วิธีการผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชายนั้นมีหลายวิธี โดยแต่ละวิธีมีกลไกและวัตถุประสงค์เฉพาะตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความยาวที่เห็นได้จริง หรือทำให้ดูยาวขึ้นได้อย่างชัดเจน
ผู้ที่จะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศนั้นมักมีข้อสงสัย เช่น วิธีการผ่าตัดเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร และความเสี่ยงหรือความเจ็บปวดจะมีมากน้อยแค่ไหน บทความนี้จะช่วยตอบทุกข้อสงสัย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
สารบัญ
ผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชาย คืออะไร?
การผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชาย คือการทำศัลยกรรมเพื่อเพิ่มความยาวขององคชาตในช่วงที่อวัยวะเพศหย่อนตัว (Flaccid State) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้ชายที่รู้สึกว่าอวัยวะเพศมีขนาดสั้นกว่าปกติ หรือได้รับผลกระทบจากโรคบางชนิด
เทคนิคการผ่าตัดมีหลายวิธี โดยเน้นไปที่กลไกหลัก 3 ประการ ได้แก่
- การปลดปล่อยโครงสร้างภายในโดยตัดหรือปลดเส้นเอ็นที่ยึดอวัยวะเพศกับกระดูกเชิงกราน เพื่อให้อวัยวะเพศสามารถยื่นออกมาได้มากขึ้น
- การกำจัดสิ่งที่บดบังภายนอก เช่น การดูดไขมันส่วนเกินบริเวณหัวหน่าว หรือการแก้ไขผิวหนังถุงอัณฑะที่รั้งส่วนล่างของอวัยวะเพศ เพื่อให้ส่วนที่เคยถูกซ่อนอยู่ปรากฏชัดขึ้น
- การปรับโครงสร้างอื่นๆ เพื่อเพิ่มความยาวที่เห็นได้จริง
โดยทั่วไป ความยาวของอวัยวะเพศในสภาพหย่อนตัวมีความแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล และการผ่าตัดสามารถช่วยเพิ่มความยาวเฉลี่ยได้ประมาณ 1-3 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ควรเข้าใจว่าการผ่าตัดส่วนใหญ่จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนในช่วงหย่อนตัว ส่วนความยาวในสภาพแข็งตัว (Erect Length) มักจะเพิ่มขึ้นได้น้อยหรือแทบไม่เพิ่มเลย
ใครบ้างที่เหมาะกับการผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศ?
- ผู้ที่รู้สึกไม่มั่นใจในความยาวของอวัยวะเพศ โดยเฉพาะในช่วงที่อวัยวะเพศหย่อนตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ส่วนตัว
- ผู้ที่มีภาวะฝังใน (Buried Penis) คือภาวะที่อวัยวะเพศถูกปกคลุมด้วยไขมันหน้าท้องหรือผิวหนัง จนดูสั้นกว่าความเป็นจริง การผ่าตัดช่วยปลดปล่อยให้อวัยวะเพศปรากฏออกมาได้มากขึ้น ทำให้เห็นความยาวที่แท้จริงชัดเจนขึ้น
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขหลังการบาดเจ็บหรือผ่าตัด เช่น ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ หรือผ่านการผ่าตัดที่ส่งผลกระทบต่อรูปร่างและความยาว
วิธีการผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชาย
1. การผ่าตัดปลดเส้นเอ็น (Suspensory Ligament Release)
การผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชายที่นิยมและได้รับความสนใจมาก คือการผ่าตัดปลดเส้นเอ็นยึดอวัยวะเพศ หรือที่เรียกว่า Suspensory Ligament Release ซึ่งเส้นเอ็นนี้จะยึดอวัยวะเพศชายไว้กับกระดูกหัวหน่าว ทำหน้าที่ช่วยพยุงและยึดให้อวัยวะเพศอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
การตัดหรือปลดปล่อยเส้นเอ็นนี้จึงเปรียบเสมือนการปลดล็อกให้อวัยวะเพศสามารถยื่นออกมาได้มากขึ้น โดยไม่มีแรงดึงรั้งจากเส้นเอ็น จึงทำให้อวัยวะเพศดูยาวมากขึ้นในช่วงหย่อนตัว
โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดวิธีนี้สามารถเพิ่มความยาวอวัยวะเพศในช่วงหย่อนได้ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและเทคนิคของแพทย์ รวมถึงการดูแลหลังผ่าตัดด้วย
ขั้นตอนการผ่าตัดปลดเส้นเอ็น
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด แพทย์จะเช็ดทำความสะอาดและเตรียมอวัยวะเพศให้พร้อม ให้ยาชาเฉพาะจุดเพื่อระงับความรู้สึก หากต้องการดมยาสลบ ต้องย้ายไปทำในโรงพยาบาลพร้อมวิสัญญีแพทย์ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ขั้นตอนผ่าตัด แพทย์เปิดแผลเล็กบริเวณหัวหน่าวขนาดประมาณ 1-3 เซนติเมตร ตัดหรือปลดปล่อยเส้นเอ็นที่ยึดอวัยวะเพศออกจากกระดูกหัวหน่าว จากนั้นเย็บปิดแผลด้วยเทคนิคที่เหมาะสมและตรวจสอบความเรียบร้อย
