ฟื้นบำรุงผมเสียให้กลับมาสลวย มีวิธีไหนบ้าง?

เส้นผมของทุกคนมีโอกาสถูกทำร้ายจากหลายปัจจัย ทั้งมลภาวะ การใช้ชีวิตประจำวัน อาหารที่กิน และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมต่างๆ แต่การดูแลเส้นผมเองที่บ้านนั้นอาจใช้เวลานาน ทำเองคนเดียวก็ลำบาก หลายคนจึงเลือกใช้บริการดูแลเส้นผมจากร้านทำผมเพื่อฟื้นบำรุงผมเสีย

มีคำถามเกี่ยวกับ ฟื้นฟูผม? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นและประโยชน์ของการบำรุงผมที่พบได้ในร้านทำผมทั่วไป คือการทำทรีตเมนต์ การอบไอน้ำ และการนวดศีรษะ

ทรีตเมนต์ผมคืออะไร?

การทรีตเมนต์ผม (Hair treatment) คือการจัดการกับปัญหาผมต่างๆ เช่น ผมร่วง ผมแห้ง ผมชี้ฟู ผมบาง ด้วยวิธีที่เหมาะสมกับปัญหานั้นๆ อาจมีหลายวิธีร่วมกันหรือใช้เพียงวิธีเดียวก็ได้ ขึนอยู่กับแต่ละคน

เพราะปัญหาผมเสียแต่ละอย่างก็เกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน และต้องใช้วิธีฟื้นบำรุงที่แตกต่างกันด้วย

ทรีตเมนต์ผมแบบต่างๆ

การทรีตเมนต์ผมสามารถแบ่งได้เป็นหลายวิธี มีทั้งแบบให้บริการที่ร้านทำผมทั่วไป หรือจะประยุกต์ทำเองที่บ้านก็ได้ ต่อไปนี้เป็นการทำทรีตเมนต์ที่พบได้บ่อยในร้านทำผม

1. การทำเคราตินทรีตเมนต์

การทำเคราตินทรีตเมนต์ (Keratin treatment) เป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในเส้นผมธรรมชาติอยู่แล้ว ร่วมกับสารเคมีชนิดอื่นๆ เช่น ฟอร์มาดิไฮด์ (Formaldehyde)

ผู้ให้บริการอาจทำการสระผมเพื่อทำความสะอาดก่อน จากนั้นจะลงผลิตภัณฑ์เคราตินทรีตเมนต์ทิ้งไว้บนผมประมาณ 30 นาทีแล้วจึงล้างออก

ประโยชน์ของการทำเคราตินทรีตเมนต์ อาจมีดังนี้

  • ช่วยให้เส้นผมดูเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น
  • ช่วยให้ผมแลดูหนาขึ้น
  • ช่วยให้ผมดูตรงขึ้น มันวาวดูสุขภาพดี
  • ช่วยให้ผมจัดทรงง่ายขึ้น

2. การหมักผมด้วยน้ำมัน

การหมักผมด้วยน้ำมัน (Hot oil treatment) เป็นการลงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดน้ำมันจากพืชชนิดต่างๆ เพื่อปกป้องและฟื้นบำรุงเส้นผม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแห้ง ผมแตกปลาย

สารสกัดน้ำมันจากพืชที่นิยม เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์

ผู้ให้บริการอาจชโลมผลิตภัณฑ์น้ำมันสกัดทิ้งไว้บนเส้นผม แล้วคลุมด้วยหมวกคลุมอาบน้ำหรือผ้าขนหนูอุ่นๆ เป็นเวลา 20 นาทีก่อนจะล้างออก

ประโยชน์ของการหมักผมด้วยน้ำมัน อาจมีดังนี้

  • ช่วยให้เส้นผมตรงมีน้ำหนักขึ้น
  • ช่วยให้ผมและหนังศีรษะชุ่มชื้น ไม่ชี้ฟู
  • ช่วยลดรังแคบนหนังศีรษะ
  • ช่วยลดผมแตกปลาย

3. การทรีตเมนต์ด้วยครีมนวดผม

การทำทรีตเมนต์ด้วยครีมนวดและแชมพูสระผม สามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่หลายคนชอบใช้บริการที่ร้านทำผม ด้วยเหตุผลด้านความสะดวกสบาย

ผู้ให้บริการจะเริ่มจากการสระผมด้วยแชมพูก่อน หากเป็นไปได้ควรเลือกร้านที่ใช้แชมพูที่ไม่มีสารซัลเฟต (Sulfates) เนื่องจากอาจทำให้ผมเสียได้

มีคำถามเกี่ยวกับ ฟื้นฟูผม? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หลังจากสระผมด้วยแชมพูแล้ว ผู้ให้บริการจะลงครีมนวดที่ออกแบบมาสำหรับผมแห้งเสีย อาจทำร่วมกับการนวดศีรษะเพื่อผ่อนคลายด้วย หากผมแห้งเสียมากผู้ให้บริการอาจแนะนำให้ใช้เองที่บ้านเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

ประโยชน์ของการทำทรีตเมนต์ครีมนวด อาจมีดังนี้

  • ช่วยให้ผมนุ่มขึ้น
  • ช่วยให้ผมเนียนดูสุขภาพดี
  • ช่วยให้ผมไม่แห้งเสีย ดูเงางาม

อบไอน้ำคืออะไร?

