เมื่อว่าที่คุณแม่รู้ว่า ตนเองกำลัง “ตั้งครรภ์” หลายคนอาจเกิดความรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ หรือกังวลกับสิ่งต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ในเบื้องต้นเราขอแนะนำให้คุณผู้หญิงรีบไปพบแพทย์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ และเข้ารับการฝากครรภ์ เพื่อที่แพทย์จะได้ดูแลร่างกายและจิตใจอย่างเหมาะสม
อาการทั่วไปที่พบได้ในระหว่างตั้งครรภ์
- แพ้ท้อง มักพบในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
- แน่นท้องและท้องอืด เกิดจากการย่อยอาหารไม่ดี คุณแม่ที่มีอาการควรออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเล่น รวมไปถึงดื่มน้ำและรับประทานอาหารจำพวกผักผลไม้ให้มาก
- ปวดศีรษะและวิงเวียน แก้ไขได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ควรอยู่ในที่แออัด
- ปวดหลังและเป็นตะคริว แก้ไขด้วยการพักผ่อน สามารถใช้ขี้ผึ้งร้อนทาถูและนวดเบาๆ เพื่อบรรเทาอาการได้
- ตกขาว ถ้ามีลักษณะใสๆ หรือเป็นมูก เป็นอาการปกติ แต่ถ้าเป็นตกขาวปนเลือด มีกลิ่น หรือมีอาการคัดร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
- ริดสีดวงทวาร โดยทั่วไปหลังจากคลอดบุตรแล้ว จะหายดีภายใน 4-5 สัปดาห์
- เส้นเลือดขอด เกิดจากการไหลเวียนของเลือดช้า ควรหลีกเลี่ยงการยืนหรือห้อยเท้านานๆ เวลานอนให้ยกเท้าสูง แต่ถ้ามีอาการปวดมากให้ไปพบแพทย์
- ข้อเท้าบวมเล็กน้อย มักพบในระยะใกล้คลอด บรรเทาอาการได้ด้วยการนอนพักและยกเท้าให้สูง แต่ถ้ามีอาการบวมมากให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- นอนไม่หลับ โดยเฉพาะในระยะใกล้คลอด เนื่องจากความอึดอัดจากการที่มดลูกโตมาก หายใจไม่สะดวก แก้ได้โดยการนอนหมุนศีรษะให้สูง
- การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย เกิดจากความเปลี่ยนของฮอร์โมนและระบบต่างๆ ในร่างกาย ควรทำใจให้สบาย โดยคนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันดูแลด้วย
อาการผิดปกติที่ต้องไปพบแพทย์ทันที
- แพ้ท้องมากกว่าปกติ
- มีไข้สูง
- หลังเท้าบวม ปวดหัว ตามัว ตาพร่า ซีด หรือมีอาการชัก
- ปวดท้อง หรือแน่นท้องมาก
- มีเลือดออกทางช่องคลอด ไม่ว่าจะเจ็บท้อง หรือไม่ก็ตาม
- ถุงน้ำคร่ำแตก มีน้ำเดินมาก แม้ว่าจะไม่เจ็บท้องก็ตาม
- ปัสสาวะติดขัด หรือขัดเบา
- ลูกในท้องดิ้นน้อยลง
- มีอาการปวดท้องคลอด โดยจะมีอาการปวดท้องเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ ครั้งแรกจะนานๆ ครั้งต่อมาจะปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ
การฝากครรภ์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่ได้รับการดูแลสุขภาพโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ สามารถดูแลตนเองและทารกในครรภ์ตามคำแนะนำได้อย่างถูกวิธี ทำให้การกระบวนการตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น