โรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ (Spinal Stenosis) เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมตัวของโครงสร้างรอบกระดูกสันหลัง ได้แก่ เส้นเอ็น หมอนรองกระดูก และข้อต่อกระดูกสันหลัง จนไปกดเบียดโพรงประสาทสันหลังให้ตีบแคบลง
โครงสร้างกระดูกสันหลังของคนส่วนใหญ่ มักเริ่มเสื่อมตัวลง จากอายุที่มากขึ้น หรือการมีโครงสร้างกระดูกสันหลังที่ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด นอกจากนี้ยังมักเกิดขึ้นจากปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม เช่น การยกของหนักเป็นประจำ การนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน
หากเราเป็นโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบ จะต้องรักษาแบบผ่าตัดเท่านั้นหรือไม่ มีวิธีอื่นที่ช่วยบรรเทาให้โรคดีขึ้นได้หรือเปล่า แล้วระดับอาการแบบเราเหมาะสมต่อการรักษาด้วยวิธีใด เช็กข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเปรียบเทียบวิธีรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบได้ในบทความนี้
วิธีรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบสามารถแบ่งออกได้ 3 วิธีหลักๆ ได้แก่
สารบัญ
- 1. การกินยา
- 2. การฉีดยาสเตียรอยด์
- ข้อดีของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- ข้อจำกัดของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- ใครเหมาะกับการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- ผลข้างเคียงการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- ราคาการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- 3. การผ่าตัด
1. การกินยา
วิธีกินยา นิยมใช้เป็นวิธีรักษาเริ่มต้น เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดจากโรคในระดับที่ยังไม่รุนแรง โดยแพทย์จะนิยมจ่ายยาในกลุ่มยาแก้อักเสบหรือยาแก้ปวดให้ หรืออาจมีการจ่ายยาคลายกล้ามเนื้อเพิ่มเติม หากผู้ป่วยมีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง หรือเป็นตะคริว
นอกจากการกินยาแล้ว แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยทำกายภาพบำบัดเพิ่มเติมด้วย เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ รวมถึงกระดูกสันหลัง ทำให้เห็นผลลัพธ์ในการรักษาที่ชัดเจนขึ้น
ข้อดีของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการกินยา
- มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
- ผู้ป่วยไม่เจ็บตัว ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- หากรู้หลักการทำกายภาพบำบัดแล้วก็สามารถทำได้เองที่บ้าน
ข้อจำกัดของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการกินยา
- เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงเท่านั้น
- ต้องทำร่วมกับการทำกายภาพบำบัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดี (ถ้าทำกายภาพบำบัดไม่ต่อเนื่อง อาจดีขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น)
ใครเหมาะกับการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการกินยา
การรักษาด้วยวิธีกินยาเหมาะกับผู้ป่วยโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบในระยะเริ่มต้น อาการยังไม่รุนแรง
ผลข้างเคียงการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการกินยา
ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
- ง่วงซึม
- คลื่นไส้อาเจียน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- รู้สึกแน่นจมูก
- ท้องผูก
- เป็นกรดไหลย้อน
- เป็นโรคไต หากกินยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะยาคลายกล้ามเนื้อ
ค่ารักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการกินยา
ค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยวิธีกินยาจะขึ้นอยู่กับจำนวนของประเภทและปริมาณยาที่ผู้ป่วยต้องกิน รวมถึงระยะเวลาในการทำกายภาพบำบัดกับผู้ชำนาญการ
2. การฉีดยาสเตียรอยด์
การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงกระดูกสันหลัง (Epidural Steroid Injections) เป็นการฉีดยาสเตียรอยด์ผสมยาชาซึ่งออกฤทธิ์ลดการอักเสบเข้าไปในที่โพรงประสาทสันหลัง ช่วยลดอาการปวดได้ดี รวมถึงลดการบวมที่เส้นประสาทภายในโพรงสันหลัง เป็นอีกแนวทางรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่ได้รับความนิยม เช่น
- โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ
- โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน
- โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม
- ภาวะอักเสบของเส้นประสาท
ข้อดีของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- เป็นวิธีรักษาที่ง่าย ไม่มีแผลผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีความแม่นยำ เนื่องจากแพทย์จะใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเอกซเรย์ฟลูออโรสโคป ในการหาตำแหน่งสำหรับฉีดยาก่อนเริ่มทำหัตถการ
- ใช้เวลาทำหัตถการไม่นาน ประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- สามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันทีหลังฉีดยา
- ผลลัพธ์ในการรักษาค่อนข้างนาน โดยฉีดยา 1 ครั้งผู้ป่วยจะอาการดีขึ้นนานถึง 3-6 เดือนขึ้นไป
ข้อจำกัดของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง ในการฉีดยาให้ถูกตำแหน่งและแม่นยำ
- หากฉีดบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะกระดูกสันหลัง หรือกล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงอ่อนแรง
- มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์หลังฉีดได้ ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหลังฉีดยาในระยะแรก แต่มักจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราว ไม่รุนแรงมาก และอาการจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
ใครเหมาะกับการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- ผู้ป่วยที่เคยรักษาด้วยวิธีกินยาและทำกายภาพบำบัดมาก่อน แต่อาการจากโรคยังไม่ดีขึ้น
- ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหรืออักเสบในระดับรุนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ เช่น เดินและยืนลำบาก ต้องหยุดพักบ่อย มีอาการเจ็บหลังรุนแรงระหว่างเดิน
- ผู้ป่วยที่มีเงื่อนไขสุขภาพทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีผ่าตัดได้
ผลข้างเคียงการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
- อาการชาหรือรู้สึกหนักที่ขาในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกหลังฉีดยา
- อาการบวม ช้ำ หรือปวดบริเวณที่ฉีดยาในช่วง 2-3 วันแรก สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการประคบเย็น
- ภาวะเลือดออกหลังฉีดยา
- ภาวะติดเชื้อในตำแหน่งที่ฉีดยา แต่มีโอกาสพบได้ค่อนข้างน้อย
- อาการแพ้ยาสเตียรอยด์
- เป็นสิว ประจำเดือนมาผิดปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หน้าบวม ตัวบวม ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้จากการฉีดยาสเตียรอยด์
- ความดันลูกตาเพิ่มสูงขึ้น
ราคาการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
ค่าใช้จ่ายในการฉีดยาสเตียรอยด์รักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบจะอยู่ที่ประมาณ 21,000-25,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
3. การผ่าตัด
การผ่าตัดรักษาโพรงประสาทสันหลังตีบแคบในปัจจุบัน นิยมใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง โดยแพทย์จะผ่าเปิดแผลเป็นรูขนาดเล็กไม่เกิน 1 เซนติเมตร ประมาณ 3-4 รู และใช้เครื่องมือผ่าตัดพร้อมกล้องผ่าตัดที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 8 มิลลิเมตร เข้าไปตัดนำกระดูกสันหลังรวมถึงเส้นเอ็นส่วนที่กดเบียดโพรงประสาทไขสันหลังออก ช่วยขยายพื้นที่ภายในโพรงประสาทสันหลังให้กลับมามีขนาดปกติ และไม่มีการกดทับของเส้นประสาทอีก
ข้อดีของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง
- เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ มีโอกาสหายสูง
- สร้างความเสียหายแก่กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบได้น้อยกว่า
- ลดโอกาสเสียเลือดระหว่างการผ่าตัดได้มากกว่า
- แผลมีขนาดเล็กมาก โดยส่วนมากไม่เกิน 1 เซนติเมตร จึงช่วยให้ผู้ป่วยเจ็บแผลน้อยกว่า และฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วกว่า
- โอกาสติดเชื้อ หรือเกิดผลข้างเคียงจากการผ่าตัดมีน้อยกว่า
ข้อจำกัดของการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการผ่าตัด
- อาจไม่เหมาะต่อผู้ป่วยที่มีเงื่อนไขสุขภาพหรือโรคประจำตัวที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ในกรณีนี้แพทย์อาจแนะนำวิธีรักษาแบบประคับประคองอาการแทน เช่น การกินยา การฉีดยา
- หากผู้ป่วยมีโพรงประสาทสันหลังตีบแคบในตำแหน่งอื่นหลังผ่าตัด ก็อาจต้องกลับมาผ่าตัดซ้ำ
- หลังผ่าตัดผู้ป่วยยังต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์และผู้ชำนาญการ เพื่อให้สามารถกลับมาเดินได้อย่างมั่นคงและยาวนาน
ใครเหมาะต่อการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการผ่าตัด
ผู้ป่วยโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบที่มีระดับอาการรุนแรง เช่น ไม่สามารถยืนหรือเดินได้อย่างสะดวกอีก หรือต้องนั่งอยู่กับที่เท่านั้น มีปัญหาด้านระบบประสาทจนควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ แพทย์มักจะแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัด
นอกจากนี้การผ่าตัดยังนิยมใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่เคยรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัดมาก่อน แต่อาการของโรคยังไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง แพทย์ก็จะแนะนำให้เปลี่ยนวิธีรักษามาใช้การผ่าตัดเช่นกัน
ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการผ่าตัด
โดยทั่วไปการผ่าตัดโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยเทคนิคส่องกล้องมักจะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ต่ำ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะเกิดภาวะแทรกซ้อนบางประการได้ เช่น
- เส้นประสาทได้รับความเสียหายจากการผ่าตัด ทำให้เกิดอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือรุนแรงถึงขั้นเป็นอัมพาต
- โพรงประสาทสันหลังมีการตีบแคบซ้ำในภายหลัง
- ภาวะติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ขา
- น้ำรั่วจากไขสันหลัง
ราคาการรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการผ่าตัด
การรักษาโรคโพรงประสาทสันหลังตีบแคบด้วยการผ่าตัดเทคนิคส่องกล้องมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 110,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาจากแพทย์ และเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล
แพทย์จะเป็นผู้เลือกแนวทางการรักษาให้ผู้ป่วยเป็นรายบุคคล สิ่งสำคัญที่เราทุกคนต้องคำนึงถึงคือ เมื่อไรที่มีอาการซึ่งบ่งชี้ถึงความผิดปกติของระบบประสาท และอาจเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง ให้รีบเดินทางมาปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
เช็กอาการปวดหลัง อยากแน่ใจว่ากระดูกสันหลังยังแข็งแรง ไม่มีการกดทับ ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย