การตอกฐานจมูกเป็นเทคนิคที่เข้ามาช่วยให้การศัลยกรรมจมูกได้ผลลัพธ์ที่ดีและพึงพอใจ เพราะทำให้ทรงจมูกที่ได้รับการเสริมไม่เพียงแค่โด่ง แต่จะมีรูปทรงสโลปสวยรับกับคิ้ว ใบหน้า แลดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
HDmall.co.th จึงได้รวบรวมข้อมูลการตอกฐานจมูกที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้ทราบว่า การตอกฐานจมูกทำอย่างไร และมีประโยชน์อะไร เพื่อให้เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ
สารบัญ
ตอกฐานจมูกคืออะไร?
การตอกฐานจมูก (Nose Osteotomy) คือ เทคนิคการบีบหรือทุบกระดูกแกนจมูก เพื่อทำให้กระดูกแยกออกจากฐานแล้วบีบให้ฐานแคบเข้ามา ซึ่งการบีบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความหนาของกระดูกและโครงสร้างจมูกของแต่ละคน โดยเทคนิคนี้จะช่วยแก้ปัญหาบริเวณฐานจมูก เช่น ฐานจมูกใหญ่ ฐานจมูกไม่เท่ากัน หรือจมูกฮัมพ์ใหญ่ (Hump Nose) เป็นต้น จมูกฮัมพ์ คือกระดูกส่วนที่นูน แข็ง ยกตัวสูงขึ้นบริเวณสันจมูก ซึ่งจะนูนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพันธุกรรม เช่น คนยุโรป หรือ คนเอเชีย
แพทย์จะใช้วิธีตอกฐานจมูก สำหรับผู้ที่มีฐานกระดูกใหญ่ กว้าง เบี้ยว เอียง โค้งคตไม่เรียบ หรือไม่เท่ากัน โดยจะตอกฐานกระดูกข้างสันจมูกทั้ง 2 ข้าง ให้แคบลง ทำให้สามารถจัดทรงฐานกระดูกให้เรียว เล็ก แต่สำหรับผู้มีจมูกฮัมพ์ขนาดเล็กและไม่นูนมาก แพทย์มักเลือกใช้วิธีการตะไบฐานออกแทน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการตอกฐานหรือตะไบฐานจมูกจะทำให้การตกแต่งรูปทรงและขนาดของกระดูกจมูกเล็กลง หากมองด้านหน้าตรง จมูกก็จะโด่ง และสโลป สมส่วน เรียวสวย รับกับรูปหน้า
ตอกฐานจมูกช่วยอะไร?
- ช่วยให้การศัลยกรรมเสริมจมูกสวยยิ่งขึ้น เนื่องจากการตอกฐานจมูกเป็นการเพิ่มขั้นตอนการออกแบบและกำหนดความกว้างของสันจมูกให้เท่ากันทั้งสองข้าง ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป ส่งผลให้มีความโค้งเว้ารับกับคิ้วและปลายจมูกได้ดี ขณะที่การเสริมจมูกที่ไม่ได้ตอกฐาน จะเป็นเพียงการเพิ่มความโด่งของสันจมูก ไม่ได้มีการปรับ ตกแต่งรูปจมูกแต่อย่างใด
- ช่วยลดการเบี้ยว เอียงและลอยของซิลิโคนได้ สำหรับผู้มีฐานจมูกสองข้างไม่เท่ากัน เนื่องจากหากเสริมจมูกด้วยการใส่ซิลิโคนเข้าไปตรงกลางระหว่างฐานกระดูกไม่เท่ากัน จะทำให้ซิลิโคนมีโอกาสเบี้ยว เอียงค่อนข้างสูง นอกจากนี้การตอกฐานยังช่วยลดและปรับขนาดกระดูกส่วนเกินที่อาจทำให้เกิดการเบี้ยว เอียงของซิลิโคนในอนาคตได้อีกด้วย
- ช่วยลดขนาดตรงสันจมูกฮัมพ์ใหญ่ หรือจมูกโก่งงุ้มได้ โดยการปรับสันจมูกให้เล็กลง และเรียบตรง ก่อนใส่ซิลิโคนเสริมให้แนบแน่นไปกับสันจมูก ส่งให้จมูกสโลปโค้งสวย ใบหน้าดูหวานขึ้น
- ช่วยปรับแต่ง และลดขนาดของแกนจมูกที่มีขนาดกว้างเกินหัวตาทั้งสองข้าง หรือกรณีกระดูกนูนออกมามากเกินไป ด้วยการตอกฐานบีบให้แกนหรือฐานจมูกแคบ แล้วปรับให้ฐานเรียว เล็กลง
- ช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างและรูปทรงจมูกได้หลายลักษณะ เช่น จมูกเบี้ยว เอียง แกนคด ทั้งที่เป็นแต่แรก หรือเกิดจากอุบัติเหตุ โดยการตอกฐานปรับโครงสร้างจมูกให้เรียบ ได้สัดส่วน และ รูปทรงตามต้องการก่อน แล้วจึงใส่ซิลิโคนเสริมจมูก
ตอกฐานจมูกเหมาะกับใคร?
