herpes labialis disease definition scaled

เริมที่ปาก คืออะไร อันตรายจริงหรือไม่?

โรคเริมที่ปาก (Herpes Labialis) เป็นการติดเชื้อที่เกิดจาก Herpes Simplex Virus (HSV) ซึ่งทำให้เกิดแผลพุพองที่ริมฝีปากหรือรอบๆ ปาก บทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับลักษณะ อาการ และวิธีการรักษาเริมที่ปาก เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและจัดการกับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีคำถามเกี่ยวกับ เริม? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

เริมที่ปาก เกิดจากสาเหตุอะไร?

เริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus ไวรัสชนิดนี้จะมี 2 ชนิด คือ HSV-1 ที่ทำให้เกิดเริมที่ปาก  หรือบริเวณอื่นๆ บนผิวหนัง และ HSV-2 ที่ทำให้เกิดเริมที่อวัยวะเพศ 

โดยเริมจะแพร่กระจายจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อไวรัสทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การทำออรัลเซ็กส์ การจูบผู้ติดเชื้อ การทาลิปสติกแท่งเดียวกัน หรือการดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเริมที่ปากได้

ลักษณะของเริมที่ปาก

ลักษณะเริมที่ปากของแต่ละคนนั้นจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่สังเกตได้ คือ เริมจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสๆ ขนาดเล็ก ที่จะเรียงตัวกันเป็นกลุ่มบริเวณรอบๆ ริมฝีปาก บนริมฝีปาก ภายในช่องปาก หรือบนใบหน้าได้เช่นกัน

มีคำถามเกี่ยวกับ เริม? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

เริมที่ปาก มีอาการอย่างไร? 

  • เกิดตุ่มพองน้ำใสๆ ขนาดเล็กเป็นกลุ่ม บริเวณริมฝีปาก
  • มีอาการเจ็บปวด แสบ คัน บริเวณริมฝีปาก
  • เมื่อตุ่มน้ำแตกออก ก็อาจมีการลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง
  • มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามตัว

เริมที่ปาก รักษาหายไหม?

เริมที่ปาก เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้  ไวรัสยังคงอยู่ในร่างกาย โดยจะหลบซ่อนอยู่ในระบบประสาทและสามารถกลับมาเกิดขึ้นใหม่ได้ในอนาคต เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด, การเจ็บป่วย, หรือแสงแดดที่แรง การเป็นเริมที่ปากจึงทำได้เพียงแค่ควบคุมและบรรเทาอาการ เพื่อลดอาการรุนแรงของแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น 

เริมที่ปาก กี่วันหาย?

อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น แสบ คัน หรือปวด จะค่อยๆ ดีขึ้น ประมาณ 3-4 วันแรก และแผลเริมก็จะเริ่มแห้งตกสะเก็ดและหายไปเองภายใน 7-14 วัน ซึ่งการฟื้นตัวของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและความสม่ำเสมอในการดูแลรักษาแผล

เริมที่ปาก กลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่? 

โรคเริมที่ปาก สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ถ้าหากมีปัจจัยมากระตุ้นจนทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ซึ่งปัจจัยที่พบบ่อยๆ ได้แก่

  • ความเครียด
  • การสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน
  • การเจ็บป่วยจากโรคอื่น เช่น ไข้หวัด 
  • ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • การผ่าตัดที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท

วิธีรักษาเริมที่ปาก 

  • รักษาได้ด้วยยาต้านไวรัสทั้งชนิดรับประทาน และชนิดทา ได้รับการสั่งจากแพทย์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแกะเกาแผล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
  • ประคบเย็นด้วยน้ำเกลือประมาณ 5-10 นาที บริเวณที่เป็นเริม
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเริมที่ปาก

การป้องกันไม่ให้เกิดเริมที่ปากสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ 

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
  • งดการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก 
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดเริมที่ปาก เช่น ความเครียด 
  • กินอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย 
  • กรณีที่เริมที่ปากกลับเป็นซ้ำมากกว่า 6 ครั้งต่อปี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรับประทานยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค

ใครที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเริม และกำลังมองหาโปรแกรมแพ็กเกจตรวจ อย่ารอช้า! เลือกดูโปรโมชันสุดคุ้มจากคลินิกใกล้บ้านคุณ ตรวจเร็ว รู้ผลไว สะดวกสบายฟังผลออนไลน์ได้ จองบริการ แพ็กเกจตรวจโรคเริม ได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th คลิกเลย!

มีคำถามเกี่ยวกับ เริม? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