สำหรับใครที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ลองรักษาด้วยกินยา ฉีด PRP หรือทำเลเซอร์กระตุ้นเซลล์รากผมมาแล้ว ก็ยังไม่ได้ผลดี “การปลูกผม” อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยรักษาผมบาง ศีรษะล้านได้
แล้วการปลูกผมคืออะไร ปลูกผมมีแบบไหนบ้าง ใครที่เหมาะกับการปลูกผม HDmall.co.th ร่วมกับ June Clinic (จูนคลินิก) โดยคุณหมอแจ็คกี้ หรือ นพ. จักรี ฝ้ายเทศ จะพาคุณไปเจาะลึกกับการปลูกผมอย่างละเอียด
สารบัญ
- การปลูกผม คืออะไร?
- การปลูกผม มีกี่แบบ?
- คนไข้ที่มาปลูกผมกับ June Clinic ส่วนใหญ่จะทำเทคนิคไหน?
- ใครที่เหมาะกับการปลูกผม?
- ผมบางจากกรรมพันธ์ุ ปลูกผมได้ไหม?
- การเตรียมตัวก่อนการปลูกผม
- ปลูกผมเจ็บไหม?
- ขั้นตอนการปลูกผม ทำอย่างไรบ้าง?
- การปลูกผม ใช้ระยะเวลากี่ชั่วโมง?
- การดูแลตัวเองหลังปลูกผม
- ผลลัพธ์การปลูกผมเป็นอย่างไร?
- ปลูกผมที่ไหนดี?
การปลูกผม คืออะไร?
การปลูกผม (Hair Transplant) เป็นการทำศัลยกรรมในรูปแบบหนึ่ง โดยการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกที่บริเวณด้านหน้าที่มีลักษณะศีรษะล้าน ซึ่งการปลูกผมจะเป็นวิธีที่การเดียวที่สามารถรักษาปัญหานี้ได้
การปลูกผม มีกี่แบบ?
การปลูกผมในปัจจุบัน จะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
1. การปลูกผมเทคนิค FUT (Follicular Unit Hair Transplant)
เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบดั้งเดิม โดยแพทย์จะผ่าตัดยาวบริเวณหนังศีรษะด้านหลัง แล้วค่อยทำการตัดแบ่งเซลล์รากผมออกเป็นชิ้นๆ เพื่อนำกราฟต์ผมออกมาปลูกที่บริเวณด้านหน้า เป็นวิธีที่ได้ผลดี แต่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นยาวตามมาได้
2. การปลูกผมเทคนิค FUE (Follicular Unit Excision)
การปลูกผมเทคนิค FUE จะมีขั้นตอนการปลูกผมเหมือนกับ FUT เลย แต่จะแตกต่างกันตรงขั้นตอนการย้ายเซลล์รากผม
โดยการปลูกผมเทคนิค FUE นี้จะใช้เครื่องมือเจาะเซลล์รากผมออกมาแทนการตัดผิวหนังด้านหลังศีรษะ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องของรอยแผลเป็นยาวตามมา จะมีแค่แผลเป็นจุดเล็กๆ เท่านั้น อีกทั้งยังบาดเจ็บน้อย ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นานด้วย จึงทำให้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
คนไข้ที่มาปลูกผมกับ June Clinic ส่วนใหญ่จะทำเทคนิคไหน?
โดยปกติแล้ว หมอจะแนะนำให้ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE เพราะเป็นเทคนิคที่เจ็บน้อย ใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวที่ค่อนข้างสั้น อีกทั้งยังไม่มีปัญหาเรื่องของรอยแผลเป็นยาว ผมด้านหลังก็ขึ้นเป็นธรรมชาติจนแทบจะมองไม่ออกเลยว่าไปปลูกผมมา
ใครที่เหมาะกับการปลูกผม?
การปลูกผมจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องผมบาง ศีรษะล้าน ซึ่งอาจจะลองรักษาด้วยวิธีการอื่นมาแล้วไม่ได้ผล
ยกตัวอย่างเช่น ในผู้ชายที่จะมีลักษณะศีรษะล้านในรูปแบบตัว M (ผมเว้าเข้ามาจากด้านข้าง) หรือในรูปแบบตัว O (ผมล้านบริเวณกลางศีรษะ) ที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชายเข้าไปทำลายเซลล์รากผม วิธีการรักษาที่ดีที่สุดก็คือการย้ายเซลล์รากผมมาปลูกทดแทนบริเวณที่เซลล์รากผมถูกทำลายไปนั่นเอง
ผมบางจากกรรมพันธ์ุ ปลูกผมได้ไหม?