- เทคนิคผ่าตัดแบบไม่มีแผลขนาดใหญ่ บางเทคนิคจะผ่าตัดพร้อมกับขริบเลเซอร์ไร้ปมไหม โดยใช้แผลเดียวกันกับการขริบผิวหนังเพื่อไม่ให้เห็นแผลชัดเจน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- นัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติการเจ็บป่วย แพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน รวมถึงการทำหัตถการหรือศัลยกรรมเกี่ยวกับอวัยวะเพศ เช่น เคยขริบ หรือเคยฉีดสารเติมเต็ม
- งดรับประทานยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามิน น้ำมันปลา สมุนไพร อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ และ 72 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ตามลำดับ
- พักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 8-10 ชั่วโมงก่อนวันผ่าตัด
- ควรมีญาติมาด้วยในวันผ่าตัดเพื่อช่วยดูแล
การดูแลหลังผ่าตัด
- นัดเปิดแผลหลังผ่าตัดในช่วง 3-5 วันแรก
- หลังเปิดแผลได้ 7 วัน สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงการถูสบู่บริเวณแผล
- ในช่วง 2-3 วันแรกควรสวมกางเกงในที่ใส่สบาย ไม่รัดแน่น
- หากมีอาการปวดบวม สามารถประคบเย็นและรับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผล หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผล
- ทายาขี้ผึ้งบางๆ บริเวณแผลเพื่อช่วยสมานแผล
- งดมีเพศสัมพันธ์ งดการช่วยตัวเอง รวมถึงงดกิจกรรมที่กดทับอวัยวะเพศ เช่น การขี่จักรยาน อย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อให้แผลหายดีและป้องกันการบาดเจ็บ
ผ่าตัดปลดเส้นเอ็น เจ็บไหม? อันตรายไหม?
การผ่าตัดปลดเส้นเอ็นจะใช้ยาชาเฉพาะจุด เพื่อระงับความรู้สึกบริเวณที่ทำหัตถการ ทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกดมยาสลบในโรงพยาบาลเพื่อให้หลับสนิทตลอดการผ่าตัดได้
หลังผ่าตัดอาจมีอาการปวด บวม หรือระบมบริเวณแผลซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำจากแพทย์ อาการปวดจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายเป็นปกติในไม่กี่วัน
แม้ว่าการผ่าตัดนี้จะปลอดภัย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือแผลหายช้าได้ โดยเฉพาะถ้าดูแลตัวเองไม่ถูกวิธี
นอกจากนี้ อาจเกิดผลข้างเคียงคือ มุมกระดกของอวัยวะเพศในช่วงหย่อนตัวจะลดลงจากประมาณ 120 องศา เหลือ 90 องศา แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศโดยรวม ความสำเร็จและความปลอดภัยขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์และการดูแลหลังผ่าตัด
2. การผ่าตัดดูดไขมันบริเวณหัวหน่าว / ยกกระดูกหัวหน่าว (Suprapubic Lipectomy / Pubic Lift)
การผ่าตัดดูดไขมันบริเวณหัวหน่าว หรือที่เรียกว่า Suprapubic Lipectomy / Pubic Lift คือการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณหัวหน่าวเหนือโคนอวัยวะเพศ ไขมันส่วนนี้มักปกคลุมและกดทับโคนอวัยวะเพศไว้ ทำให้อวัยวะเพศดูสั้นลงกว่าความเป็นจริง
เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีภาวะอวัยวะเพศฝังใน (Buried Penis) ซึ่งเกิดจากไขมันสะสมมากบริเวณหัวหน่าว หรือผู้ที่ต้องการปรับให้โคนอวัยวะเพศดูชัดเจนและเด่นขึ้น ผลลัพธ์ของการผ่าตัดจะช่วยเผยความยาวที่แท้จริงของอวัยวะเพศให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น โดยอวัยวะเพศอาจดูยาวขึ้นได้หลายเซนติเมตร ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ถูกกำจัดออกไป
ทั้งนี้ การผ่าตัดนี้ไม่ได้เพิ่มความยาวแกนอวัยวะเพศจริงโดยตรง แต่เป็นการช่วยปลดปล่อยให้อวัยวะเพศที่ถูกซ่อนอยู่ปรากฏออกมาได้มากขึ้น ส่งผลให้รูปลักษณ์โดยรวมดูสมส่วนและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการผ่าตัด
- เข้ารับการผ่าตัดในห้องผ่าตัด โดยใช้ยาชาหรือยาสลบตามความเหมาะสม
- แพทย์จะดูดไขมันส่วนเกินและปรับตำแหน่งผิวหนังบริเวณหัวหน่าว
- ใช้เทคนิคเย็บแผลอย่างระมัดระวังเพื่อลดแผลเป็นและบวมช้ำ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์ (หากต้องดมยาสลบ)
- งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวแก่แพทย์ให้ครบถ้วน
การดูแลหลังผ่าตัด
- รักษาความสะอาดบริเวณแผลอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการถูหรือขยี้แผล