การอบไอน้ำ (Hair steaming) คือการใช้เครื่องอบไอน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมด้วยความร้อนประมาณ 40-60 องศาเซลเซียสร่วมกับไอน้ำ เพราะไอน้ำมีขนาดโมเลกุลค่อนข้างเล็กซึมเข้าสู่ผมได้ดี

ผู้ให้บริการอาจลงผลิตภัณฑ์ป้องกันผมเสียให้ก่อน และคลุมผมด้วยผ้าขนหนูหรือหมวกคลุมอาบน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงการให้ผมสัมผัสกับความร้อนโดยตรง

อบไอน้ำมีประโยชน์อย่างไร?

ประโยชน์ของการอบไอน้ำ อาจมีดังนี้

  • ช่วยฟื้นบำรุงผมเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผม
  • ช่วยให้ผมนุ่มสลวยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การอบไอน้ำควรทำอย่างระมัดระวัง ไม่ควรให้อุณหภูมิร้อนเกินไปและควรลงผลิตภัณฑ์ปกป้องผมเสียก่อนเสมอ เพราะไม่งั้นอาจทำให้ประโยชน์ของการอบไอน้ำลดลง

นวดศีรษะคืออะไร?

การนวดศีรษะ (Head massage) คือการนวดคลึงบริเวณกระโหลกศีรษะและต้นคอ ด้วยนิ้วมือหรืออุปกรณ์ที่จำลองแรงกดแบบเดียวกับนิ้วมือ

ลักษณะการนวดเหมือนกับการนวดผ่อนคลายส่วนอื่นๆ เช่น หลัง หรือลำตัว แต่การนวดศีรษะจะเบามือกว่าและช้ากว่า อาจใช้น้ำมันหอมระเหยช่วยหรือไม่ใช้ก็ได้

ตัวอย่างน้ำมันหอมระเหยที่นิยมใช้ เช่น น้ำมันลาร์เวนเดอร์ (Lavender oil) น้ำมันอัลมอนด์ (Almond oil) โจโจบาร์ (Jojoba oil) และน้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)

นวดศีรษะมีประโยชน์อย่างไร?

ประโยชน์ที่อาจพบได้ในการนวด อาจมีดังนี้

  • บรรเทาความเครียด
  • บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
  • ช่วยให้ผ่อนคลาย
  • ช่วยกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้กระตุ้นให้เส้นผมเจริญเติบโต
  • ช่วยลดความดันโลหิต (สัมพันธ์กับความเครียด)

การนวดศีรษะมีประโยชน์หลากหลายประการขึ้นอยู่กับว่าใช้เทคนิคการนวดแบบใด เพราะแต่ละเทคนิคก็อาจให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน

นวดศีรษะมีขั้นตอนอย่างไร?

หากเลือกใช้บริการนวดศีรษะกับผู้ให้บริการที่ร้านทำผม อาจมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. หากใช้การนวดที่ผสมน้ำมัน ผู้ให้บริการจะชโลมน้ำมันเล็กน้อยที่นิ้วมือ
  2. ผู้ให้บริการควรจะแต้มน้ำมันนวดในพื้นที่เล็กๆ เพื่อทดสอบว่ามีอาการแพ้หรือไม่
  3. ผู้ให้บริการจะใช้นิ้วมือทั้ง 2 ข้างกดด้วยน้ำหนักเบาสลับกับปานกลางบริเวณหนังศีรษะ
  4. เมื่อนวดคลึงสักพัก จะค่อยๆ เคลื่อนมือเป็นวงกลมจนทั่วบริเวณ

อย่างไรก็ตาม การจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการนวดศีรษะ ควรทำร่วมกับการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะ ซิงค์ (Zinc) ธาตุเหล็ก (Iron) ไบโอติน (ไบโอติน) หลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ผมอ่อนแอได้

จากวิธีฟื้นบำรุงผมและหนังศีระษะทั้ง 3 วิธีที่กล่าวมานั้น อาจทำร่วมกันในการทำผมครั้งเดียวก็ได้ หรือทำแยกกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาผมที่แต่ละคนเผชิญ และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

มีคำถามเกี่ยวกับ ฟื้นฟูผม? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