คนที่มีปัญหาผมบางจากกรรมพันธ์ุ และทำให้บางบริเวณของหนังศีรษะไม่มีเซลล์รากผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง หรือผู้ชาย ก็สามารถรักษาด้วยการย้ายเซลล์รากผมมาปลูกทดแทนได้
การเตรียมตัวก่อนการปลูกผม
ปกติแล้ว ทาง June Clinic จะมีการนัดผู้ป่วยเข้ามาประเมินก่อน โดยแพทย์จะตรวจสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผม รวมถึงวัดพื้นที่บริเวณที่ต้องการจะปลูกผมว่าต้องใช้กี่กราฟต์ และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็จะแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกผมเพิ่มเติม เช่น
- งดอาหารเสริม ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เลือดออกง่าย
- ใครที่โรคประจำตัว หรือแพ้ยา ก็จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ใครที่มีปัญหาหนังศีรษะอักเสบ หรือรังแค แพทย์จะจ่ายยาสระผมไปรักษาให้หายดีก่อน
สำหรับใครที่อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถนัดเข้าหมายเข้ามาตรวจที่ June Clinic ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปลูกผมเจ็บไหม?
สำหรับคนที่ฉีดยาชาแล้วไม่รู้สึกเจ็บก็จะถือว่าไม่เจ็บเลย แต่สำหรับใครที่ฉีดยาชาแล้วรู้สึกเจ็บก็จะบอกว่าเจ็บ แต่เป็นความเจ็บที่ทนได้ และระหว่างที่ปลูกผมทุกขั้นตอน หากต้องการยาชาเพิ่มก็สามารถแจ้งแพทย์ที่ทำการปลูกผมได้
ขั้นตอนการปลูกผม ทำอย่างไรบ้าง?
หลังจากที่แพทย์ตรวจประเมินสภาพผมและบริเวณที่จะปลูกผมแล้ว ก็จะนัดหมายวันปลูกผมต่อไป โดยในวันที่ปลูกผม คนไข้ก็สามารถมาที่คลินิกตามเวลานัดหมายได้เลย เจ้าหน้าที่จะพาไปกรอกประวัติคนไข้ และตัดผมบริเวณที่จะปลูกให้เรียบร้อย แล้วพาไปที่ห้องผ่าตัดปราศจากเชื้อ
สำหรับขั้นตอนการปลูกผมจะแบ่งเป็น 2 พาร์ตใหญ่ ๆ ดังนี้
พาร์ตที่ 1 : การคัดแยกเซลล์รากผมออกมา
- แพทย์จะทำการประเมินสัญญาณชีพก่อน หลังจากนั้นก็จะให้คนไข้นอนคว่ำ และฉีดยาชาเฉพาะที่ทั่วหนังศีรษะ
- ในระหว่างที่ทำการผ่าตัด คนไข้จะรู้สึกตัวตลอดเวลา หากอยากพัก ปวดเมื่อย หรืออยากเข้าห้องน้ำ ก็สามารถแจ้งได้เลย
- แพทย์จะทำการเจาะเซลล์รากผมออกมา ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- เมื่อคัดแยกเซลล์รากผมเสร็จแล้ว ก็จะให้คนไข้พักเบรกและรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง
พาร์ตที่ 2 : การปลูกผม
- ให้คนไข้นอนหงาย และวัดพื้นที่บริเวณที่จะปลูกผมอีกครั้ง โดยคนไข้ก็จะรู้ว่าทรงผมที่จะทำการปลูกเป็นทรงอะไร ผลลัพธ์ออกมาประมาณไหน
- หลังจากนั้นจะทำการฉีดยาชา แล้วทำการปักกราฟต์ผมบริเวณที่ต้องการ เป็นขั้นตอนการปลูกผมให้เรียบร้อย ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- เมื่อปลูกผมเสร็จแล้ว แพทย์จะตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะใส่ที่คาดผม และให้คนไข้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน
การปลูกผม ใช้ระยะเวลากี่ชั่วโมง?
