ฉีดฟิลเลอร์คาง ปรับแต่งรูปคางและโครงสร้างใบหน้าให้ดูยาวขึ้น

คางที่ดูสั้นหรือคางรูปตัด สามารถส่งผลทำให้โครงสร้างใบหน้าโดยรวมดูไม่สวยงามอย่างที่คุณต้องการได้ โดยอาจทำให้หน้าดูใหญ่ กรอบหน้าดูชัด หน้าดูไม่เรียวยาว วิธีนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็มมิติให้กับคาง หรือที่เรียกว่า “การฉีดฟิลเลอร์คาง”

ฉีดฟิลเลอร์คางคืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มมิติของผิวที่ชื่อว่า “สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)” หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “สารฟิลเลอร์” ลงไปใต้ผิวบริเวณคาง เพื่อเปลี่ยนแปลงขนาดและมิติของผิวบริเวณดังกล่าวให้ดูมีเนื้อหนา และมีรูปร่างเข้ากับโครงสร้างใบหน้าโดยรวมมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยอะไรได้บ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์คางมีประโยชน์ด้านการเปลี่ยนแปลงขนาดและมิติของคาง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความงามได้ดังนี้

  • ปรับเนื้อคางให้เสมอกันทั้งหมด แก้ปัญหาคางบุ๋ม
  • ทำให้โครงสร้างใบหน้าดูสมส่วนเท่ากันทั้ง 2 ด้านมากขึ้น
  • ทำให้กรอบหน้าดูอ่อนหวาน และเข้ารูปต่อกันมากขึ้น
  • ทำให้คางดูยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้นจนใบหน้าดูเล็ก หรือดูสั้น
  • ช่วยอำพรางมิติของรูปกรามที่กว้างหรือปัญหากรามใหญ่

ฉีดฟิลเลอร์คางเห็นผลเลยไหม?

จากคุณสมบัติของสารไฮยาลูรอนิค แอซิด หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้ว ผู้เข้ารับบริการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปคางทันทีหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ เมื่อผ่านไป 2-4 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร?

ประโยชน์และแนวทางการฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับกลุ่มผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปคางและเงื่อนไขในการรับบริการดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่อยากเสริมรูปคางให้ดูมีมิติสวยงาม แต่ไม่อยากพึ่งพาวิธีการผ่าตัดเสริมคาง หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
  • ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม
  • ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น
  • ผู้ที่อยากให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวยาวขึ้น หรือเป็นวีเชป
  • ผู้ที่มีปัญหารูปกรามกว้าง กรามใหญ่ สามารถปรับมิติของคางเพื่ออำพรางขนาดของใบหน้าในส่วนนี้ได้

ฉีดฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับใคร?

การฉีดฟิลเลอร์คางยังมีข้อจำกัดที่อาจไม่ตอบโจทย์การเสริมความงามในบางประการได้ เช่น

  • ผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ตลอดไป เนื่องจากสารไฮยาลูรอนิค แอซิด เมื่อฉีดไประยะหนึ่งแล้วก็จะค่อยๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ รูปคางที่เปลี่ยนไปจึงจะอยู่ได้เพียงประมาณ 8-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแบรนด์ฟิลเลอร์ที่แพทย์ใช้ฉีด จากนั้นหากผู้เข้ารับบริการยังอยากให้รูปคางดูยาวอยู่ ก็จำเป็นต้องกลับมาฉีดฟิลเลอร์คางซ้ำ
  • ผู้ที่ต้องการให้คางดูยาวขึ้นมากๆ เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางสามารถทำให้คางดูเปลี่ยนแปลงไปได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์จากวิธีผ่าตัดเสริมคาง ก็จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปคางที่ชัดเจนได้มากนัก หากผู้เข้ารับบริการต้องการเปลี่ยนแปลงรูปคางให้ดูยาวขึ้นเกินกว่าประสิทธิภาพที่ฟิลเลอร์จะให้ได้ แพทย์อาจแนะนำให้ไปรับบริการผ่าตัดเสริมคางแทน
  • ผู้ที่มีปัญหาเนื้อคางตื้นเกินไป ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญจากแพทย์ในการฉีด มิฉะนั้นการกระจายตัวของสารฟิลเลอร์อาจไปทำให้เนื้อคางดูไม่สมส่วนได้
  • ผู้ที่กลัวเข็มฉีดยา เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นการทำหัตถการโดยใช้เข็มฉีดยา หากผู้เข้ารับบริการกลัวเข็มจริงๆ ก็ควรพิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับแนวทางการเสริมมิติของคางที่เหมาะกับตนเองอีกครั้ง

ฉีดฟิลเลอร์คางเจ็บไหม?

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการทำหัตถการโดยใช้เข็มฉีดยา แม้จะมีการทายาชาและประคบเย็นให้ก่อนล่วงหน้าในแทบทุกสถานพยาบาล แต่ก็อาจสร้างความรู้สึกระบมเจ็บผิวระหว่างรับบริการได้บ้าง ซึ่งโดยส่วนมากจะอยู่ในระดับที่อดทนได้

ฉีดฟิลเลอร์คางประมาณกี่ซีซี?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์คางจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1 ซีซีขึ้นไป ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินถึงปริมาณของสารฟิลเลอร์ที่จะฉีดให้ผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านอีกครั้ง

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและเพื่อให้สารไฮยาลูรอนิค แอซิดทำงานได้อย่างเต็มที่ ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมตัวก่อนเดินทางมาฉีดฟิลเลอร์คางที่สถานพยาบาล ดังต่อไปนี้

