ว สุขภาพช่องปาก และฟันของเราควรได้รับการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ
เพราะปัญหาสุขภาพช่องปากส่วนใหญ่มักไม่มีอาการในช่วงแรก แต่จะมีอาการในช่วงที่รุนแรงแล้ว แถมยังรักษาได้ยาก และยังต้องจ่ายค่ารักษามากขึ้นด้วย ดังนั้น ควรไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นความเชื่อ และเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก และฟันที่คนส่วนใหญ่น่าจะกำลังเชื่อแบบนั้นกันอยู่ อ่านจบแล้วก็ลืมแบ่งปันความรู้นี้กับคนใกล้ตัวเพื่อช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปาก และฟันที่ดีด้วยนะ
อย่ารอให้เสียวฟัน อย่ารอให้ปวดฟัน เพราะจะเสียทั้งค่ารักษา เวลา และคุณภาพชีวิต ตรวจฟันผุและอุดฟันกันไว้ดีกว่า เช็กและเปรียบแพ็กเกจอุดฟันราคาดี จากคลินิกทันตกรรมได้ที่ HDmall.co.th คลิกเลย