ระยะเวลาในการปลูกผมขึ้นอยู่กับปริมาณกราฟต์ที่ต้องปลูก อย่างบริเวณที่จะต้องปลูกประมาณ 1500 กราฟต์ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง (รวมเวลาพักเบรก) หรือถ้าปลูกผมประมาณ 2,000-3,000 กราฟต์ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง (รวมเวลาพักเบรก)
ถ้ายิ่งนำกราฟต์ผมมาปลูกได้เร็วเท่าไหร่ ระยะเวลาที่กราฟต์ผมอยู่นอกร่างกายก็จะสั้นเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสสำเร็จผลก็จะมีมากขึ้น
ในขั้นตอนย้ายเซลล์รากผมนั้น จะต้องทำอย่างระมัดระวัง และรวดเร็วมากที่สุด เพราะเซลล์รากผมก็เหมือนกับเซลล์ๆ หนึ่งในร่างกายมนุษย์ ถ้าเกิดออกมานอกร่างกายแล้ว จะอยู่ได้ไม่ถึง 5 นาที จึงจำเป็นที่จะต้องรีบเอาไปแช่น้ำยาเพื่อให้เซลล์รากผมอยู่รอด ไม่อย่างงั้นก็จะทำให้ผลลัพธ์การปลูกผมออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
การดูแลตัวเองหลังปลูกผม
ในกรณีที่ทำงานในออฟฟิศ หลังจากที่ปลูกผมไปแล้วประมาณ 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปทำงานได้เลย แต่สำหรับใครที่ทำงานกลางแจ้ง จะต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1 เดือน ถึงจะสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
สำหรับการดูแลตัวเองหลังปลูกผม มีข้อควรระวังดังนี้
- เว้นการทำงานหนัก หรือออกกำลังกาย เพราะจะทำให้เกิดแรงดัน ซึ่งจะส่งผลให้กราฟต์ที่ปลูกไปหลุดออกได้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานของหมักของดอง ของแสลง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- งดโดนแดด โดนฝน เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- งดเล่นน้ำทะเล ออกแดดจัด เพราะอาจทำให้เกิดสิว และทำให้เกิดติดเชื้อได้
- งดย้อมผมในช่วง 1 ปีแรก เพราะจะทำให้ผลลัพธ์ในการปลูกผมไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
ผลลัพธ์การปลูกผมเป็นอย่างไร?
ผลลัพธ์ของการปลูกผม มีดังนี้
- วันแรกหลังปลูกผม จะมีตอผมขึ้นมาเล็กน้อย
- 14-30 วันหลังปลูกผม ผมจะเริ่มงอกยาวขึ้นมาเล็กน้อย
- 1-3 เดือนหลังปลูกผม จะเป็นช่วงที่เซลล์รากผมติดแล้ว ก็จะเริ่มมีการหลุดร่วง เหมือนต้นไม้ที่ทำการผลัดใบออก
- 4 เดือนหลังปลูกผม จะเริ่มมีผมงอกขึ้นมาใหม่ โดยในช่วงแรกลักษณะของผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะเป็นผมที่หยิกและหนา อาจจะไม่เหมือนผมเดิมของคนไข้ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ผมที่งอกขึ้นมาใหม่ก็จะกลับไปมีลักษณะเหมือนเส้นผมเดิม
- 1 ปีหลังปลูกผม ผมบริเวณที่ปลูกจะงอกขึ้นมาเป็นปกติ
ปลูกผมที่ไหนดี?
ในชีวิตของคนเรานั้น จะสามารถปลูกผมได้ไม่เกิน 2-3 ครั้ง จึงควรที่จะเลือกคลินิกปลูกผมให้ดี โดยจะต้องเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกผมจริงๆ จะต้องเช็กด้วยว่าแพทย์มีประสบการณ์ไหม ใช้เทคนิคปลูกผมอะไร มีเคสรีวิวมากน้อยเพียงดี และผลลัพธ์การปลูกผมของเคสรีวิวเป็นอย่างไร
ถ้าใครยังไม่รู้จะปลูกผมที่ไหนดี HDmall ขอแนะนำ ปลูกผมที่ June Clinic (จูนคลินิก) ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือถ้าตัดสินใจปลูกผมที่นี่ ฟรีค่ายาหลังปลูกผม และสระผมฟรีที่คลินิก
และถ้าใครที่รู้สึกกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เพราะที่ June Clinic (จูนคลินิก) สามารถผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน กับ HDPay ได้เลย
ข้อมูล June Clinic
- สถานที่ตั้ง: 1471/2 ซอย พัฒนาการ 31/1 แยก 4 , Bangkok, Thailand, 10250
- แผนที่: https://goo.gl/maps/AXBFjdHfvJVsEa6u6