- ประคบเย็นเพื่อช่วยลดบวมและช้ำในช่วงแรก
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักหรือออกกำลังกายที่มีแรงกดทับบริเวณหัวหน่าวอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์
- นัดหมายตรวจติดตามกับแพทย์ตามกำหนด
ผ่าตัดดูดไขมันบริเวณหัวหน่าว ยกกระดูกหัวหน่าว เจ็บไหม? อันตรายไหม?
การผ่าตัดดูดไขมันบริเวณหัวหน่าวมักทำได้ด้วยการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ จึงไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างผ่าตัด หลังผ่าตัดอาจมีอาการปวดบวมและระบมที่บริเวณแผล ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดและประคบเย็น อาการเหล่านี้มักดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์
ความเสี่ยงจากการติดเชื้อหรือแผลหายช้าเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อย และมักเกิดจากการดูแลแผลที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอาจมีบวมช้ำรอบๆ บริเวณผ่าตัด ซึ่งจะค่อยๆ หายไปตามธรรมชาติ การเลือกผ่าตัดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้
3. การผ่าตัดแก้ไขภาวะถุงอัณฑะรั้งอวัยวะเพศ (Penoscrotal Web Correction / Ventral Phalloplasty)
เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะที่ยื่นขึ้นมาติดหรือรั้งอยู่กับส่วนล่างของโคนอวัยวะเพศ ซึ่งภาวะนี้ทำให้อวัยวะเพศดูสั้นผิดปกติ และเคลื่อนไหวหรือยื่นออกมาได้ไม่เต็มที่
ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากภาวะแผลเป็นหรือการเจริญเติบโตผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น การผ่าตัดจะตัดและจัดรูปผิวหนังส่วนเกินหรือพังผืดที่รั้งออก เพื่อให้โคนอวัยวะเพศสามารถยื่นออกมาอย่างอิสระและดูโดดเด่นมากขึ้น
การผ่าตัดนี้เหมาะกับผู้ชายที่มีผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะยื่นขึ้นไปรั้งติดบริเวณใต้โคนอวัยวะเพศอย่างผิดปกติ ทำให้อวัยวะเพศดูสั้นและถูกดึงรั้ง คนที่รู้สึกว่าภาวะนี้ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์หรือประสบปัญหาเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ เช่น รู้สึกไม่สะดวกในการสวมใส่กางเกงในหรือการมีเพศสัมพันธ์ ผู้ที่มีปัญหานี้ตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลัง เช่น หลังอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดที่ทำให้เกิดพังผืดรั้งบริเวณดังกล่าว
หลังผ่าตัดผิวหนังถุงอัณฑะส่วนเกินจะถูกตัดออกและแผลถูกเย็บเรียบร้อย ทำให้อวัยวะเพศสามารถยื่นออกมาได้เต็มที่มากขึ้น ส่งผลให้อวัยวะเพศดูยาวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างหรือด้านข้าง เนื่องจากผิวหนังถุงอัณฑะไม่ได้ดึงรั้งโคนอวัยวะเพศอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดนี้ไม่ได้เพิ่มความยาวแกนอวัยวะเพศจริงๆ แต่เป็นการแก้ไขรูปร่างและตำแหน่งผิวหนังที่รั้งไว้ เพื่อให้รูปลักษณ์โดยรวมดีขึ้นและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ขั้นตอนการผ่าตัด
- ผ่าตัดขนาดเล็กโดยใช้ยาชาเฉพาะที่บริเวณที่มีผิวหนังรั้ง
- แพทย์จะตัดผิวหนังหรือพังผืดส่วนเกินออกอย่างระมัดระวัง
- ปรับรูปทรงผิวหนังบริเวณโคนอวัยวะเพศและถุงอัณฑะให้เรียบเนียน
- เย็บปิดแผลด้วยเทคนิคที่ช่วยลดแผลเป็นและบวมช้ำ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวแก่แพทย์อย่างละเอียด
- งดยาและอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้าตามคำแนะนำแพทย์
- ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการงดอาหารและน้ำ (ในกรณีที่มีการใช้ยาสลบ หรือยาชาเฉพาะที่ที่จำเป็น)
การดูแลหลังผ่าตัด
- รักษาความสะอาดแผลผ่าตัดและเปลี่ยนผ้าปิดแผลตามคำแนะนำแพทย์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจกดทับหรือกระทบต่อแผล เช่น การใส่กางเกงในรัดแน่น หรือกิจกรรมทางเพศ จนกว่าแผลจะหายดี (โดยทั่วไป 4-6 สัปดาห์)
- สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้หากมีอาการระบมหรือปวดบวม
- นัดพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามการฟื้นตัวและตัดไหมตามกำหนด
การผ่าตัดแก้ไขภาวะถุงอัณฑะรั้งอวัยวะเพศ เจ็บไหม? อันตรายไหม?
