Default fallback image

รู้ชัดวัคซีนบาดทะยักในเด็ก จำแค่ไหน ทำไมต้องฉีด

เราต่างรู้ถึงความอันตรายของบาดทะยักกันมานาน วัคซีนป้องกันบาดทะยักจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับเด็ก ที่มักเสี่ยงอาการรุนแรง หรืออย่างร้ายก็อาจเสียชีวิตได้เลย

มาดูกันว่า เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก แล้วต้องฉีดกี่เข็ม เด็กทุกคนฉีดได้ไหม แล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า เรารวบรวมข้อมูลมาฝากแล้ว!

รู้จักวัคซีนป้องกันบาดทะยักในเด็ก 

ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงบาดทะยัก (Tetanus) กันก่อน โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอันตรายที่ชื่อว่า คลอสทริเดียม เททานี (Clostridium tetani) พบได้ในดิน ฝุ่น มูลสัตว์ สนิม หรือสิ่งแวดล้อม  

เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล จะผลิตสารพิษเตตาโนพลาสมิน (Tetanospasmin) ที่ส่งผลต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ทำให้ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ตามปกติ อาการแรก ๆ ที่มักสังเกตได้ คือ คอแข็ง คอหดเกร็ง ขากรรไกรค้าง อ้าปากหรือกลืนลำบาก 

หลังจากนั้นจะมีอาการเกร็งแข็งในส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหลัง หน้าท้อง แขน ขา มือ เท้า และอาจมีอาการรุนแรงอื่น ๆ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ ความดันโลหิตสูง มีไข้ เหงื่อออกมาก ชัก หายใจลำบาก ลิ่มเลือดอุดตันในปอด ปอดอักเสบ กระดูกหัก และอาจเสี่ยงเสียชีวิตได้   

ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก จนถูกจัดเป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กไทยทุกคน 

วัคซีนป้องกันบาดทะยักมักอยู่ในรูปแบบวัคซีนรวม โดยฉีดร่วมกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ที่อันตรายไม่แพ้กัน อย่างคอตีบ (Diphtheria) บาดทะยัก (Tetanus) และไอกรน (Pertussis) ซึ่งแบ่งได้ออกเป็นหลายประเภท ได้แก่ 

  • วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนชนิดไร้เซลล์ (DTaP) 
  • วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ (DTwP) 
  • วัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap)
  • วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก (DT)
  • วัคซีนบาดทะยัก คอตีบ (Td)

วัคซีนป้องกันบาดทะยักในเด็ก ฉีดกี่เข็ม ฉีดเมื่อไหร่ดี

การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักนั้นเริ่มได้ตั้งแต่ยังเป็นทารกจนโตเป็นผู้ใหญ่ โดยใช้วัคซีนหลายประเภทต่างกันไปตามช่วงวัยและสภาวะสุขภาพของเด็กแต่ละคน ดังนี้

  • เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ควรฉีดวัคซีน DTaP จำนวน 5 เข็ม โดยฉีด 3 เข็ม เมื่ออายุ 2 เดือน, 4 เดือน และ 6 เดือน ต่อด้วยเข็มกระตุ้นอีก 2 เข็ม เมื่ออายุ 15–18 เดือน และ 4–6 ปี (เข็มกระตุ้นช่วงอายุ 4–6 ปี สามารถ ฉีด DTaP หรือ Tdap ก็ได้)
  • เด็กอายุ 7 ปี ขึ้นไป ควรฉีดวัคซีน Tdap หรือ Td เข็มกระตุ้น จำนวน 1 เข็ม เมื่ออายุ 11–12 ปี ไม่ว่าจะฉีด Tdap ตอนอายุ 4–6 ปี มาแล้วหรือไม่ก็ตาม
  • วัยรุ่นและผู้ใหญ่ ควรฉีดวัคซีน Tdap หรือ Td เข็มกระตุ้น จำนวน 1 เข็ม ทุก 10 ปี 

สำหรับเด็กที่แพ้วัคซีนป้องกันโรคไอกรนหรือไม่สามารถฉีดได้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วัคซีน DT ทดแทน วัคซีน DTaP

กรณีที่เด็กฉีดวัคซีนไม่ครบตามนัดหมายของแพทย์ สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนบาดทะยักเข็มที่พลาดไปได้เลย โดยไม่ต้องเริ่มฉีดใหม่ตั้งแต่เข็มแรก โดยเฉพาะหากฉีดครบ 3 เข็มแรกไปแล้วก็สามารถฉีดเข็มกระตุ้นต่อได้เลย  

นอกจากนี้ เด็กยังสามารถฉีดวัคซีนชนิดอื่น ๆ พร้อมกับวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรนได้ โดยแพทย์จะฉีดแยกกันให้ที่ต้นแขนคนละข้างนั่นเอง   

ใครไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก

หากเด็กมีปัญหาสุขภาพใด ๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ก่อน เพราะอาจจำเป็นต้องเลื่อนการฉีดไปจนกว่าจะหายดี หรือพิจารณาแล้วว่าปลอดภัยต่อร่างกายจึงจะสามารถฉีดได้ เช่น

  • โรคลมชัก หรือโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ 
  • กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré syndrome)
  • มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนบาดทะยัก หรือมีผลข้างเคียงรุนแรงหลังฉีดวัคซีน เช่น อาการปวด บวม หรือไข้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
  • อาการป่วยปานกลางถึงรุนแรงอย่างเฉียบพลัน

รวมถึงวัคซีนป้องกันบาดทะยักบางประเภท โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมรวมของวัคซีนไอกรน ไม่ควรฉีดในเด็กมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น  

  • โรคทางสมองที่มีอาการต่อเนื่อง เช่น อาการชักในเด็ก (Infantile spasms) หรืออาการชักที่ควบคุมไม่ได้ 
  • กลุ่มอาการทางสมอง ชัก หรือโคม่า หลังฉีดวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนภายใน 7 วัน 
  • โรคเลือดออกผิดปกติ เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
  • อาการแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนอย่างรุนแรง (Anaphylaxis) 

วัคซีนป้องกันบาดทะยักในเด็กมีผลข้างเคียงไหม

เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนในเด็กชนิดอื่น ๆ วัคซีนป้องกันบาดทะยักเองอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ แต่มักไม่รุนแรงและหายได้ในไม่กี่วัน เช่น มีไข้ ปวดหรือบวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ปวดข้อต่อ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ หรืออาเจียน 

ในบางกรณีอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงแต่พบได้น้อยครั้ง ควรไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เช่น

  • มีไข้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
  • เด็กร้องไห้ติดต่อกันนานกว่า 3 ชั่วโมง
  • ผื่นคัน อาการบวมบริเวณใบหน้า ลำคอ หรือลิ้น
  • มีปัญหาในการหายใจ หรือการได้ยิน
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง กลืนลำบาก
  • ชักภายใน 72 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน

นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักในเด็ก ผู้ปกครองต้องไม่ลืมสอนให้ลูกป้องกันตัวเองด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อให้ห่างไกลจากโรค เช่น ล้างมือให้สะอาด ไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น ใช้ช้อนกลางตักอาหาร และสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยหรืออยู่ในที่แออัด

ไม่ค่อยได้ข่าวคนเป็นบาดทะยัก แต่ใช่ว่าลูกเราจะปลอดภัย จองด่วน ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักในเด็ก จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้บ้าน ราคาดี มีให้เลือกครบที่ HDmall.co.th

Scroll to Top