  • แจ้งประวัติด้านสุขภาพกับแพทย์ ประวัติโรคประจำตัว ยาประจำตัวที่กินอยู่ รวมถึงวิตามินเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพ อาหารเสริมทุกชนิด เนื่องจากอาจมีตัวยาบางประเภทที่ต้องงดล่วงหน้าก่อนรับบริการ เช่น ยากลุ่มที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) ยากลุ่มไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) วิตามินอี น้ำมันปลา
  • งดเสริมความงามหรือกิจกรรมที่อาจส่งผลทำให้เกิดแผลที่ผิว โดยเฉพาะผิวคาง เช่น การเลเซอร์ผิว การแวกซ์ ถอน หรือโกนขนใบหน้าและหนวด การสครับผิว การขัดหิว ทำสปาผิว ประมาณ 3-7 วันก่อนรับบริการ
  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
  • งดกินอาหารหมักดอง อาหารรสเค็มประมาณ 2-3 วันก่อนรับบริการ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คางมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน ใช้เวลาในการทำไม่นาน รายละเอียดหลักๆ มีดังนี้

  1. เริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวคางให้สะอาดก่อน
  2. จากนั้นทางสถานพยาบาลจะทายาชาทิ้งไว้ที่ผิวคางประมาณ 30-45 นาที หรือหากผู้เข้ารับบริการไม่ได้ต้องการรับยาชาแบบทา หรืออยากฉีดฟิลเลอร์เลย ทางแพทย์ก็อาจพิจารณาประคบเย็นเพื่อให้ผิวชาชั่วคราวเท่านั้น
  3. จากนั้นจะเริ่มการฉีดฟิลเลอร์ลงไปที่เนื้อคางทีละจุดตามจำนวนซีซีที่กำหนด

การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการยังต้องมีการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์คางเกิดผลลัพธ์อย่างที่ต้องการมากที่สุด และลดผลข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เช่น

  • ในช่วง 1-3 วันแรกอาจมีอาการผิวบวมได้บ้าง ให้นอนหมอนสูงประมาณ 2-3 วัน เพื่อลดอาการบวม
  • งดการกด นวด หรือเกาผิวบริเวณคาง
  • งดนั่งเท้าคาง นอนคว่ำ
  • งดนอนตะแคงประมาณ 2-3 วันแรก
  • งดการทาครีมหรือแต่งหน้าใน 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์
  • งดทำกิจกรรมที่ทำให้คางต้องรับน้ำหนักหรือถูกรัดผิว เช่น การใส่หมวกกันน็อค
  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดกินอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ เช่น ปิ้งย่าง ต้ม หรือชาบู ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังรับบริการ
  • ดื่มน้ำให้มากๆ
  • ควรงดการทำหัตถการที่ต้องมีการกดผิวบริเวณคางออกไปก่อน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ เพราะอาจส่งผลต่อรูปคางที่เปลี่ยนแปลงไปจากการฉีดฟิลเลอร์ได้

ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์คาง

ความเสี่ยงที่ผู้เข้ารับบริการทุกท่านจะต้องระมัดระวังเป็นอันดับหนึ่ง ก็คือ “สารฟิลเลอร์ปลอม” ซึ่งยังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมดในสถานพยาบาลบางแห่ง

ทางที่ดีหากต้องการฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าที่ส่วนใดของใบหน้าก็ตาม คุณก็ควรรับบริการในสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียง ได้มาตรฐาน หรือได้รับการยอมรับจากผู้เข้ารับบริการเป็นวงกว้างจะปลอดภัยที่สุด

ความเสี่ยงอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ “รูปคางที่อาจดูไม่สวยงามหรือสมส่วน”

เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะพึ่งพาศาสตร์ความชำนาญด้านการแพทย์อย่างเดียวไม่ได้ แต่แพทย์ผู้ฉีดจะต้องเข้าใจในการปั้นโครงสร้างของเนื้อคางเหมือนกับการปั้นรูปปั้นศิลปะร่วมด้วย มิฉะนั้นรูปคางของผู้เข้ารับบริการก็อาจดูเบี้ยว ไม่สมส่วน หรือดูไม่เข้ากับรูปหน้าได้

ก่อนรับบริการ คุณควรศึกษาหรืออ่านรีวิวผู้เข้ารับริการในสถานพยาบาลนั้นๆ เสียก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า สถานพยาบาลแห่งนั้นมีความชำนาญทั้งในการฉีดฟิลเลอร์และปั้นรูปคางควบคู่กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฉีดฟิลเลอร์คางยังอาจสร้างผลข้างเคียงหลังฉีดที่ไม่คาดคิดได้เช่นกัน หากคุณเผชิญกับอาการเหล่านี้ ก็ให้รีบกลับมาพบแพทย์โดยด่วน

  • คันระคายเคืองผิว
  • ผิวเป็นผื่นแดง
  • ผิวบริเวณที่ฉีดกลายเป็นก้อนแข็ง
  • พบบาดแผลซึ่งจากการใช้เข็มฉีด
  • คางเบี้ยว
  • การมองเห็นแย่ลง

ใจความสำคัญที่จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์คางเห็นประสิทธิภาพผลชัดเจน คือ ความชำนาญของแพทย์ในการปั้นแต่งโครงสร้างใบหน้าอย่างเหมาะสมและเข้ารูปที่สุด มิใช่เชี่ยวชาญในส่วนของการกะปริมาณสารฟิลเลอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ที่เบามือเพียงอย่างเดียว

Scroll to Top