การผ่าตัดแก้ไขภาวะถุงอัณฑะรั้งอวัยวะเพศ ระหว่างการผ่าตัดแพทย์มักใช้ยาชาเฉพาะที่ ซึ่งจะช่วยระงับความรู้สึกได้ ส่วนหลังการผ่าตัดอาจมีอาการปวดบวมและระบมบริเวณแผลซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โดยอาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดทั่วไป อาการเจ็บจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายเป็นปกติภายในระยะเวลาไม่กี่วันจนถึงสองสัปดาห์
ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ แผลหายช้า หรือการเกิดพังผืดซ้ำ มีน้อยมาก หากมีการดูแลแผลอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์
นอกจากนี้การผ่าตัดยังไม่ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศหรือความรู้สึกของอวัยวะเพศ การเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการ และปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาก่อนการผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชาย
แม้การผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศจะช่วยเสริมความมั่นใจได้ แต่ก็ควรพิจารณาข้อจำกัดและประเด็นสำคัญต่างๆ ดังนี้
- ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จริง การผ่าตัดส่วนใหญ่จะเพิ่มความยาวในช่วงที่อวัยวะเพศหย่อนตัว (Flaccid State) เป็นหลัก โดยเฉพาะการผ่าตัดปลดเส้นเอ็น ขณะที่ความยาวในช่วงแข็งตัว (Erect Length) มักเพิ่มได้น้อยหรือแทบไม่เพิ่มเลย ขึ้นอยู่กับวิธีการและสภาพร่างกายของแต่ละคน
- ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แม้จะมีความปลอดภัยโดยทั่วไป แต่ก็ยังมีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ เลือดออก บวม ช้ำ หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดและชัดเจนก่อนตัดสินใจ
- ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด การผ่าตัดประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และส่วนใหญ่ไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพทั่วไป
- ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความยาวปกติ หลายคนอาจกังวลว่า ตัวเองมีอวัยวะเพศขนาดเล็ก ทั้งที่ในความเป็นจริงอาจอยู่ในเกณฑ์ปกติของขนาดเฉลี่ย การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น
ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการผ่าตัดเพื่อเพิ่มความยาว
นอกจากการผ่าตัดแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นที่สามารถพิจารณาได้ แม้ว่าผลลัพธ์อาจแตกต่างกันและต้องใช้ความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ เช่น
- การใช้อุปกรณ์ดึงถ่วง (Traction Device) อุปกรณ์นี้ออกแบบมาเพื่อยืดอวัยวะเพศอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ อาจช่วยเพิ่มความยาวได้เล็กน้อยในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลานานและความอดทนสูง
- การออกกำลังกายเฉพาะจุด (Jelqing Exercises) เป็นเทคนิคการนวดและกดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดและยืดเนื้อเยื่อ ถึงแม้มีผู้กล่าวอ้างถึงประสิทธิภาพ แต่ยังขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บหากทำไม่ถูกวิธี
การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศเป็นเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพร่างกายเฉพาะบุคคล รวมทั้งทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จริง
ผ่าตัดเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชายปลอดภัยไหม เห็นผลจริงหรือเปล่า? วิธีไหนเหมาะกับเรา? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชาย จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย