ภาพจำของโรคงูสวัด (Shingles) อาจทำให้หลายคนนึกถึงอาการผื่นแดงขึ้นตามตัว เมื่อไรที่ผื่นขึ้นรอบตัวสองด้านแล้วมาชนกันจะเป็นเหตุให้คนที่เป็นงูสวัดเสียชีวิต แท้จริงแล้วมันเป็นแบบนั้นจริงไหม และยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับโรคงูวัดที่คนมักเข้าใจคาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง
มาคลายข้อสงสัยของโรคงูสวัดและวัคซีนงูสวัดไปพร้อมกัน เรื่องที่รู้มาเป็นจริงหรือเท็จกันนะ จะได้ดูสุขภาพร่างกายของเราอย่างถูกทางและถูกวิธีกัน
สารบัญ
1. งูสวัดเป็นโรคอีสุกอีใสของผู้ใหญ่?
ตอบ โรคงูสวัดและโรคอีสุกอีใสเป็นคนละโรค แต่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดตัวกัน คือ วาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella zoster virus: VZV) และเกิดในช่วงเวลาต่างกัน คนที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ย่อมเสี่ยงกับโรคงูสวัดในช่วงที่อายุมากขึ้นด้วย
หลังหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อนี้จะหลบอยู่ในร่างกายได้นานเป็นสิบ ๆ ปี พอร่างกายอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันลดลง เชื้อจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นก่อให้เกิดโรคงูสวัด อาการเด่นของโรคงูสวัด จะพบตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกระจุกตามแนวเส้นประสาท ร่วมกับอาการปวดแสบปวดร้อน
อ่านเพิ่มเติม: เริมและงูสวัด เทียบความเหมือนและความต่าง แยกได้ก็หายไว
2. งูสวัดเกิดกับผู้สูงอายุอย่างเดียว?
ตอบ โรคงูสวัดเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัยที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน มักพบในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอายุมากกว่า 65 ปี เพราะอายุที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายเสื่อมถอย ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ส่งผลให้เชื้อ VZV ที่หลบในร่างกายกลับมาก่อโรคได้อีกครั้ง
ส่วนคนอายุน้อยกว่าอาจมีไลฟสไตล์การใช้ชีวิต หรือปัญหาสุขภาพ ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอจนเชื้อก่อโรคขึ้นได้ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน มีความเครียดสะสม พักผ่อนน้อย หรือไม่ออกกำลังกาย
นอกจากนี้ ทารกหรือเด็กที่เคยติดเชื้อ VZV หรือแม่ติดเชื้อ VZV ขณะตั้งครรภ์ ทำให้ทารกหรือเด็กคนอาจเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้เหมือนกัน
3. งูสวัดเป็นแล้วอันตรายถึงชีวิต พันรอบตัวแล้วตาย?
ตอบ อาการเด่นของโรคงูสวัดคือ เป็นผื่นแดงตามแนวเส้นประสาทข้างใดข้างหนึ่ง บริเวณหลัง ท้อง ลำคอ หรือใบหน้า และดวงตา ก่อนจะกลายเป็นตุ่มน้ำพองใสแล้วแตกออกเป็นแผลตกสะเก็ด ร่วมกับมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้หรือไฟลวก
ผื่นแดงหรือตุ่มน้ำพองมักเกิดตามแนวเส้นประสาทเพียงข้างเดียว แต่บางคนอาจเกิดขึ้นตามลำตัวทั้งสองข้าง ทำให้ดูเหมือนงูพันรอบตัว แล้วความเชื่อที่ว่างูสวัดพันรอบตัวทำให้เสียชีวิตนั่นก็ไม่เป็นความจริง
ส่วนมากเหตุผลที่โรคงูสวัดเป็นอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต มักมาจากภูมิคุ้มกันร่างกายที่ลดต่ำลง ร่วมกับภาวะแทรกซ้อนจากตัวโรค เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และอื่น ๆ
4. งูสวัดเป็นแล้วไม่ต้องหาหมอ หายเองได้?
ตอบ จริงอยู่ว่าโรคงูสวัดสามารถหายได้ภายใน 3–5 สัปดาห์ แต่การไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมกับแต่ละคน จะช่วยให้หายจากโรคได้ไวขึ้น ยิ่งเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงดี ก็อาจหายได้ภายใน 1–2 สัปดาห์ หลังได้รับการรักษาภายใน 48–72 ชั่วโมงนับจากเริ่มมีอาการ
รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัด เช่น ความผิดปกติทางระบบประสาท หรืออาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อ (Postherpetic neuralgia: PHN) ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการปวดนานหลายเดือนแม้จะหายจากโรคแล้ว
5. วัคซีนงูสวัดฉีดเข็มเดียว?
ตอบ ปัจจุบันวัคซีนงูสวัดมีอยู่ 2 ชนิด คือ วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดชนิดเชื้อเป็น (Zoster vaccine live: ZVL) ฉีด 1 เข็ม แนะนำให้ฉีดในคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ทั้งเคยมีประวัติเป็นอีสุกอีใสและไม่เคยเป็นอีสุกอีใส
อีกชนิดเป็นวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดชนิดเชื้อตาย หรือซับยูนิต (Recombinant subunit zoster vaccine: RZV) แนะนำให้ฉีดในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม แต่ละเข็มห่างกัน 2–6 เดือน หรือคนอายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ฉีด 2 เข็ม แต่ละเข็มห่างกัน 1–2 เดือน
6. ฉีดวัคซีนอีสุกอีใส ป้องกันโรคงูสวัดได้?
ตอบ แม้ว่าวัคซีนอีสุกอีใสจะป้องกันการติดเชื้อชนิดเดียวกันกับโรคงูสวัดได้ แต่ไม่สามารถนำมาใช้แทนกันได้ คนที่ได้รับวัคซีนอีสุกอีใสยังเป็นโรคงูสวัดได้อยู่ แต่ความเสี่ยงของการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคงูสวัด จะน้อยกว่าการติดเชื้อเองตามธรรมชาติ
7. งูสวัดเป็นแล้วหาย ไม่เป็นซ้ำ?
คนที่เคยเป็นโรคงูสวัดมาแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ แม้ว่าจะหายจากโรคแล้ว อาจมีอาการเจ็บปวดจากภาวะเส้นประสาทอักเสบ (PHN) อยู่ โดยเฉพาะคนอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะเส้นประสาทอาจยังฟื้นตัวไม่ดี
ทางที่ดีควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดหลังหายจากโรคอย่างน้อย 6 เดือน วัคซีนงูสวัดจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ป้องกันการอาการปวดปลายประสาทหลังจากโรคงูสวัด และลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคด้วย
รู้ยัง! งูสวัดมีวัคซีนป้องกันนะ เช็กแพ็กเกจวัคซีนงูสวัดใน HDmall.co.th ให้คุณเปรียบเทียบราคา เลือกคลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านในราคาพิเศษ ถูกกว่าจองตรงชัวร์