อาการปัสสาวะเล็ด เป็นอาการผิดปกติที่ไม่ได้เพียงส่งผลให้ควบคุมการขับถ่ายได้ยากเท่านั้น แต่มักส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง การทำงาน หรือแม้กระทั่งต่อชีวิตคู่
แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าเข้าข่าย “อาการปัสสาวะเล็ด” ต้องสังเกตตัวเองตอนไหนบ้าง จะมีอาการร่วมอื่นๆ อะไรอีกบ้าง ลองมาเช็กสัญญาณความเสี่ยงได้ที่บทความนี้
สารบัญ
1. มีปัสสาวะเล็ดในระหว่างทำกิจกรรมบางอย่าง
สัญญาณแรกของอาการปัสสาวะเล็ดจะตรงตัวกับชื่อของอาการ นั่นคือ ผู้ป่วยจะสังเกตหรือรู้สึกได้ถึงอาการปัสสาวะที่เล็ดออกมาในระหว่างที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกต้องการขับถ่ายปัสสาวะ โดยกิจกรรมที่มักทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด จะเป็นกลุ่มกิจกรรมที่มักทำให้เกิดแรงดันในช่องท้อง เช่น
- การลุกนั่ง
- การกระโดด
- การออกกำลังกาย
- การไอหรือจาม
- การหัวเราะ
- การมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะช่วงถึงจุดสุดยอด
อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะเล็ด โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะก็สามารถรู้สึกถึงปัสสาวะที่เล็ดหรือรั่วซึมได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในระหว่างทำกิจกรรมที่เกิดแรงดันในช่องท้องด้วย
ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่ยังไม่ได้ต้องการเข้าห้องน้ำ และรู้สึกว่ามีปัสสาวะเล็ดหรือรั่วซึมโดยไม่สามารถควบคุมได้ และไม่ว่าจะอยู่ในกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ถือเป็นอาการที่เข้าข่ายเกิดอาการปัสสาวะเล็ดแล้ว
2. กะเวลาไปถึงห้องน้ำได้ยากขึ้น
ผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะเล็ด เมื่อเกิดอยากปัสสาวะ ผู้ป่วยจะรู้สึกอยากปัสสาวะอย่างรุนแรงและอย่างฉับพลันทันที ทำให้หลายรายมีอาการปัสสาวะเล็ดหรือถึงขั้นปัสสาวะราดก่อนจะเดินทางไปถึงห้องน้ำ
3. ความถี่และปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนไป
ผู้ป่วยอาการปัสสาวะเล็ดมีโอกาสจะอยากปัสสาวะบ่อยขึ้น ทำให้ความถี่ในการเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกัน ปริมาณปัสสาวะที่ปล่อยออกมาก็อาจมีเพียงเล็กน้อย คล้ายกับปัสสาวะไม่หมด และต้องกลับมาปัสสาวะบ่อยๆ จนรบกวนชีวิตประจำวัน
4. ปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน
ผู้ป่วยอาการปัสสาวะเล็ดจะตื่นมาปัสสาวะบ่อยขึ้นในเวลากลางคืน หรือที่เรียกว่า “ภาวะปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน (Nocturia)” ซึ่งมีอาการบ่งชี้เป็นการลุกมาปัสสาวะระหว่างนอนหลับมากกว่า 1 ครั้งขึ้นไป นอกจากนี้ผู้ป่วยอาการปัสสาวะเล็ดที่อยู่ในระดับรุนแรงยังอาจพบอาการปัสสาวะราดรดที่นอนร่วมด้วยได้
ถึงแม้อาการปัสสาวะเล็ดจะไม่ใช่อาการอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของอาการผิดปกติแฝงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินปัสสาวะได้ เช่น การคลายตัวผิดปกติของท่อปัสสาวะ ท่อปัสสาวะอักเสบ ภาวะปัสสาวะค้าง ภาวะกล้ามเนื้อพยุงอุ้งเชิงกรานหย่อน โรคต่อมลูกหมากโต
ดังนั้นหากพบสัญญาณอาการเหล่านี้แม้เพียงอาการเดียว ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการปัสสาวะเล็ดทันที
จู่ๆ มีปัสสาวะเล็ด ควบคุมการฉี่ได้ยากขึ้น ไม่รู้จะปรึกษาใครดี ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคทางระบบทางเดินปัสสาวะ จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย