Default fallback image

ชวนเข้าใจโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ให้ถูกใน 5 ข้อ

แทบทุกคนรู้จักสมองเสื่อม (Dementia) และอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) แต่บางส่วนอาจไม่รู้ว่าเป็นคนละโรคกัน แถมอาการขี้ลืมบ่อยก็ใช่ว่าจะเป็นโรค และเกิดกับคนสูงอายุเสมอไปด้วย

เชื่อว่ายังมีความเข้าใจผิดอีกมากที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับโรคทางสมองเหล่านี้ มาปรับความเข้าใจผิดเป็นถูกด้วย 5 ข้อนี้กันดีกว่า 

1. สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ไม่เหมือนกัน 

ข้อเท็จจริง: อาการสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์คล้ายกันมาก อาจทำให้ใครหลายคนคิดว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ 

อัลไซเมอร์เป็นโรคการทำงานของสมองนั้นถดถอยจากจำนวนเซลล์สมองที่ลดลง จนกระทบต่อสมองด้านความจำ โดยเป็นผลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความชรา พันธุกรรม การบาดเจ็บที่สมอง หรือปัญหาหลอดเลือดและหัวใจ 

ปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดการสูญเสียเซลล์มอง สมองฝ่อ เนื้อสมองลดลง และเกิดสมองเสื่อมในที่สุด อัลไซเมอร์ถือเป็นสาเหตุหลักของภาวะสมองเสื่อม โดยพบในคนสูงอายุได้มากถึง 60–80%

กล่าวง่าย ๆ คือ อัลไซเมอร์ทำให้เกิดสมองเสื่อม แต่สมองเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่เฉพาะกับอัลไซเมอร์เท่านั้น โรคสมองประเภทอื่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคพาร์กินสัน ก็ส่งผลให้สมองเสื่อมได้เช่นกัน

2. ขี้ลืมบ่อย อาจไม่ใช่อัลไซเมอร์ 

ข้อเท็จจริง: อาการขี้หลง ขี้ลืม นั้นมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือ อาการขี้ลืมทั่วไปตามวัย เนื่องจากร่างกายเสื่อมลงตามธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงหลังอายุ 60 ปี ทำให้สมองทำงานช้าลงหรือถดถอย แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ข้อสังเกตของขี้ลืมตามวัยคือ แม้จะหลงลืมชื่อคน ตำแหน่งที่เคยวางของ คำเรียกสิ่งของ หรือคิดได้ช้าลง แต่ถ้าได้รับการกระตุ้นหรือบอกใบ้ข้อมูล มักนึกออกหรือนึกขึ้นได้ในภายหลัง

อีกแบบคือ อาการลืมจากโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นผลจากความผิดปกติของเซลล์สมอง จนก่อให้เกิดอาการด้านความจำ มักทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้ยากลำบาก จนอาจต้องพึ่งพาคนดูแล

อาการอัลไซเมอร์จะสังเกตได้จาก ผู้ป่วยจะลืมแม้เหตุการณ์เพิ่งเกิดไม่นาน ชื่อหรือใบหน้าคนรู้จัก วันคืน หรือสถานที่ที่คุ้นเคยก็จำไม่ได้ ลืมทักษะการใช้ชีวิต อย่างหวีผม อาบน้ำ หรือใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เมื่อลืมแล้วจะไม่รู้ตัวว่าลืมอีกด้วย

ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ยังไม่ได้เฉพาะปัญหาความจำ หากอาการเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจเกิดปัญหาการคิด ตัดสินใจ การสื่อสาร รวมถึงพฤติกรรมและอารมณ์ด้วย เช่น พูดไม่รู้เรื่องหรือช้าลง คิดคำที่จะพูดไม่ออก ตัดสินใจได้ไม่ดีเหมือนเดิม เก็บเนื้อเก็บตัว อารมณ์เปลี่ยนเร็ว หรือซึมเศร้า

3. สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ไม่ได้เป็นความชราตามปกติ 

ข้อเท็จจริง: ความชราเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้การทำงานร่างกายเสื่อมลงตามวัย ขณะที่สมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ ถือเป็นภาวะผิดปกติทางกายอย่างหนึ่ง 

ไม่ได้หมายความว่า แก่ตัวไปแล้วจะทุกคนจะเป็นสมองเสื่อมกันหมด เพียงแต่ความชราช่วยเพิ่มโอกาสเป็นอัลไซเมอร์และสมองเสื่อมมากยิ่งขึ้น และที่จริงแล้ว อายุเท่าไหร่ก็เสี่ยงโรคได้ 

4. สมองเสื่อมก่อนวัยได้ ไม่เฉพาะคนแก่

ข้อเท็จจริง: เราอาจคุ้นเคยกับภาวะสมองเสื่อมในคนสูงอายุ แต่ที่จริงคนอายุน้อยก็เป็นสมองเสื่อมได้ โดยเรียกกันว่า ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย (Younger onset dementia) ในคนอายุ 14–65 ปี พบได้กว่า 8% จากผู้ป่วยทั้งหมด

โดยมีสาเหตุคล้ายกับคนสูงอายุสมองเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ เส้นเลือดในสมองผิดปกติ โรคทางสมอง พันธุกรรม การติดเชื้อที่สมอง การบาดเจ็บที่ศีรษะ ภาวะขาดวิตามินบางตัว การดื่มสุราเป็นประจำ การสูบบุหรี่ หรือผลข้างเคียงจากยา

5. สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ไม่ได้มีแค่ปัญหาความจำ

ข้อเท็จจริง: ความสามารถด้านความจำเป็นส่วนแรกที่ได้รับผลกระทบหลังเป็นอัลไซเมอร์และสมองเสื่อม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดอาการด้านอื่นตามมา เช่น  

  • ปัญหาการสื่อสาร พูดไม่รู้เรื่อง พูดช้า นึกคำที่จะพูดไม่ออก เรียงลำดับคำผิด เรียกชื่อสิ่งของไม่ถูก
  • ปัญหาการเรียนรู้ กลัวการเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ไม่เข้าใจการใช้งานโทรศัพท์ อุปกรณ์ต่าง ๆ หรือเรื่องซับซ้อน 
  • ปัญหาการวางแผนและตัดสินใจ ตัดสินใจผิดพลาด อย่างการนับ จ่าย หรือทอนเงิน ทำอะไรเป็นขั้นตอนไม่ได้ 
  • ปัญหาด้านพฤติกรรม ใส่ใจตัวเองน้อยลง ไม่หวีผม ไม่อาบน้ำ ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันไม่ได้ เก็บตัว แยกตัวจากสังคม 
  • ปัญหาด้านอารมณ์ อารมณ์แปรปรวน เศร้าซึม เฉยชา หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย วิตกกังวล ประสาทหลอนคิดว่าจะมีคนมาทำร้าย

ไม่อยากสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ทำยังไงดี

การทำนายโรคหรือประเมินความเสี่ยงของสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ผ่านการตรวจคัดกรอง มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษาได้เร็ว ชะลออาการให้ได้มากที่สุด และรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีไว้ได้ 

การตรวจคัดกรองโรคทางสมองจะแนะนำให้ตรวจในคนอายุ 60 ปีขึ้น หรือคนอายุต่ำกว่านั้น แต่อาจมีสัญญาณผิดปกติหรือมีความกังวล แพทย์อาจใช้หลายวิธีตรวจประกอบกัน เนื่องจากสาเหตุและปัจจัยที่เป็นไปได้นั้นมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น  

  • การซักประวัติและการตรวจร่างกายทั่วไป
  • การตรวจจากแพทย์เฉพาะทาง เช่น การตรวจทางระบบประสาทและสมอง หรือการตรวจภาวะทางอารมณ์และจิตใจด้วยนักจิตวิทยา
  • การตรวจในห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด การวัดระดับวิตามินหรือฮอร์โมนบางชนิด การตรวจยีนกลายพันธุ์หรือพันธุกรรม หรือการตรวจน้ำไขสันหลังหาสัญญาณการติดเชื้อ
  • การตรวจหาความผิดปกติในสมองผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น การตรวจ MRI Scan การตรวจ CT Scan การตรวจ PET Scan หรือการตรวจคลื่นไฟฟ้า (EEG)
  • การตรวจปัญหาสุขภาพอื่นที่เกี่ยวข้องกับสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ เช่น การตรวจเบาหวาน หรือการตรวจไขมันในเลือด

นอกเหนือจากการตรวจคัดกรอง เรายังควรดูแลตัวเองให้ครบทุกมิติ เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ ทานอาหารให้ครบและหลากหลาย เลิกสูบบุหรี่ เลิกเหล้า ผ่อนคลายความเครียด ทำกิจกรรมบริหารสมองอย่างเล่นเกมหรือดนตรี เพื่อลดความเสี่ยงของสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

ที่สำคัญหากมีอาการขี้หลง ขี้ลืมจนผิดปกติ หรือมีพฤติกรรมและอารมณ์เปลี่ยนไปจากเดิมจนคนรอบข้างสังเกตได้ แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรับการรักษาที่ตรงจุดต่อไป 

วันนี้วันอะไร จำกันได้ไหม? ถ้าจำไม่ได้ก็อาจถึงเวลาเช็กสุขภาพสมองกันหน่อย จิ้มเลย แพ็กเกจตรวจสมอง ที่ HDmall.co.th โปรดีสุดคุ้ม เลือกโรงพยาบาลใกล้บ้านได้เลย

Scroll to Top