การตอกฐานจมูก เป็นเทคนิคที่เหมาะกับผู้มีรูปทรงจมูกเดิม ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีจมูกฮัมพ์ใหญ่ หากเสริมจมูกโดยไม่แก้ไข จะทำให้ซิลิโคนเอียงหรือลอยได้ เพราะซิลิโคนไม่สามารถแนบไปกับฐานจมูกในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก
- ผู้ที่มีกระดูกฐานจมูกใหญ่ ทำให้เวลามองทรงจมูกหน้าตรง รู้สึกเหมือนไม่มีดั้ง ทั้งที่สันจมูกโด่ง นูนขึ้น ซึ่งเทคนิคตอกปรับฐานเป็นวิธีแก้ไขปัญหาฐานจมูกใหญ่ได้เพียงอย่างเดียว
- ผู้ที่มีฐานข้างจมูกไม่เท่ากัน หรือฐานจมูกเอียง หากเสริมซิลิโคนโดยไม่แก้ไข กระดูกข้างที่ใหญ่กว่า จะดันให้ซิลิโคนเอียงไปอีกข้างหนึ่งได้
- ผู้ที่มีฐานจมูกกว้าง ขอบของสันจมูกไม่คม ไม่ได้รูป ทำให้ดูไม่มีสันจมูก หรือจมูกสั้น ควรตอกปรับฐานให้ได้รูปทรงก่อนเสริมจมูก
- ผู้ที่มีฐานจมูกที่ใหญ่ บาน และกว้างเกินกว่าหัวตาทั้ง 2 ข้าง
- ผู้ที่มีปุ่มกระดูกกลางจมูกนูนมาก จนทำให้จมูกงองุ้ม และไม่สามารถเสริมซิลิโคนให้แนบชิดไปกับแกนจมูกได้
- ผู้ที่มีจมูกที่แกนเบี้ยว เอียง หรือคด ทั้งที่เป็นแต่กำเนิดและเกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งยากต่อการใส่ซิลิโคนเสริมจมูกให้ตรงสวย
ตอกฐานจมูกมีกี่แบบ?
การตอกฐานจมูกสามารถทำได้ 3 แบบ ดังนี้
1. ตอกฐานจมูกแบบเปิด (Open Nose Recon)
แพทย์จะผ่าเปิดแผลให้เห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด แล้วจึงสอดอุปกรณ์เข้าไปตัดแต่งกระดูกส่วนเกิน ด้วยการตอกฐานจมูกให้แคบลงและกรอฐานจมูกให้เรียบ เพื่อให้ได้จมูกที่เรียวลง ซึ่งวิธีแบบเปิดเหมาะสำหรับจมูกที่มีแกนคด เอียงชัดเจน ซึ่งต้องปรับแก้จมูกให้ตรงก่อนใส่ซิลิโคนเสริมจมูก หรือจมูกฮัมพ์ขนาดใหญ่และฐานกว้างมาก จนจมูกดูงองุ้ม
2. การตอกฐานจมูกแบบปิด (Close Nose Recon)
แพทย์จะผ่าเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณข้างสันจมูก ข้างใดข้างหนึ่ง เพียง 2 มม. แล้วสอดเครื่องมือขนาดเล็กเข้าไปตอกฐานจมูก แล้วบีบฐานจมูกให้แคบลงตามที่ต้องการ ซึ่งแกนจมูกจะสามารถบีบให้แคบได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรูปทรงและความหนาของกระดูกแต่ละคน ซึ่งวิธีการแบบปิดเหมาะสำหรับจมูกกว้าง หรือฐานจมูกใหญ่เลยหัวตาทั้งสองข้าง แต่ไม่ได้มีปัญหาแกนจมูกคด
3. การตอกฐานจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Nose Recon)
แพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลรูจมูก 2 ข้าง แล้วเข้าไปปรับโครงสร้างของจมูกในทุกๆ ส่วนได้ดี วิธีนี้เป็นที่นิยม เพราะใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าและซ่อนรอยแผลผ่าตัดได้ง่ายกว่าแบบเปิด
ทั้งนี้ก่อนการศัลยกรรมจมูก แพทย์จะวิเคราะห์เลือกใช้รูปแบบการผ่าตัดที่เหมาะสมตามลักษณะปัญหาจมูก รวมไปถึงการเลือกวิธีตอกฐาน ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่
- การตอกฐานจากด้านนอก บริเวณ 2 ข้างของสันจมูก เป็นการตอกฐานที่ทำกันส่วนมาก โดยใช้เครื่องมือปรับฐานจมูกที่กว้าง ไม่ได้รูป ให้แคบลงและมีขนาดเท่ากันมากขึ้นก่อนใส่ซิลิโคน ซึ่งจะมองเห็นแผลขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร บริเวณข้างสันจมูกทั้งสองข้าง และค่อยๆ จางหายไป
