ปัญหาหลั่งช้าเป็นอีกหนึ่งปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายที่ส่งผลกระทบต่อเรื่องบนเตียงได้ เพราะการหลั่งช้าจะทำให้ผู้ชายไม่สามารถพาคู่รักไปถึงฝั่งฝันได้เสียที
ผุ้ชายบางคนอาจต้องใช้เวลาทำกิจกรรมบนเตียงนานเป็นชั่วโมง หรือไม่ว่าคู่ของตนจะพยายามทำด้วยวิธีใดๆ ตนเองก็ไม่ถึงจุดสุดยอดเสียที
สารบัญ
อาการหลั่งช้ามีสาเหตุมาจากอะไร
การหลั่งน้ำอสุจิช้ากว่าปกตินั้น มีสาเหตุหลักไม่ต่างจากอาการหลั่งเร็ว นั่นคือ ปัญหาทางด้านจิตใจและร่างกาย ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยดังต่อไปนี้
- มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นอุปสรรค์ทำให้ไม่สามารถเต็มที่กับการมีเพศสัมพันธ์ได้
- ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ซึ่งยาบางประเภทส่งผลให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- การสูบบุหรี่เป็นประจำ
- เหนื่อย
- นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ
- มีเรื่องไม่สบายใจทำให้เป็นกังวล
- ผู้ที่ชอบช่วยตัวเองมากกว่าและรู้สึกมีความสุขกับการช่วยตัวเองมากกว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น
- ร่างกายมีสภาวะผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อ ต่อมลูกหมาก เช่น ผู้ที่เคยผ่าตัดกระดูกสันหลัง เคยผ่าตัดต่อมลูกหมาก มีหลอดเลือดสมองแตก
ระยะเวลาการหลั่ง
ถึงแม้คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายจะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า “ถึงจุดสุดยอดที่ต่างกัน” แต่ก็สามารถช่วยกันหาช่วงเวลาที่เหมาะสมได้
หากพิจารณากันถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม จะสามารถอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ พอเป็นแนวทางได้ดังนี้
- 1-2 นาที ผู้ชายที่ถึงจุดสุดยอดก่อน 2 นาที อาการนี้จัดอยู่ในกลุ่ม “หลั่งเร็ว” และอาจทำให้คู่รักอารมณ์ค้าง หรือหงุดหงิดเพราะยังไม่ทันถึงจุดสุดยอดได้
- 3-7 นาที จัดอยู่ในช่วงเวลาเกณฑ์ปกติ คู่รักที่ถึงจุดสุดยอดในช่วงเวลานี้ มักจะจบกิจกรรมด้วยความสุขที่พอดี และลงตัว
- 8-13 นาที เป็นช่วงเวลามีเพศสัมพันธ์ที่คู่รักมักจะพึงพอใจมากที่สุด เพราะถือว่าไม่นานและไม่ได้เร็วจนเกินไป
- 14-30 นาที เริ่มเป็นช่วงเวลาที่อาจไม่สนุกแล้ว และฝ่ายหญิงอาจเริ่มเจ็บอวัยวะเพศได้ แต่คู่รักบางคู่ก็อาจยังพึงพอใจกับช่วงเวลานี้อยู่
- เกิน 30 นาที ถือว่านานเกินไป และหากลองใช้วิธีอื่นช่วยด้วย เช่น ใช้มือช่วยตัวเอง ทำออรัลเซ็กส์ แล้วก็ยังไม่หลั่งเสียที จะถือว่า คุณมีอาการหลั่งช้า ซึ่งน่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์บนเตียงแน่นอน ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ด่วนเพื่อหาทางแก้ที่ถูกวิธี
ความรุนแรงของภาวะการหลั่งช้า
- น้อย คือ สามารถหลั่งได้กับคู่นอนได้ในบางสถานการณ์
- ปานกลาง คือ หลั่งได้เฉพาะการช่วยตัวเอง
- รุนแรง คือ หลั่งได้เฉพาะเวลาอยู่คนเดียว
- รุนแรงมาก คือ ไม่สามารถหลั่งได้เลย
5 วิธีรักษา และป้องกันอาการหลั่งช้าผิดปกติ
อย่างที่ทราบกันแล้วว่า อาการหลั่งช้านั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นการรักษาจึงต้องแก้ไขให้ถูกต้องตามแต่ละสาเหตุนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม คุณควรพบแพทย์ร่วมด้วย เพื่อวิเคราะห์ และแก้ปัญหาการหลั่งช้าว่าเกิดจากอะไร และจะได้รักษาอย่างตรงจุด
โดยแพทย์จะสามารถให้คำแนะนำที่ปลอดภัยได้ เช่น
- การเปิดใจ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะชายที่มีคู่รัก หรือแต่งงานแล้ว แนะนำให้เปิดอกคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและช่วยกันหาทางออก ทั้งนี้ผู้เป็นภรรยาก็ควรเข้าใจภาวะนี้ของสามีด้วย
- พบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยปัญหาที่แท้จริงและหาวิธีแก้ที่ปลอดภัย เนื่องจากบางคนมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคเครียด โรคซึมเศร้า โรคที่เกี่ยวกับกระดูก และเส้นประสาท กลุ่มโรคที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องรับประทานยาเป็นประจำเพื่อรักษาอาการ บางคนจึงพบว่า ปัญหาการหลั่งช้านั้นเกิดมาจากโรคและการรับประทานยา กรณีเช่นนี้จึงต้องควรพบแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นทางออกสำหรับปัญหาสุขภาพได้เกือบทุกอย่าง คุณอาจลองปรึกษาแพทย์ว่า การออกกำลังกายประเภทใดสามารถแก้ไขปัญหาการหลั่งช้าได้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง แม้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่จะทำให้คุณมีความสุขในชั่วขณะ แต่จะทำให้สุขภาพแย่ในระยะยาว รวมทั้งการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วย ทางที่ดี คุณควรลด ละ เลิก สิ่งที่ทำให้ร่างกายผิดปกติ หรือสุขภาพเสื่อมลง บางทีปัญหาเรื่องบนเตียงของคุณอาจแก้ไขได้ด้วยการรักษาสุขภาพให้ดีขึ้นก็ได้
- อย่ามองข้ามขั้นตอนการเล้าโลม คู่รักบางคู่ไม่ได้มีการเล้าโลมในระหว่างมีเพศสัมพันธ์จึงทำให้ฝ่ายชายไม่ได้มีอารมณ์ร่วม และไม่ได้ถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเท่าที่ควรจนเกิดปัญหาหลั่งช้าได้ ดังนั้นทั้งผู้ชายและผู้หญิงจึงไม่ควรมองข้ามการเล้าโลมในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เพื่อความสุขและการถึงจุดสุดยอดที่ดียิ่งขึ้น
ปัญหาหลั่งช้า เป็นปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ที่พบได้ในคู่รักทุกคู่ หากคุณพบว่า คู่รัก หรือสามีของคุณมีอาการหลั่งช้า ให้ลองปรึกษาเพื่อหาทางออกร่วมกันก่อน หรือหากไม่รู้ว่าควรแก้ปัญหาอย่างไร คุณอาจปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและรักษาอาการหลั่งช้าอย่างถูกต้องต่อไป