วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีกี่ชนิด? ไขทุกข้อสงสัยของวัคซีน

แม้ว่า ไข้หวัดใหญ่ จะสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพียงครั้งเดียวก็จะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิตเหมือนกับวัคซีนชนิดอื่นๆ แต่จริงๆ แล้ว วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นต้องฉีดทุกปี เนื่องจากสายพันธุ์ของไวรัสจะมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอด

มีคำถามเกี่ยวกับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ทำความรู้จัก วัคซีนไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกชนิดจะทำขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3-4 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หน่วยงานด้านการเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ระดับโลกแนะนำว่า เป็นสายพันธุ์ที่จะมีการระบาดมากที่สุดในปีนั้นๆ

วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะผลิตจากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว ส่วนใหญ่จะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน แต่ในทารกและเด็กเล็กจะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นขา ส่วนการฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังสามารถทำได้ในผู้ที่มีอายุ 18-64 ปี

นอกจากนี้ยังมีวิธีการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยการพ่นทางจมูก โดยวัคซีนรูปแบบนี้จะผลิตจากไวรัสที่มีชีวิตแต่ถูกทำให้อ่อนแอลง วัคซีนชนิดนี้จึงต้องใช้ในคนที่แข็งแรงเท่านั้น โดยมีอายุระหว่าง 2-49 ปี และไม่ได้อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแนะนำว่า เด็กอายุ 2-8 ปี ควรใช้วิธีพ่นวัคซีนทางจมูก เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีกว่าแบบฉีด แต่ถ้าไม่มีก็สามารถใช้แบบฉีดตามปกติได้

ทั้งนี้แนะนำว่า ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปริมาณสูงกว่าปกติ เนื่องจากมีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (The New England Journal of Medicine)  ค.ศ. 2014 ว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปริมาณสูงสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุได้ดีกว่าโดยไม่เพิ่มผลข้างเคียง

อย่างไรก็ตาม วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ได้มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสได้ 100% ผู้ที่ได้วัคซีนยังมีโอกาสเป็นไข้หวัดใหญ่ได้เพียงแต่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน

ควรไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไม่?

ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง ตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ รวมถึงผู้ที่ทำงานกับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่

  • ครอบครัวที่มีเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน (เพราะเด็กไม่สามารถฉีดวัคซีนได้จึงเสี่ยงติดเชื้อ)
  • ผู้ที่มีโรคหัวใจ หรือโรคปอดเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคไต โรคเลือด หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ
  • หญิงตั้งครรภ์
  • ผู้ที่อาศัยในบ้านพักผู้ป่วย หรือบ้านพักคนชรา
  • บุคลากรทางการแพทย์
  • ผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่

ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่พบมากที่สุดคือ อาการปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีน บางคนอาจมีไข้ต่ำๆ และปวดเมื่อยเนื้อตัว แต่มีบางกรณีซึ่งเกิดได้น้อยมากคือ ผู้ได้รับวัคซีนจะมีอาการแพ้อย่างรุนแรง อาการเหล่านี้จะปรากฏภายใน 2-3 นาที ถึง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด

มีคำถามเกี่ยวกับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

นอกจากนี้บางรายอาจมีอาการหายใจไม่สะดวก เสียงแหบ หรือหายใจมีเสียงดัง ลมพิษ ซีดขาว อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว หรือเวียนศีรษะ หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่พ่นจมูกที่พบในผู้ใหญ่คือ

ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่พ่นจมูกที่พบในเด็ก คือ

  • ไข้
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • น้ำมูกไหล
  • อาเจียน
  • หายใจหอบมีเสียงวี๊ดๆ

ใครที่ไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

กลุ่มคนต่อไปนี้ได้รับคำแนะนำว่า ไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

  • ผู้ที่เคยมีอาการแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่รุนแรงมาก่อน
  • ผู้ที่เป็นโรคหรือกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร่
  • ผู้ที่ยังมีภาวะที่ทำให้มีไข้อยู่ (นอกจากไข้หวัดทั่วไป)

หลายปีก่อนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั่วไปจะมีส่วนผสมของโปรตีนจากไข่ปริมาณเล็กน้อย (และอาจยังมีอยู่ในปัจจุบัน) ดังนั้นผู้ที่แพ้ไข่ควรฉีดวัคซีนด้วยความระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบรีคอมบิแนนท์ (Recombinant influenza vaccine) ซึ่งใช้ชื่อการค้าว่า ฟลูบล๊อก (Flublok) เป็นวัคซีนที่ไม่มีส่วนผสมของโปรตีนไข่และได้รับอนุญาตให้ใช้ในผู้ที่มีอายุ 18-49 ปี

สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ไข่เล็กน้อย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคมีแนวทางการปฏิบัติแนะนำ ดังนี้

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบรีคอมบิแนนท์ หรืออาร์ไอวี (RIV)
  • ฉีดวัคซีนแบบธรรมดากับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับการแพ้โปรตีนไข่และสามารถดูแลได้ถ้ามีอาการแพ้
  • เฝ้าสังเกตอาการ 30 นาที หลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กับบุคลากรทางการแพทย์

คำถามที่พบบ่อย

คำถาม: หากเคยเป็นปอดติดเชื้อแบคทีเรีย จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 23 สายพันธุ์ ไหม และสามารถฉีดได้หรือไม่

คำตอบ: สำหรับข้อมูลส่วนนี้ขอแยกออกเป็น 2 ส่วน

  • ส่วนที่ 1 คือ เคยติดเชื้อปอดอักเสบมาแล้ว สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบได้หรือไม่ คำตอบคือ สามารถฉีดได้ เนื่องจากโรคปอดอักเสบ สามารถเกิดได้จากทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย วัคซีนที่มีป้องกันจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อกลุ่มนิวโมคอคคัส ซึ่งมีกว่า 90 สายพันธุ์ วัคซีนกลุ่มนี้จะมีแพร่หลายคือ แบบ 23 และ 13 สายพันธุ์ สามารถพิจารณาฉีดได้ และนิยมฉีดในกลุ่มที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้สูงอายุค่ะ
  • ส่วนที่ 2 คือ หากเคยติดเชื้อปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมาแล้ว สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ และแนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากไข้หวัดใหญ่เป็นเชื้อไวรัสและมีหลายสายพันธุ์ แต่ละปีจะมีการคาดการณ์การระบาดต่างๆกันไป ควรติดตามข่าวจากองค์การอนามัยโลกและฉีดทุกปี

แม้วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะป้องกันโรคได้ไม่ถึง 100% แต่ก็ช่วยชะลอความรุนแรงของโรคและประหยัดค่ารักษาพยาบาลได้ ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนปลอดภัยกว่า

มีคำถามเกี่ยวกับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