- การตอกฐานจากด้านในรูจมูก เป็นวิธีที่พิเศษมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีแผลด้านนอกและลดความบวมช้ำของใบหน้าได้ โดยแพทย์สอดเครื่องมือสอดเข้าไปบริเวณแผลเดียวกับที่เปิดไว้สำหรับการเสริมจมูก แต่ทำการตกแต่งฐานจมูกตามต้องการก่อนใส่ซิลิโคน
การเตรียมตัวก่อนตอกฐานจมูก
การตอกฐานจมูกจะมีการเตรียมตัวคล้ายกับศัลยกรรมทั่วไป ได้แก่
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้เทคนิคตอกฐานจมูก เพื่อปรับรูปทรงจมูกให้เหมาะกับรูปหน้า
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติ การแพ้ยา แพ้อาหาร และข้อมูลเกี่ยวกับยาที่ใช้ประจำ และโรคประจำตัว
- งดวิตามิน อาหารเสริม บุหรี่ แอลกอฮอล์ และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนทำศัลยกรรมจมูกประมาณ 1 เดือน
- งด ชา กาแฟ ก่อนทำประมาณ 1 วัน ก่อนวันทำ
- ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนวันทำ
ขั้นตอนการตอกฐานจมูก
การตอกฐานจมูกขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาก่อนการทำศัลยกรรมจมูก จึงมีขั้นตอนต่อเนื่องกัน ดังนี้
- แพทย์ตรวจร่างกาย และโครงสร้างภายนอก ภายในของจมูก แล้ววางแผนเลือกวิธีการผ่าตัด เลือกเทคนิคที่เหมาะสม รวมถึงการเลือกใช้ยาชาหรือ ใช้ยาสลบในการทำศัลยกรรม
- เปิดแผลตามวิธีการผ่าตัดที่วางแผนไว้ เช่น เปิดแผลบริเวณด้านในรูจมูก 2 ข้าง และช่องใต้เยื่อหุ้มกระดูกอ่อนบริเวณจมูกส่วนล่าง หรือจมูกส่วนบน ให้มีขนาดพอเหมาะ
- สอดเครื่องมือเพื่อตอกปรับฐานทีละข้าง ให้มีความสมดุลใกล้เคียงกันทั้งสองข้าง และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับรูปทรงกระดูก
- บีบฐานกระดูกให้แคบหรือยุบลงตามความเหมาะสมและโครงหน้า หากเป็นจมูกฮัมพ์ขนาดเล็กและไม่นูนมาก แพทย์จะใช้วิธีการตะไบแทนการตอกฐานจมูก
- ปรับ ตกแต่งฐานกระดูกให้เรียบ ให้สันจมูกมีความสโลป ไม่โก่งนูน ซึ่งหลังผ่าตัดอาจมีการใส่เฝือกจมูกร่วมด้วย เนื่องจากการทุบกระดูกทำให้กระดูกมีการเคลื่อนตัวได้
- ใส่ซิลิโคนเข้าไปในชั้นใต้เยื้อหุ้มกระดูก
- เย็บปิดแผล
- แพทย์แนะนำวิธีดูแลรักษาตัวเอง และนัดติดตามผลประมาณ 7 วัน
- กลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล
การดูแลตัวเองหลังตอกฐานจมูก
การดูแลตัวเองภายหลังตอกฐานจมูก จะเหมือนกับดูแลหลังการผ่าตัดเสริมจมูกทั่วไป ได้แก่
- ใช้ก้านสำสีชุบน้ำเกลือล้างแผล ซับทำความสะอาดภายในรูจมูกเบาๆ และเช็ดแผลรอบจมูกบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เลือดที่ไหลออกจากแผลกลายเป็นสะเก็ดเลือดรอบแผลซึ่งอาจเป็นเหตุให้ติดเชื้อได้ ในช่วง 3 วันแรก
- ประคบเย็นข้างสันจมูกทั้งสองข้าง แก้มสองข้าง หน้าผาก ดวงตา ครั้งละ 5-10 นาที ทุกชั่วโมง เพื่อบรรเทาการบวมช้ำ ใน 5 วันแรกหลังผ่าตัด
- ประคบน้ำอุ่นข้างจมูก เพื่อลดอาการปวดและรอยเขียวช้ำ หลัง 5 วันที่ประคบเย็นแล้ว
- ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำและความร้อน ในช่วงที่แผลยังไม่แห้งสนิท
- ทาขี้ผึ้งบางๆ เช้า เย็น เพื่อบรรเทาอาการคัน ต่อเนื่อง 7 วัน โดยห้ามแกะเกาแผล เพราะอาจทำให้แผลปริแยก เป็นแผลเป็นและติดเชื้อได้
- กรณีที่ใส่เฝือกหลังการผ่าตัด จะต้องใส่เฝือกดามจมูกไว้ อย่างน้อย 7 วัน
- สามารถเริ่มทานวิตามินบำรุงและยา ที่รับประทานประจำได้หลังทำ 7 วัน หรือตามที่แพทย์แนะนำ
- นอนหน้าตรง ศีรษะสูง และใช้หมอนล็อคคอให้ตรง ไม่นอนตะแคง ประมาณ 1 เดือน
- งดวิตามิน อาหารเสริม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ รับประทานอาหารหมักดอง อาหารเค็ม อาหารทะเล ซึ่งทำให้แผลหายช้า ประมาณ 1 เดือน
- งดออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนเคลื่อน ประมาณ 1 เดือน
- งดใส่แว่นตา ประมาณ 1 เดือน
- งดฉีกยิ้ม หัวเราะบ่อยๆ และงดรับประทานอาหารแข็งที่ต้องเคี้ยวแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลปริแยก จนกว่าจะหายเป็นปกติ
- รับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวม และยาแก้อักเสบ ตามคำสั่งแพทย์โดยเคร่งครัด
- กรณีเป็นหวัด น้ำมูกไหล หลังการผ่าตัด ต้องรีบแจ้งแพทย์ทราบทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้
ผลข้างเคียงของการตอกฐานจมูก
โดยทั่วไปการตอกฐานจมูกเป็นขั้นตอนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บเพราะมีการใช้ยาชาหรือดมยาสลบ แต่ภายหลังทำจะมีอาการปวดหรือบวมเล็กน้อย แล้วจะค่อยๆ หายไป อย่างไรก็ตาม การตอกฐานจมูกอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- มีเลือดออกในจมูก ซึ่งหลังทำจำเป็นต้องใส่เผือกจมูก ประมาณ 7 วัน
- มีอาการบวมช้ำมากกว่าการเสริมจมูกทั่วไป เนื่องจากกระดูกแกนจมูกเคลื่อนที่ ทำให้มีช่องว่างระหว่างสันจมูกกับกระดูกใบหน้า ซึ่งหลัง 6 เดือน กระดูกสองส่วนจะค่อยๆ ยึดเข้าด้วยกันตามเดิม
แผลตอกฐานจมูกกี่วันหาย?
การตอกฐานจมูก จะส่งผลให้เกิดอาการบวม โดยเฉพาะบริเวณแผลผ่าตัดจะบวมมากในวันที่ 2 หลังผ่าตัด และประมาณ 1–2 สัปดาห์ จะค่อยๆ ดีขึ้น
กรณีการตอกฐานจมูกแบบปิด และแบบกึ่งเปิด ที่เป็นแผลขนาดเล็ก จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือน รูปทรงจมูกจึงเข้ารูป สวยงาม ส่วนกรณีแบบเปิดจะมีอาการบวมช้ำและแผลกว้างกว่า จึงใช้เวลานานกว่า ประมาณ 6–12 เดือน
อย่างไรก็ตาม แพทย์แนะนำให้ใช้นิ้วกด บีบ ที่ฐานของจมูกร่วมด้วยในช่วงระยะ 3 เดือนแรกหลังจากตอกฐานจมูกเพราะกระดูกยังไม่ยุบเข้าที่ ซึ่งจะช่วยให้ทรงจมูกเข้าที่เร็วขึ้น
ตอกฐานจมูกต้องใส่ซิลิโคนไหม?
การตอกฐานจมูก เป็นขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาในการศัลยกรรมจมูก ที่ยังต้องมีการใส่ซิลิโคนภายหลังการตอกฐานจมูก เพื่อปรับ จัด แต่งฐานจมูก เพื่อกำหนดความกว้างของฐานจมูกให้ได้ขนาดที่ต้องการ ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ของการเสริมจมูก มีความโค้งเว้ารับกับคิ้วและรูปหน้าสวยมากขึ้น ตลอดจนช่วยลดโอกาสจมูกเบี้ยว เอียงและลอยของซิลิโคนจากปัญหาฐานจมูกไม่เท่ากัน 2 ข้างได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการตอกฐานไม่ได้หมายความว่าการศัลยกรรมเสริมจมูกจะออกมาไม่สวยงาม มีการเบี้ยว หรือเอียงเสมอไป เพียงแต่การตอกฐานจมูก จะช่วยในการออกแบบจมูกให้สวยงามตรงตามความต้องการ และให้ผลลัพธ์สวยงามเป็นธรรมชาติมากกว่า สร้างความพึงพอใจได้มากกว่า